แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เอเอฟเอฟ ซูซุกิคัพ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เอเอฟเอฟ ซูซุกิคัพ แสดงบทความทั้งหมด
วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สกู๊ปวิเคราะห์บอลพิเศษสำหรับฟุตบอลไทยและ คำพูดของโค้ชซิโก้

เมื่อต้นกล้ากำลังเกิด ก็อย่าเพิ่งเร่งให้โตไวนัก






ซึ่งหลังจากจบภารกิจพิชิตแชมป์แบบสุดระทึก ทีมชาติไทยเดินทางมาถึงมาตุภูมิ ห้วงเวลานี้คือการเดินสาย ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน

ในขณะเดียวกันการเตรียมทีม ชุดแห่งอนาคตนี้ ได้ถูกยิงคำถามว่า เราจะไปบอลโลกใช่หรือไม่?

ก็ต้องขอบอกว่า ใจเย็นเย็นครับลูกเพ่! มันยังไม่ใช่เวลานี้ครับ...

หลังจากที่เราเพิ่งวิ่งชนความสำเร็จ พร้อมกับเสียงชื่นชมจากคนทั่วทั้งประเทศ ไม่ผิดหรอกครับที่หลายคนจะมองไกลไปถึงฟุตบอลโลก




เพียงแต่ ผมขอบอกได้เลยว่า มันยังไม่ใช่เวลาอันใกล้นี้หรอก เราต้องค่อยๆ ขยับไปทีละขั้น จะดีกว่าครับ

เริ่มแรกที่ทัวร์นาเม้นท์ ปลายปีหน้าก่อนเลยดีกว่าใน ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่แดน ลอดช่อง ประเทศสิงคโปร์

นัดนี้ผมขอบอกว่าทีมฟุตบอลทีมชาติไทย กับ การป้องกันแชมป์ จะจัดหนักจัดเต็มอย่างแน่นอน!

ซึ่งทำไม? ผมถึงมั่นใจและกล่าวเช่นนั้นออกมา

ก็แหม จะไม่ให้พูดวิเคราะห์ผลบอลแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเหลือบไปมองรายชื่อผู้เล่นจากชุด แชมป์ซูซูกิคัพ 2014 หนนี้ ที่บรรดานักเตะเลือดหนุ่มที่อายุยังน้อย พวกเขามีโอกาสได้ลงวาดลวดลายใน ศึกซีเกมส์ปลายปีหน้า ได้กว่าครึ่งทีมเลยทีเดียว


  • ชนินทร์ แซ่เอียะ อายุ 22ปี
  • พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา อายุ 21ปี
  • อดิศร พรมรักษ์ อายุ 21ปี
  • นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม อายุ 20ปี 
  • ธนบูรณ์ เกษารัตน์ อายุ 21ปี
  • อาทิตย์ ดาวสว่าง อายุ 22ปี 
  • สารัช อยู่เย็น อายุ 22ปี
  • ชาริล ชัปปุยส์ อายุ 22ปี 
  • ชนาธิป สรงกระสินธ์ อายุ 21ปี 
  • อดิศักดิ์ ไกรษร อายุ 23ปี





และส่วนรายชื่อนักเตะ ชุดแชมป์โปรแกรมบอลซีเกมส์ ที่ประเทศเมียนมาร์ คนที่สามารถเล่น ศึกซีเกมส์ ที่ประเทศสิงคโปร์ได้อีกก็มีดังนี้


  • นูรูล ศรียานเก็ม อายุ 22ปี 
  • ภิญโญ อินพินิจ อายุ 22ปี 
  • ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ อายุ 21ปี 
  • สุริยา สิงห์มุ้ย อายุ 19ปี 
  • ปกรณ์ เปรมภักดิ์ อายุ 21ปี 
ซึ่งถ้าดูจากฟอร์ม และ กระแสของฟุตบอลไทยเวลานี้ เมื่อเห็นรายชื่อของพวกเขาแล้ว

แล้วถ้าจะบอกว่าเราเป็น ทีมเต็ง 1 ของซีเกมส์ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง แถมรายชื่อเหล่านี้ ยังไม่รวม ดาวรุ่ง ดาวโรจน์ ที่กำลังรอเวลาโผล่ขึ้นมาอีกนะครับ

ตัวผมเชื่อลึกๆ ว่า ขอเพียงแค่เราไม่ประมาท เก็บตัวอย่างต่อเนื่อง พยายามหาแมตช์อุ่นเครื่องไม่ให้ขาด รับรองนักเตะ ชุดแห่งอนาคต คงจะหยิบแชมป์ซีเกมส์ มาให้ประเทศไทยได้ไม่ยาก




และส่วนเรื่องการลงคัดเลือกบอลโลก 2018 ในช่วงปลายปีหน้า ผมเห็นด้วยกับประโยคของ ซิโก้ ที่บอกว่า ต้นกล้ากำลังเกิด อย่าเพิ่งเร่งให้โตไวนัก

ซึ่งเราอย่าเพิ่งรีบร้อนไปเลยครับ เพราะนักเตะชุดนี้ยังรอคอยเวลาเติบใหญ่อย่างแข็งแกร่ง เรื่องการได้ไปโลดแล่นใน ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ยังเป็นเรื่องยากอยู่มหาหินเฉกเช่นเดิม

ถ้าหากทีมชาติไทย นั้นพยายามสร้างทีมชุดนี้ ให้ยกระดับขึ้นไปอยู่แนวหน้าของเอเชียให้ได้เสียก่อน จากนั้นการมองไปถึงการเข้ารอบบอลโลกรอบสุดท้าย ค่อยมาว่ากันอีกที

คำที่ว่า บอลไทยไปบอลโลก ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากทุกส่วนทุกฝ่ายไม่ช่วยกันลงมือทำ

ส่วนไอ้คนที่เอาแต่พูด เอาแต่ด่าว่า ไร้สาระ บอลไทยเนี่ยนะ จะไปบอลโลก ผมขอเถอะครับ! บางครั้งมันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมานะ

ถ้าจะติเพื่อก่อ อันนี้ผมว่าน่าเคารพ แต่ไอ้พวกที่วิจารณ์แบบไร้เหตุและผล โดยหารู้ไม่ว่า ตัวเองกำลังโชว์รอยหยักในสมองอันน้อยนิดออกมา ผมว่าก็หยุดเถอะครับ




ซึ่งสุดท้าย เรื่องบอลโลก กับ ทีมชาติไทย ผมยกเอาตัวอย่างที่น่าชื่นชมอย่าง ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขาเองก็สร้างทีมมานานกว่า 30 ปี ก่อนที่พวกเขาจะได้ไปเชิดหน้าชูตาในรอบสุดท้ายของศึกลูกหนังโลกได้

ประเทศไทยเราเองก็เช่นกัน การได้เริ่มต้นนับ1..2....3 แบบวันนี้ ในสักวันนึง เราจะไปถึงฝั่งฝันที่ไม่ใช่แค่เรื่อง เพ้อเจ้อ อีกต่อไป

เรื่องโดย : บ.ส้มซิ่ง



โค้ชซิโก้ คือหนึ่งความภูมิใจของวงการฟุตบอลไทย





สำหรับศึกที่เพิ่งจบไปหมาดๆ กับการทวงบัลลังก์แชมป์จ้าวอาเซียน ของเหล่าขุนพลนักเตะ ทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าแชมป์ซูซูกิคัพ 2014 ปิดฉากการรอคอยมาถึง 12 ปีเต็มได้อย่างงดงาม

แต่ก็กว่าจะได้มา ทำเอาดราม่าสุดๆ เหมือนกัน หลังถูกทัพ ทีมเสือเหลืองถลุง นำ 3 - 0 ก่อนที่จะฮึดกลับมาสู้ซัดสองลูกรวดในช่วง 10 นาทีสุดท้าย นั่นทำให้ผลรวม 2 นัด ไทยนำผลบอล 4 - 3 และกลับมาเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด เล่นเอาแฟนบอลชาวไทยใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียว




ซึ่งงานนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับหัวจิตหัวใจนักเตะไทยที่ แกร่งเยี่ยงเพชร และยังมีสปิริตยืนหยัดสู้จนวินาทีสุดท้าย โดยนี่ก็ถือเป็นการคืนความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศในอีกรูปแบบหนึ่ง

เพียงแต่ถ้าจะยกให้ โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็น แมน ออฟ เดอะ เยียร์ ผมก็มั่นใจได้เลยว่าแฟนบอลชาวสยามประเทศคงไม่ปฎิเสธกับตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน

และเนื่องด้วยผลงานอันสุดสะเด่านับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วกับการซิวแชมป์ ศึกลูกหนังซีเกมส์ ต่อด้วยการคว้าแชมป์อันดับที่ 4 ในศึกเอเซียนเกมส์ ล่วงเลยจนมาถึง ศึกซูซูกิ คัพ 2014 มันทำให้คนไทยมีความสุขมาโดยตลอดกับ การนั่งดูทีมไทยลงเตะ

แต่ใครจะรู้ไหมครับ กว่าอดีตศูนย์หน้าตัวเก่ง ของเมืองไทยจะมาถึงขนาดนี้ได้ต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง แน่นอนกับการตัดสินใจเข้ามาเป็นโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ก็เหมือนการสวมหัวโขนที่ต้องคอยกำกับและกระตุ้นนักเตะในทีมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้




ด้วยเหตุผลที่เรื่องที่จะต้องแบกรับความกดดันจากการคาดหวังจากหลายๆ ด้าน รวมถึงแฟนบอลชาวไทยที่อยากเห็นสำเร็จในทุกๆ รายการที่แข่งขัน

และถ้าเราจะให้มองถึงการคุมทีมชาติไทยนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย โดยเฉพาะการคัดเลือกนักเตะที่มาจากหลายๆ สโมสร ซึ่งอาจจะเป็นซุปตาร์ของสังกัดนั้นๆ แน่นอนระบบแท็กติกการเล่นก็จะแตกต่างกันไป

และแถมยังเลือกมาก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์แบบ เพราะต้องมาขัดเกลาหลอมรวมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและรู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเองทั้งในและนอกสนาม ซึ่งก็ถือว่าทำได้ยากกับแข้งวัยรุ่นช่วง 20 ต้นๆ

เพียงแต่ว่า ด้วยคาแร็กเตอร์ส่วนตัวของ โค้ชซิโก้ ที่มีพื้นฐานดีเยี่ยมในด้าน ระเบียบวินัย มันเลยเป็นจุดแข็งที่ติดตัวมาโดยตลอด ครั้งยังเป็นนักเตะจนทำให้กลายเป็น 1 ในสุดยอดศูนย์หน้าที่ดีที่สุดของเมืองไทยคนนึง




และรูปแบบการสร้างทีมที่เห็นได้ชัด คือไม่นิยม เด็กเส้นเด็กฝาก เหมือนโค้ชต่างชาติที่เคยผ่านมา ที่สามารถลบภาพฟุตบอลไทยเก่าๆ ได้อย่างราบคาบ

โค้ชโก้ใช้ความเข้าใจในบุคลิกภาพของนักเตะและประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่กับลูกกลมๆ ที่หาไม่ได้จากชั้นเรียน มาปรับเปลี่ยนแก้ไขและถ่ายทอดสู่นักเตะในทีมได้อย่างลงตัว

ซึ่งจากที่เมื่อก่อนทีมชาติไทยที่สภาพเหมือน ผู้ป่วยอาการโคม่า ที่รอวันตายอย่างเดียว กลับคึกคักขึ้นมาอีกครั้งอย่างภาพที่เราได้เห็นกันไป




เพียงแต่ว่าภายใต้การคุมทีมของอดีตศูนย์หน้าจอมตีกาคนนี้ นั่นทำให้คนไทยเริ่มมีศรัทธากลับมาพร้อมกับความหวังถึงความสำเร็จในเกมระดับชาติอย่างการไปเล่นฟุตบอลโลกที่ชาวไทยหลายคนอยากสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต

และสิ่งนี้มันก็มีโอกาสเหมือนกัน หากเรารักษาระดับการเล่นแบบนี้ เล่นให้มันส์ เล่นให้สนุก เล่นให้เต็มที่จนวินาทีสุดท้าย

ซึ่งหากเป็นไปได้อยากให้นักเตะชุดนี้เล่นกันไปเรื่อยๆ จะได้รู้ใจกันมากขึ้น เพราะมันคือสิ่งสำคัญของคำว่า ทีมเวิร์ค

โดยที่สิ่งนี้นี่คือสาเหตุทั้งหมด ที่ว่าทำไม โค้ชซิโก้ ถึงเป็นหนึ่งในความภูมิใจฟุตบอลไทยและเป็นขวัญใจของแฟนบอลไทยทั้งประเทศไปโดยปริยาย




โดยที่สุดท้ายนี้ยังไงก็ต้องขอขอบคุณ โค้ชซิโก้ และบรรดานักเตะรวมถึงสตาฟฟ์โค้ชในทีมทุกคน ที่ช่วยกันพาทีมคว้าแชมป์ซูซูกิคัพ หนนี้

ผมก็ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่ามากๆ และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศจะจดจำไปอีกนานแสนนาน



เรื่องโดย : มิดไนท์
วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฟุตบอลไทย: รวมข่าวบอลไทย นัดไทย vs มาเลเซีย 2-0

มาดูคลิปไฮไลท์ ไทย ถล่มมาเลย์ 2 - 0 ซูซูกิคัพนัดแรกกันดีกว่า




หลังจากจบเกมนัดแรกไปพร้อมกับความสะใจของเหล่าแฟนบอลไทย หลังทีมชาติไทย ไล่อัด ทีมเสือเหลือง มาเลเซีย 2 - 0 ในศึก ฟุตบอล ซูซูกิคัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ


งั้นเราลองมาดูคลิปไฮไลท์ ชัยชนะของทีมชาติไทย กันอีกครั้งดีกว่า





คลิปไฮไลท์ฟุตบอล ทีมไทย ถล่ม ทีมมาเลย์ 2 - 0 รอบชิงชนะเลิศ ซูซูกิคัพ 2014 นัดแรก


มาดูกันจะๆ จังหวะที่ทีมชาติไทยเล่นลิงชิงบอลถึง 22 ครั้ง!!




เราลองมาดูกันอีกทีกับจังหวะต่อบอลสุดเหนือชั้นของ ทีมขุนพลช้างศึก ในช่วงท้ายเกม ที่เล่นงานนักเตะ ทีมเสือเหลือง แบบงงเต๊กทั้งทีม ก่อน ชัปปุยส์ ได้จบจังหวะสุดท้าย แต่เสียดายที่ บอลไม่ตรงกรอบแต่ว่าได้ใจแฟนบอลไปเลยทั้งสนาม

ซึ่งเหตุการณ์สุดสวยเกิดขึ้นในนาทีที่ 88 ของเกม ขณะที่ทีมชาติไทยนำทีมชาติมาเลเซียอยู่ผลบอล 2 - 0 เมื่อขุนพลช้างศึกขึ้นเกมจากกลางสนามในแดนตัวเอง ต่อบอลสไตล์ที่เรียกว่า "ติกิ-ตาก้า" แบบเหนือชั้น

และในจังหวะนี้นักเตะไทยสัมผัสบอลและส่งให้กันถึง 22 ครั้ง ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์ กองกลางตัวเก่งของทีมได้โอกาสสับไกยิงในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายที่ถูกผู้เล่นมาเลเซียเข้ามาบีบ ทำให้ยิงเฉียดเสาออกหลังไปแบบได้ลุ้น พร้อมเสียงปรบมือกึกก้องทั่วสนาม

เราลองมาชมจังหวะที่สวยงามและเปี่ยมไปด้วยทีมเวิร์คนี้ชัดๆ อีกครั้งกันนะครับ





และนอกเหนือจาก 2 ประตูของทีมไทย นี่สุดยอดช็อตประจำเกมนี้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว



จัดคะแนนความสามารถของนักเตะไทย หลังเกมอัดมาเลย์ 2 - 0 รอบชิง ซูซูกิคัพ 2014




จบไปพร้อมกับความสะใจของ แฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศ หลังทีมชาติไทย ไล่อัด ทีมเสือเหลือง มาเลเซีย 2-0 ในศึก ฟุตบอล เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก

ซึ่งผลจากชัยชนะในเกมนี้ ทำให้โอกาสที่ไทยจะก้าวไปคว้าแชมป์มีสูงมาก ที่สำคัญเราไม่เสียประตูซะด้วยซิ

ถ้าดูจากฟอร์มสุดเริ่ดของนักเตะจากสยามประเทศ คงต้องบอกว่าเล่นกันได้อย่างถูกใจพระเดชพระคุณจริงๆ

และวันนี้เราก็ยังมีวิเคราะห์บอลคะแนนความสามารถของนักเตะทุกๆคนในสนาม มาฝากกัน เช่นเคยนะครับ




เราลองมาดูคะแนนความสามารถนักเตะไทย คะแนนเต็ม 10 คะแนน

มาเริ่มที่คนแรกเลย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : การอ่านเกมและการตัดสินใจออกมาตัดบอลใน หลายๆครั้งของ เจ้าตอง นั้นตอกย้ำว่าฉายา เทพกวินทร์บินได้ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย หากแต่มันมาเพราะฝีมือของเขาอย่างแท้จริง
เล่นได้แบบนี้ก็เอาไปเลยครับคะแนน : 9/10

คนที่สอง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา :  แบ๊กซ้ายตีนระเบิด จากทีมบีอีซีฯ สำหรับในเกมนี้ เขาได้พิสูจน์ผลงานในสนามได้อย่างดี แม้การเติมเกมในแนวรุกในวันนี้จะยังน้อยไปหน่อย แต่เกมรับของเขาก็แสดงให้เห็นว่า แบ็คซ้ายทีมชาติไทยเวลานี้ต้องยกให้เขาคนนี้จริงๆ
คนนี้ก็เอาไปเลยคะแนน : 9/10

คนที่สาม สุทธินันท์ พุกหอม : เขาใช้ประสบการณ์ที่สะสมมาตลอดชีวิตการค้าแข้ง เกมวันนี้ กองหลังตัวเก่งจาก ทีมชลบุรี เอฟซี โชว์ศักยภาพความนิ่งและตัดบอลได้หลายต่อหลายครั้ง
คะแนน : 9/10

คนที่สี่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ : ในช่วงแรกดูจะไม่นิ่ง แต่หลังจากปรับจูนได้ ทุกอย่างก็อยู่ในการควบคุมของ ธนบูรณ์ ที่สำคัญการอ่านเกม และการเข้าปะทะในจังหวะที่พอดิบพอดี คือสิ่งที่แฟนบอลได้เห็นในเกมนี้
คะแนน : 9/10

คนที่ห้า นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม : สุดยอด แบ๊คขวาพลังเทอร์โบ วิ่งไม่มีหมด ความฟิตที่มีเกิน 100 เปอร์เซนต์ วิ่งอย่างไรก็ไม่หมด โดยเฉพาะในครึ่งหลัง ผลงานเข้าตาดีเหลือหลาย
เอาใจไปเลยคะแนน : 9/10




คนที่หก ชาริล ชัปปุยส์ : มิดฟิลด์ขวัญใจสาวๆ ไม่ได้มีดีแค่ความหล่อ วันนี้ลูกครึ่งไทย - สวิส รายนี้ ฟอร์มเด่นกว่าหลายๆ นัด ทั้งทักษะฟุตบอลที่หาตัวจับได้ยาก แถมซัดประตูปลดล็อกให้ทีมชาติไทย ทำให้ทุกอย่างอยู่ในกำมือของทีมในทันที
คะแนน : 10/10

คนที่เจ็ด สารัช อยู่เย็น : เรียกได้ว่า เขาเป็น มดงานตัวจริงเสียงจริง ซึ่งคงต้องยกให้เจ้าหมอนี่ สารัช อยู่เย็น คือมนุษย์ที่ทำงานหนัก และทุ่มเทเหลือเกิน การตามเก็บกวาดผู้เล่น ทีมมาเลเซีย ก่อนที่จะมาถึงกองหลัง คือจุดเด่นที่หาตัวจับยาก และเวลานี้เขาคนนี้ คือตัวตัดเกมที่ดีที่สุดของเมืองไทยไปแล้ว
ให้คะแนน : 10/10




คนที่แปด เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ : หรือ เจ้าก้อง แม้ว่า จะดูหนืดๆ ในช่วงต้นเกม แต่ครึ่งหลังปรับรูปแบบการเล่นได้ดี ลูกยิงแบบเข้าขารู้ใจกับ ชนาธิป ในลูก 2 - 0 เป็นอะไรที่ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ
เอาไปเลยคะแนน : 9/10

คนที่เก้า มงคล ทศไกร : หลังจากลงสนามมา ก็มาบีบมานวด จนแนวรับเสือเหลืองอ่อนปวกเปียก ทำผลงานตามหน้าที่ที่ได้รับมาอย่างขยันขันแข็ง แม้ฟอร์มจะไม่โดดเด่นอะไรมาก แต่มงคล ก็รักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้ดีเช่นเคย
ส่วนตัวผมให้คะแนน : 9/10

คนที่สิบ ชนาธิป สรงกระสินธ์ : หรือ เมสซี่ไทยแลนด์ หลังจากได้โชว์ความจี๊ดจ๊าดตลอดทั้งเกม การไปกับบอลด้วยความเร็ว ฉีกกองหลังมาเลย์เป็นริ้วๆ และลูกจ่ายแบบใจกว้างให้กับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ทำประตู มันเป็นอะไรที่บ่งบอกว่าไอ้หมอนี่ไม่ธรรมดาจริงจริ๊ง!
เอาไปเลยคะแนน : 10/10

คนที่สิบเอ็ด อดิศักดิ์ ไกรษร : หลังจากที่เพิ่งพ้นโทษแบนกลับมา ก็ลงมาสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้มาเยือนในทันที ลูกหนักลูกใหญ่ คือจุดเด่นของเจ้ากอล์ฟ การเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ลำบาก เขาทำได้ไม่มีที่ติ น่าเสียดายที่ลูกหลุดเดี่ยวในท้ายครึ่งแรก ไม่เป็นประตู แต่แค่นี้ก็ถือว่าเขาทำตามเป้าหมายของตัวเองได้เป็นอย่างดี
ให้คะแนน : 9/10

คนที่สิบสอง ประกิต ดีพร้อม : เรียกได้ว่า เป็นยอดตัวสำรองในเกมนี้ เพิ่งลงมาก็ป่วนแนวรับของมาเลย์ในทันที ยิ่งลูกจ่ายให้เจ้าเจ หลุดไปเปิดให้เจ้าก้อง ส่องประตูที่ 2 มันตอกย้ำว่าเขาคือพ่อหนุ่มเท้าชั่งทองจริงๆ
เอาไปเลยคะแนน : 9/10

คนที่สิบสาม อดุลย์ หละโสะ : เขาลงมาทำหน้าที่แทนรุ่นน้องอย่าง สารัช และ อดุลย์ หละโสะ ก็ไม่ได้โชว์ผลงานอะไรมากนัก แต่การคุมจังหวะเกมที่ดี น่าจะเป็นอะไหล่ชิ้นดีของทีมชาติไทยในยามที่ไม่มีสารัช อยู่เย็น แน่นอน
ให้คะแนน : 9/10



และคนสุดท้ายที่เราจะขาดไม่ได้เลย สำหรับ โค้ชเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ซึ่งเป็นกุนซือผู้เต็มไปด้วยมาดของผู้นำ ซึ่งเดินหน้าทำผลงานได้ดีจนเป็นที่ยอมรับ เกมนี้โค้ชโก้วางหมากได้อย่างยอดเยี่ยม ทีเด็ดจากการเปลี่ยนตัวของเขา นั้นคืออาวุธร้ายที่คู่แข่งต้องขยาด

และชายคนนี้นี่แหล่ะคือ ผู้ที่ปลุกวงการโปรแกรมฟุตบอลไทยให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ที่สำคัญการได้เห็นเด็กๆ ของเขาเล่นบอลในจังหวะเดียว จนเกือบเป็นที่มาของประตู 3 - 0 เป็นอะไรที่เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น กับรูปแบบการเล่นเฉกเช่นนี้
คนนี้จะมีกี่คะแนนก็ไม่พองั้นเอาไปเลย : 100/100


ที่มาโดย บ.ส้มซิ่ง

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สื่อมาเลย์ จวก โค้ชซิโก้ หยิ่งหรือขี้ขลาด!

สื่อมาเลย์ จวก โค้ชซิโก้ หยิ่งหรือขี้ขลาด!




หลังจากที่ได้ กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที ที่ โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นั้นไม่ได้ออกมาแถลงข่าวก่อนเกม ทำให้สื่อฟุตบอลมาเลย์ได้พาดหัวข่าวตัวโตว่า หยิ่งหรือขี้ขลาด

ทั้งนี้การแถลงข่าววิเคราะห์บอลก่อนเกมรอบชิงชนะเลิศ ศึกซูซูกิคัพ 2014 ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย เมื่อวานที่ผ่านมา โค้ชเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้ส่ง โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารกัปตันทีม มาร่วมกันแถลงข่าว

โดยที่ผู้สื่อข่าวมาเลเซีย นั้นพยายามที่จะถามจี้ ถึงเรื่องการไม่ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเองของ โค้ชซิโก้ ซึ่งทาง โชคทวี พรหมรัตน์ นั้นได้ตอบเพียงสั้นๆ ว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ทุกคนมีหน้าที่ช่วยงานหัวหน้าโค้ช

เขาได้กล่าวว่า พวกเราทำงานกันเป็นทีม โค้ชเองมีหน้าที่คุมทีม ส่วนทางด้าน สต๊าฟฟ์เองก็มีหน้าที่ช่วยงานโค้ช และรับคำสั่งมาปฏิบัติตาม อดีตปราการหลังทีมชาติไทยกล่าว

และจากประเด็นนี้ทำให้ สื่อของมาเลเซีย หลายสำนัก นำไปตีข่าว และ พาดหัวข่าวว่า กุนซือทีมชาติไทยว่า Graeme arrogance or cowardice? หรือแปลว่า หยิ่ง หรือ ขี้ขลาดกันแน่? ที่ไม่ยอมออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้

ซึ่งในโปรแกรมบอลเกมนัดชิงชนะเลิศ นัดแรก ของ ศึกฟุตบอลไทย เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 จะมีขึ้นในเย็นวันนี้ เวลา 19.00 นาฬิกา ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ศึกฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2014 เป็นยังไงกันบ้างไปดูกันเลย!!!

รายงานสด ศึกฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2014




ชมรายงานสด ศึกฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2014


  • แข่งรอบแรก กลุ่ม B นัดที่ 2
  • ทีมชาติไทย vs ทีมชาติมาเลเซีย
  • วันที่แข่ง วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2557
  • แข่งที่สนาม : จาลัน เบซาร์
  • ช่องที่ถ่ายทอดสด : 1.ช่อง 7 สี, 2.ทรูวิชั่นส์ ช่อง Foxsport2



สำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2014 รอบแรกกลุ่ม B นัดที่ 2 ของทีมช้างศึก ทีมชาติไทย ลงสนามพบ ทีมเสือเหลือง มาเลเซีย ที่สนามจาลัน เบซาร์ วันนี้

หากทีมชาติฟุตบอลไทยเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ ก็จะลอยลำเข้ารอบเป็นทีมแรกของกลุ่มนี้ในทันที




มาดูรายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติไทย

เล่นในระบบ 4-3-3

  1. กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์  ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
  2. นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม   ตำแหน่ง กองหลัง
  3. ธนบูรณ์ เกษารัตน์           ตำแหน่ง กองหลัง
  4.  อดิศร พรหมรักษ์            ตำแหน่ง กองหลัง
  5. ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา ตำแหน่ง กองหลัง
  6. ชาริล ชัปปุยส์                  ตำแหน่ง กองกลาง
  7. สารัช อยู่เย็น                    ตำแหน่ง กองกลาง
  8. ชนาธิป สรงกระสินธ์         ตำแหน่ง กองกลาง
  9. เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์       ตำแหน่ง กองหน้า
  10. ศราวุฒิ มาสุข                   ตำแหน่ง กองหน้า
  11. กีรติ เขียวสมบัติ               ตำแหน่ง กองหน้า


นี่คือสถิติการพบกัน ในฟุตบอลชิงแชมป์ อาเซียน คัพ

โดยการพบกันทั้งหมด 10 ครั้ง

  1. ไทย ชนะ 5 ครั้ง 
  2. มาเลเซีย ชนะ 2 ครั้ง 
  3. เสมอ 3 ครั้ง



  1. ทีมชาติไทย เสมอ ทีมชาติมาเลเซีย 1-1 รอบแรก ปี 1996
  2. ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติมาเลเซีย 1-0 รอบชิงฯ ปี 1996
  3. ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติมาเลเซีย 2-0 รอบรองฯ ปี 2000
  4. ทีมชาติมาเลเซีย ชนะ ทีมชาติไทย ผลบอล 3-1 รอบแรก ปี 2002
  5. ทีมชาติมาเลเซีย ชนะ ทีมชาติไทย 2-1 รอบแรก ปี 2004
  6. ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติมาเลเซีย 1-0 รอบแรก ปี 2007
  7. ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติมาเลเซีย 3-0 รอบแรก ปี 2008
  8. ทีมชาติไทย เสมอ ทีมชาติมาเลเซีย 0-0 รอบแรก ปี 2010
  9. นัดแรก ทีมชาติมาเลเซีย เสมอ ทีมชาติไทย 1-1 รอบรองฯ ปี 2012
  10. นัดสอง ทีมชาติไทย        ชนะ ทีมชาติมาเลเซีย 2-0  รอบรองฯ ปี 2012


วงซีล ส่ง MV เพลงเหยียบดาว ปลุกใจทีมชาติไทย




วงดนตรี ซีล นั้นเป็นวงร็อคชื่อดังของไทย ได้ส่งเพลง เหยียบดาว ที่มีเรื่องราวการฝึกซ้อมของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นตัวเอกของเรื่องราว ให้แฟนบอลทั่วประเทศ และนักกีฬาได้ชมก่อนทีมลงแข่งศึกซูซูกิคัพ วันนี้กับมาเลเซีย

หลังจากที่ ซีล วงร็อคชื่อดังของเมืองไทย สังกัดค่าย WE Records ได้นำเพลง เหยียบดาว มาทำใหม่ในสไตล์ของตนเอง และได้นำเรื่องราวของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย มาเป็นตัวเอกของมิวสิควิดีโอ ในเพลง และได้เผยแพร่มิวสิควิดีโอดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา




มาดูมิวสิควิดีโอเพลง เหยียบดาว



วงซีล

ซึ่งเพลงนี้ถือว่าออกมาได้ถูกช่วงเวลา เมื่อ ทัพช้างศึก ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย นั้นต้องลงสนามทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากที่ห่างหายจากแชมป์ไปถึง 12 ปี

โดยได้ส่งเพลง และเนื้อหาจากมิวสิคที่มีความหมายนัยหนึ่งสื่อถึง การมุ่งไปข้างหน้า ผนวกกับความตั้งใจของนักฟุตบอลทีมชาติชุดนี้ ที่มุ่งมั่นเดินตามความฝัน โดยมีความหวังของคนไทยทั้งประเทศเป็นเส้นชัย เป็นกำลังใจ

และทีมฟุตบอลทีมชาติไทย นั้นจะพกความมั่นใจ และแรงใจจากแฟนฟุตบอล ลงสนามพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในวันนี้ 26 พฤศจิกายน เวลา 16.00 นาฬิกา


Comment แฟนบอลเสือเหลืองก่อนฟัดทีมช้างศึก





กระแส ศึกเอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2014 ฟีเวอร์ หลังจากโปรแกรมบอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขุนพลช้างศึก ของเราประเดิมสนามนัดแรก ด้วยการชนะเจ้าภาพ ประเทศสิงคโปร์ ไปได้ 2-1 แบบสะใจแฟนบอล

เราลองมาดูความเห็นของเหล่าแฟนบอลทีมชาติมาเลเซีย ก่อนพบทีมชาติไทยว่าจะเป็นยังไง

ซึ่งหลังจากที่นัดแรกที่ผ่านมา ทีมเสือเหลือง นั้นทำได้เพียงเสมอ ทีมเมียนมาร์ 0-0 ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างบีบคั้น ต้องเอาชนะไทยเราให้ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบต่อไป


comment แฟนบอลคู่แข่ง เขาคิดกันอย่างไร เชิญติดตามครับ

1.โพสโดย Mohamad Azizul

  • ทีมชาติไทยเป็นทีมที่ดี ทางเรามีนักเตะที่ไม่สมบูรณ์ เกมนี้เราจะเป็นรองเขาแน่นอน


2.โพสโดย Omar Casablancas

  • ก็ต้องฝากเด็กๆ แก้แค้นเมื่อ2ปีที่แล้วให้หน่อยนะ หวังว่าจะทำให้แฟนบอลประทับใจ


3.โพสโดย Syaban Zau

  • สำหรับเกมเมื่อวาน ไทยครองบอลได้เหนือกว่าเจ้าภาพ จบสกอร์น่ากลัวมากๆ ระวังเมสซี่เขาให้ดีๆ


4.โพสโดย Muhammad Shahrizal Abdullah II

  • นี่คือ ข้อบกพร่องของไทยชุดนี้อยู่ที่แผงหลังของเขา แผงหลังเขาช้า เราต้องใช้ความเร็ว และหน้าอย่าใช้โอกาสเปลือง


5.โพสโดย Arman Aam

  • ตัวโค้ชเขาใช้แท็กติกแพรวพราวมาก เราอย่าเดินตามเกมของเขา ไทยชุดนี้จุดเด่นอยู่ที่การครองบอล


6.โพสโดย Amirul Syafiq

  • ตัวกองกลางลูกครึ่งเขาวางบอลแม่นมาก ระวังให้ดี ถึงว่าหน้าเขาจะไม่มีความเร็ว แต่ตัวสอดแทรกคือ เมสซี่ของเขา


7.โพสโดย Mohd Shakir Chelsea

  • ถ้าฝั่งเราเล่นอย่างมีระบบ อดทน ผมว่าเราสู้ไทยได้นะ


8.โพสโดย Muhd Saufi Noor Ezan

  • เราต้องโยนบอลจากด้านข้าง นั่นคือจุดอ่อนของแผงหลังไทย


9.โพสโดย Jamhuri Nawi

  • ทีมไทยยังมีจุดบกพร่องอยู่ที่กองหลัง นั่นแหละ ที่เราจะต้องทำมันให้ได้ แต่หลังเราก็อย่ารั่วนะ


10.โพสโดย Muhammad Hasib

  • ต้องบอกตรงๆ ตูกลัวไทยหว่ะ แต่ตูว่านักเตะเราก็สู้เพื่อชาติไม่แพ้กัน


11.โพสโดย Amir Imran Musi

  • กลัวจะเละเทะนะสิ


12.โพสโดย Hanif Ifdzal

  • หวังว่านักเตะเราจะไม่เล่นโง่ๆ เหมือน2ปีที่แล้วนะ


13.โพสโดย Ammer Shah

  • ด้านประสิทธิภาพของไทยดีกว่า2ปีที่แล้วมาก ซึ่งผมหวังว่าเราจะเก็บแต้มจากพวกเขาได้นะ


14.โพสโดย Amir Muizzuddin

  • ขอให้นักเตะเราอย่าขี้ขลาดตาขาวพอ ทีมไทยนะเว้ยยย ไม่ใช่ทีมบาร์ซ่า จะกลัวกันทำไมวะ


15.โพสโดย Raja Faizal Adzim

  • ทีมเรามาเจอทีมไทยชั่วโมงนี้ ตูอยากจะเอาหน้ามุดดินว่ะ นัดแรกถ้าเราชนะ นัดนี้เราคงอุดยันเสมอก็ได้ล่ะ


16.โพสโดย Ahmad Robani

  • เป็นเพราะนัดแรกแท้ๆ ผู้ตัดสินแม่มมมม ตูมาเจอไทย ถ้าตูแพ้ ก็รอตกรอบซินะ


17.โพสโดย Azmir Aznan

  • ขอให้ผู้ตัดสินแฟร์ ก็พอ ห้ามพกใบแดง ห้ามเป่าจุดโทษ ขอแค่นี้แหละ


18.โพสโดย Ehh Alfakir

  • ผมล่ะกลัวนักเตะเราจะโดนใบแดง โดนใบแดงมันทุกนัด จะเตะหนักไปไหน


19.โพสโดย Amali Afiq

  • ถ้าทำอารมณ์ แท็คติก เล่นตามแผน ผมว่าเรามีสิทธิ์ชนะ


20.โพสโดย Muhammad Affendy

  • มั่นใจว่าโค้ชของเรา เราต้องเล่นตามเกม ขออย่างเดียว เตะอย่างมีสติ