วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ดู คีย์แมนสำคัญ ของทีมผีแดงก่อนศึกวันแดงเดือด!

มาดูคีย์แมนสำคัญ ของผีแดง ก่อนศึกวันแดงเดือด!






    สมมตจะวิเคราะห์บอลก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยากจักเอื้อนเอ่ยกล่าวคำไม่รับได้นะครับ ว่าชัยชนะเหนือ ฝ่ายไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส 3 - 0 ปางคืนวันอาทิตย์ที่พ้นมา ถือเป็นเกมที่เหล่าปิศาจแดง หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา

  ซึ่งขนาดพี่ ไข่มุกดำ คอลัมนิสต์คนดังของ สื่อฮอตสกอร์ ยังกล่าวยกย่องด้วยกันซูฮกทะลวงคอลัมน์ของตัวเองว่านี่คือเกมที่ดีที่สุดของ เหล่าปิศาจแดง นับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ว่าได้

  พร้อมด้วยก็เป็นที่ แน่นอนว่า ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม จนได้รับ ชัยชนะ ที่สวยงามหมดจดดังกล่าว มันก็ทำให้ยอดแข้งของ เหล่าปิศาจแดง ยังได้รับคำชื่นชมพร้อมกับกล่าวขวัญถึงอย่างคึกคักจากบรรดาแฟนฟุตบอลของหมู่ รวมถึงบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่และอดีตนักเตะคนสำคัญของ คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันไปถ้วนหน้า

  เพราะว่าเพื่อคนที่ดูจะได้รับ คำชื่นชมพร้อมด้วยจับตามองมากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้น มารูยาน เฟลไลนี มิดฟิลด์หัวฟูร่างโย่งชาวเบลเยี่ยม

  แต่ว่าสมมตินั่นหาใช่เหมือนแค่เพราะว่าพี่โย่งหัวฟูศักยกดประตูออกนำให้กับทีมได้ไม่ใช่หรือเพราะว่าเจ้าตัวได้รับการแสดงความชื่นชม จากเหล่าแฟนบอลสาวกปิศาจแดง ในสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

  ก็เพราะว่าด้วยการยืนขึ้นปรบมือไม่ก็ที่เรียกเป็นภาษาฝรั่งมังค่าว่า Standing Ovation ตราบตอนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในช่วงท้ายเกม

   


  หรือว่า แม้ว่ากระทั่งเพราะว่าเจ้าตัวได้รับการโหวตจากแฟนบอลพร้อมทั้งสื่อมวลชนให้ดำรงตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมทช์ เท่านั้น

  แต่ทว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้ เฟลไลนี่ ได้รับคำชื่นชมและจับตามองอย่างมากก็ เพราะว่าว่าจากเกมดังกล่าว มิดฟิลด์ชาวเบลเยี่ยมผู้นี้ได้แสดงให้เห็นว่าเขาคือคีย์แมนสำคัญของกลุ่ม ปิศาจแดง ที่จักขาดไม่ได้แล้วภายใต้ระบบการเล่นของ หลุยส์ ฟาน กัล ณ ขณะนี้

  แต่เหมือนก็เพราะว่าเหตุใดกัน นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ไม่เข้าท่า จนถึงขั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม กับสีเสื้อของ กรุ๊ปปิศาจแดง นับตั้งแต่เคลื่อนย้ายมาร่วมฝ่ายเท่าที่ฤดูกาลก่อน

  แถมท้ายยังต้องมาได้รับบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาลกระทั่งมีข่าวว่าจักถูกขายออกจากกลุ่มด้วยซ้ำ ถึงได้กลับมาผงาดขึ้นมาเป็นคีย์แมนสำคัญให้กับ คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้

  อีกหนึ่ง ความเห็นที่น่าสนใจมาจาก ฟิล เนวิลล์ อดีตนักเตะกับสตาฟโค้ชของ พวกปิศาจแดง ที่กล่าวกับทะลุทะลวงสื่อชื่อดังของอังกฤษอย่าง บีบีซีถึงเหตุที่ทำให้ เฟลไลนี นั้นกลายเป็นคีย์แมนสำคัญของ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ เวลานี้

  โดยที่ เนวิลล์ ผู้น้อง อธิบายกล่าวไว้ว่าที่ เฟลไลนี รอบรู้ผงาดเป็นคีย์แมนสำคัญของ ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้นั้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน

   


  พร้อมทั้งอย่างแรกเลยเป็นก็เพราะว่า หลุย ฟาน กัล กุนซือชาวดัตช์ของกลุ่มกล้าที่จักใช้ จุดแข็ง ของ เฟลไลนี นั่นคือความแข็งแกร่งของร่างกายมาเป็นส่วนสำคัญในแทคติคการทำเหล่าของตัวเอง

  ถึงแม้จะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์มากแค่ไหนก็ตาม กับ เฟลไลนี ก็ดูเหมือนจะตอบแทนความไว้วางใจของกุนซือชาวดัตช์ได้เป็นอย่างดี

  พร้อมด้วยอย่างที่สองก็เพราะระบบ ไดเร็ค ฟุตบอล ที่เน้นการครอสบอลจากด้านข้างสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ

  เป็นการที่หลุย ฟาน กัล เลือกระฉ่อนกใช้อย่างเป็นเรื่องปกติในฤดูกาลนี้นั้น เอื้ออำนวยต่อสไตล์การเล่นของ เฟลไลนี ที่มีศักยภาพในการสอดขึ้นมาหาจังหวะเข้าทำที่เยี่ยมยอดบริเวณกรอบเขตโทษ

  พร้อมกับก็อย่างที่สาม นั่นก็ก็เพราะว่า เฟลไลนี นั้นถูกส่งลงไปยืนในตำแหน่งที่ตัวเขาถนัดที่สุดกับเป็นตำแหน่งประจำในพวกชาติเบลเยี่ยม นั่นคือมิดฟิลด์ Box to Box

  กับก็เหมือนอย่างในเกมกับ คณะสเปอร์จะเห็นได้จากภาพแผนผังตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุดของ เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดว่า เฟลไลนี นั้นยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลางแต่จักอยู่ทางฝั่งซ้าย

   


    ซึ่งก็มี อันเดร์ เออร์เรร่า อยู่ทางฝั่งขวากับมี ไมเคิล คาร์ริค ยืนห้อยต่ำลงมา ด้วยการยืนในลักษณะดังกล่าว ทำให้ เฟลไลนี เก่งเป็นมิดฟิลด์ Box To Box ที่เล่นเกมรุกกับเกมรับได้ง่ายขึ้น

  ถ้าจักให้พูดง่ายๆ ก็คือในจังหวะ กลุ่มสเปอร์ส เป็นฝ่ายครองบอล เฟลไลนี จะถอยตัวเองลงมาประกบกับ ไรอัน เมสัน มิดฟิลด์ของสเปอร์สกับคอยหาจังหวะแย่งบอลพร้อมกับทำลายเกมรุกของ พวกสเปอร์ส

  แต่ว่าครั้งจังหวะทีเหล่าปิศาจแดงเป็นฝ่ายครองบอล เฟลไลนี จะถีบตัวเองเติมเกมรุกหนีห่างจาก เมสัน เพื่อหาที่ว่างพร้อมกับนั่นก็นำมาซึ่งประตูแรกของ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่นเอง

  โดยจากเหตุผลทั้งหมดที่ ฟิล เนวิลล์ ได้อธิบายมาจึงทำให้ ณ ห้วงเวลานี้ มารูยาน เฟลไลนี กลายเป็นนักเตะคีย์แมนคนสำคัญที่ พวกปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะขาดไม่ได้แล้ว

  พร้อมกับแน่นอนว่าในเกมบุกเยือนรังแอนฟิลด์ของ ทีมลิเวอร์พูล เพื่อทำ ศึกแดงเดือด สุดอาทิตย์นี้ เฟลไลนี จะเป็นนักเตะที่ ทีมหงส์แดง จะต้องเตรียมตัวมารับมือให้ได้เป็นอย่างดี

  เพราะไม่เช่นนั้นเจ้าถิ่นมีหวังต้องน้ำตาตกใน แน่นอน

  และโปรแกรมบอลศึกวันแดงเดือด ฝ่ายลิเวอร์พูล พบ ทีมแมนฯยุไนเต็ด จะแข่งในวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมนี้ เวลา 20.30 น ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 3 ออร์จินัล พร้อมกับ ช่อง 3 HD

ที่มา: http://sport.sanook.com/139629/

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

เก็บตกฟุตบอลซูเปอร์ซันเดย์?

เก็บตกฟุตบอลซูเปอร์ซันเดย์?





วิเคราะห์ผลบอล: ถึงแม้ว่าจะได้มาเหมือนแต้มเดียว พลาดการสปีดหนีฝ่ายที่ตามหลังมาแบบไม่เห็นฝุ่น ทว่าทุกอย่างเหตุด้วยฝ่ายเชลซียังคงกระจ่างใส

ซึ่งในขณะที่ ผีแดงได้ 3 แต้มที่งดงามในเกมเจอคณะสเปอร์ส หนึ่งในงานหนักด้วยช่วงเวลานี้ กำลังใจพร้อมทั้งโมเมนตั้มดูดีมาก

ข้อแรก... หลุยส์ ฟาน ฮัล

การที่ป็นกุนซือผีแดงกลับมาจากฟุตบอลโลกด้วยศรัทธาที่แรงกล้าในความประสงค์จะใช้งานแนวรับ 3 คน ตระเวนปรีซีซั่นด้วยการเล่นอย่างที่ตั้งใจ ทว่าออกสตาร์ทได้ไม่นาน ผลงานไม่เป็นอย่างที่คาด ต้องสลับมาใช้บริการมิดฟิลด์ไดมอนด์

ซึ่งหลุยส์ ฟาน ฮัล จำเป็นต้องปรับปรัชญาในการเล่นของเหล่าไปเรื่อย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จนล่าสุดเจอไก่เดือยทองปรับอีกครั้งมาเล่นระบบ 4-3-3




พร้อมด้วยแนวคิดของ ฟาน ฮัล คงไม่ต้องการเปลี่ยนเท่าไหร่ แต่สถานการณ์บังคับ นั่นทำให้โปรแกรมบอลเกมแดนกลางดีขึ้นตราบใดมีคนช่วยงานกัน 3 คน ในขณะที่เกมริมเส้นก็ยังคงมีอยู่

มีการเล่นหลากหลายพร้อมกับไหลลื่นมากขึ้น นาทีนี้ถือว่าเหมาะเหตุด้วยผีแดงมากกว่าระบบอื่น เกมรุกน่ากลัวมากขึ้น เกมรับมีตัวช่วยหน้าแนวของกองหลังเพิ่มประสิทธิภาพทันตาเห็น

ในช่วงเบื้องต้นตรงนี้ ค่อยดูดีเหมือนผีแดงในอดีตที่ก้าวร้าวดุดัน ที่เหระบือต้องลุ้นกันไปเรื่อยจะมีความต่อเนื่องไม่ก็ฟาน ฮัล จะเปลี่ยนไปเล่นแบบไหนอีก

ข้อที่ 2... มารูยาน เฟลไลนี่


ครั้นเมื่อได้เปิดม่านบังตางานกับ ฟาน ฮัล ด้วยภาพที่ไม่ค่อยดี เหมือนไร้อนาคตในถิ่นนี้ ทว่าช่วงเวลาที่กุนซือผีแดงมีปัญหา โหมโรงมีวามไว้วางใจให้ทำงานเฉพาะกิจหลายอย่าง

 


จนกระทั่งบ่อยครั้งถึงขั้นยืนเป็นศูนย์หน้าของหมู่ แน่นอน ฟาน ฮัล เละบือกแบบนั้น มีโอกาสเห็นผีแดงสาดบอลยาวไปยังเป้าหมายนี้เป็นว่าเล่น เช่นเดียวกับเวสต์แฮมที่มีการวางบอลยาวไปให้ แอนดี้ คาร์โรลล์ ประมาณนั้นครับ

ซึ่งเฟลไลนี่ ก็ได้กลายเป็นนักเตะที่ ฟาน ฮัล มั่นใจมากขึ้นตามลำดับ ทำงานในหลายรูปแบบตามที่กุนซือต้องการ จนนัดล่าสุดยืนเหมือนหน้าต่ำ สนับสนุนเกมรุกในทันทีที่มีโอกาส ด้วยกันช่วยไล่บอลในแดนกลางทำให้เกมไหลลื่นมากขึ้น ตัวในแดนกลางสามรถเล่นกันได้ต่อเนื่องเพราะมีตัวบานตะเกียง

กับการใช้งานแต่ละคนอย่างเหมาะสมคือเรื่องราวที่หลายฝ่ายในค่ายนี้ต้องการ ขุมกำลังของผีแดงไม่ถึงขนาดของเชลซี ทว่าผีแดงชุดนี้ยังคงมีดีหลายอย่าง พางแต่จะทำอย่างไรให้ประสิทธิภาพที่มีอยู่ถูกเค้นออกมาพร้อมๆกัน

คนที่ 3... เวย์น รูนี่ย์


ตกเป็นเป้าสายตาอยู่แล้ว กัปตันหมูยังคงตอบสนองความต้องการเรื่องสกอร์ไว้ได้ จนถึงถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่ถูกที่ควร ประโยชน์สูงสุดที่ฝ่ายจักได้รับมีแน่ เป็นอีกเกมหนึ่งที่ควรค่าแก่การฉลองชัย

ข้อที่ 4... หมู่เชลซี


ก็ไม่เสียหายแต่น่าเสียดายอยู่บ้าง ที่ไม่เก่งสปีดหนีคณะที่ตามหลังให้ไกลสุดกู่ นั่นเพราะหมู่เซาแธมป์ตันไม่ใช่หมูให้เคี้ยว

 


  ซึ่งก่อนเกมเชื่อกันว่า น้ามู คงกระตุ้นให้ลูกฝ่ายเค้นฟอร์มที่ดีออกมาให้ได้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ด้วยการโดนเปแอสเชสอยร่วง

พวกเรือใบได้จบเห่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วในการพ่ายให้กับเบิร์นลี่ย์ เชลซีจึงหมดความกดดัน ทว่ากลับกลายเป็นขาดความกระตือรือร้นไปซะงั้น หรือไม่ก็เพราะว่าเหนื่อยล้าก็ไม่แน่ใจ

ในช่วงพักครึ่งเวลาคงโดนด่ากันกระเจิงในห้องแต่งตัว กลับมามาลงสนามด้วยความดุดันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ว่างๆคงต้องซ้อมรับมือลูกโด่งกันหน่อยก็ดี


ข้อที่ 5... มาเน่


ในช่วงเวลาที่ กราเซียโน่ เปลเล่ หาสกอร์ไม่เจออีกเลย เกมรุกของนักบุญขาดประสิทธิภาพชัดเจน ทว่าเกมที่ตอบโต้คู่แข่งด้วยความเร็ว ด้วยเกมที่สวนกลับ มาเน่ ทำได้ชัดเจน

 


เพราะด้วยแนวรับเชลซีที่มองเห็นถึงความอ่อนล้าโดนเล่นงานไปหลายดอก


ข้อที่ 6... ทีมเอฟเวอร์ตัน

กับก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายมากไปกว่านี้ เป็น 3 แต้มที่ได้มาช่วยปลดเปลื้อง ช่วยคลายความกังวลได้มาก ไม่บ่อยครับที่จักได้เห็นเอฟเวอร์ตันเอาชนะคู่แข่งแบบ 3 ประตู แถมคลีนชีตอีกต่างแม้

นับว่าเป็นฤดูกาลที่ลำบากอย่างเหลือเชื่อของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ชัยชนะที่ได้มาเป็นนัดแรกในรอบ 3 เดือนที่เก็บ 3 แต้มสำเร็จในบ้านตัวเอง ติดตามชม ตารางบอล ไฮไลท์ฟุตบอล ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก เพิ่มเติมได้ที่นี่ http://xn--42c8b0ajg0apvrr6k8f.net/

ดามัน
วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

การเมืองกับกีฬา,เปเยฯยังไม่ท้อเตรียมแย่งแชมป์

โค้ชเปเยฯ ยังไม่ท้อเตรียมแย่งแชมป์

ยอมรับเรือใบเล่นได้ผิดฟอร์ม



   


ภายหลังที่โค้ชมานูเอล เปเยกรินี่ เทรนเนอร์ฟุตบอลชาวชิลีวัย 61 ปี ผิดหวังลูกฝ่ายเล่นผิดฟอร์ม แถมยังไร้โชค ในเกมที่ คณะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกไปพ่ายแพ้ พวกเบิร์นลี่ย์ คารังเทิร์ฟมัวร์ 0-1 แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ท้อในการลุ้นแย่งแชมป์กับ พวกเชลซี ต้องสู้กันหลังจากนั้นจนถึงนาทีสุดท้าย

ซึ่งเพราะใน ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2014 - 2015 ตราบใดคืนวันเสาร์ที่ 14 มีนาคมที่ทะลวงมา ที่สนามเทิร์ฟมัวร์ ในนาทีที่ 61 โดย จอร์จ บอยด์ ซัดประตูชัยให้ เบิร์นลี่ย์ เป็นฝ่ายเอาชนะแชมป์เก่าปีที่แล้ว พวกเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบช็อกโลกผลบอล 1 - 0

ซึ่งหลังจากจบเกม มานูเอล เปเยกรินี่ นายใหญ่ถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า! แน่นอน เรากำลังทำบางอย่างผิดพลาดไป ก็เพราะว่าเราไม่ได้ชนะเหมือนที่เราทำได้ตามปกติ แต่ผมไม่ต้องการโฟกัสไปที่นักเตะพ่าง 2 ใช่ไหม 3 คน เราคือกรุ๊ปเดียวกัน คือกรุ๊ปที่มีนักเตะ 22 คน

พร้อมกับก็ผมแน่ใจว่าพวกเขาทำดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจักทำได้แล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ธรรมดาและผมก็ไม่คิดว่าเราเล่นแย่อะไรมากมาย เราสร้างโอกาสได้มากกว่า พวกเขายิงตรงกรอบเหมือนครั้งเดียวพร้อมทั้งกลาย เป็นประตูที่สวยงาม เราสร้างโอกาสในการทำประตูได้ไม่มากพอพร้อมด้วยเราก็โชคร้ายด้วย

ซึ่งเรานั้นผิดพลาดกันเอง ทำให้ต้องพ่ายพ่ายในเกมที่น่าจะต้องเก็บสามแต้มได้อย่างไม่ยากเย็น ผมไม่ต้องการที่จักโทษผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยเฉพาะเกมรุกที่ไม่เฉียบคมพอ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราต้องพลาดโอกาสเก็บชัยชนะในที่สุด

ในเกมนี้เรามีโอกาสมากทีเดียว รวมถึงมีพื้นที่เข้าทำบานเบอะอีกด้วย 3 - 4 ครั้ง ที่สมควรเป็นประตู แต่พวกเขามีเท่าจังหวะเดียว พร้อมด้วยยังเป็นประตูที่งดงามอีกด้วย ครั้งคุณมีโอกาสในทางคณิตศาสตร์ มันก็เป็นไปได้ แต่ในชีวิตยิ่งมันยากมากกว่านั้น มันสำคัญตรงที่ว่าเราจะเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำอยู่ได้อย่างไร

กับโอกาสที่จักคว้าแชมป์อยู่ไกลมาก แต่เราต้องสู้ถัดจาก เพื่อตำแหน่ง อีกทั้งยังมีเกมสำคัญกับ บาร์เซโลน่า รออยู่ด้วย ซึ่งในอดีตหัวเรือใหญ่ พวกราชันชุดขาว รีล มาดริด ร่ายยาว! ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ ฝ่ายอาร์เซน่อล จี้ขึ้นมาเหละบืออยู่ 1 แต้ม ขณะที่ ฝ่ายแมนฯ ซิตี้ ตามจ่าฝูง 5 แต้มเท่าเดิม แต่แข่งมากกว่า 2 นัด

   

มาดูการเมือง กับ กีฬา



 


พร้อมกับตามที่สื่อฮอตสกอร์ได้รายงานเรื่องค่าลิขสิทธิ์ที่ฟุตบอล ที่ประธานสโมสรเอสปันญ่อลได้ออกมาเรียกร้อง พอเดือนที่แล้วนั้น

ซึ่งคราวนี้ปัญหาดังกล่าว นอกจากจะไม่ได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควรแล้ว ยังเริ่มเป็นไฟลามทุ่ง ที่ใกล้เข้าสู่หมู่ระดับใหญ่กันบ้างแล้ว

คณะแอตเลติโก มาดริด ที่ได้เถลิงปางซีซั่นที่แล้วนั้น ค่าถ่ายทอดสดหรือค่าลิขสิทธิ์ทางทีวีมาถึงกระเป๋าไม่ถึงครึ่งหนึ่งของกรุ๊ปรองแชมป์ทั้งสองฝ่ายดังกล่าว

นั่นทำให้ เอล โชโล่ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็ไม่มีการเงินมาบำรุงพวกเท่าพอจักยืดอายุความสำเร็จต่อไปได้อีกซีซั่น

พร้อมทั้งในปีที่แล้ว ทีมตราหมี ของซิเมโอเน่ ได้มาปาง 30 ล้านยูโร น้อยกว่าสามเหล่าที่ตกชั้นของพรีเมียร์ลีก เช่น กลุ่มคาร์ดิฟฟ์ พร้อมด้วย เหล่าฟูแล่ม ที่ได้อยู่ 50 กว่าล้านยูโร ตามที่สื่อมวลชนสเปนคาดการณ์

เหตุการณ์ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ารู้ว่าหมู่ระดับกลางตารางบอลอย่าง กรุ๊ปเลบานเต้ หรือว่า กลุ่มเกตาเฟ่ กับ กรุ๊ปราโย บาเญกาโน่ เอง ต่างกันฟ้ากับเหว เพราะว่าพวกเขาได้รับแค่แค่ 11 ล้านยูโร เท่านั้น

ซึ่งประเดี๋ยวนี้ อังเคล มาเรีย บีญาร์ ประธาน RFEF ไม่ก็สหพันธ์ฟุตบอลสเปน พร้อมด้วย ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน LFP ซึ่งเป็นผู้ดูแลในส่วนของลีกการแข่งขันทั้งในระดับลาลีกา พร้อมด้วย เซกุนด้า ที่ต่ำกว่าต่างๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่

ด้วยกันเนื่องด้วยฝ่ายหลังต้องการจักควบคุมการจัดการฟุตบอลทั้งหมดของประเทศ ทว่าบีญาร์ เองชี้ปัดทุกเหตุผล เพราะว่าตำแหน่งของเขาถูกต้องด้วยรัฐบาลสเปน พร้อมกับกระทรวงกีฬา ที่ขึ้นกับการเมืองเพราะว่าตรง

เพราะว่าที่นั่นหมายความว่า ลีกโปรแกรมบอลของสเปนทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับเอกชน ก็เพราะว่าว่ารัฐบาลยังมีอำนาจในการควบควบคุมการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ

พร้อมทั้งถ้าเป็นอย่างนี้ถัดจากนั้นละก็ คงหาทางออกเรื่องนี้ลำบากมาก เนื่องจากเป็นที่รู้ว่า ทั้ง บาร์เซโลน่า พร้อมกับ เรอัล มาดริด คือสโมสรการเมืองจ๋าซะขนาดนั้น

ในเรื่องนี้ คือการถูกโยนไปที่ ฟีฟ่า รวมถึงยูฟ่า แล้วด้วยซ้ำ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เซปป์ แบลตเตอร์ กับ บีญาร์ อาจจักมีลับลมคมในจับไม้จับมืออะไรก็ว่ากันไป เพราะว่าเขาโยนเรื่องมาให้กับรัฐบาลสเปนแก้ไขปัญสมมุติันเอง

ถ้าจะให้สรุปก็คือเรื่องนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ตราบใดที่ ทั้งฝ่าย LFP เหรอ RFEF ไม่หาทางออกร่วมกัน เผือให้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด เข้ามาอยู่ในมือของเอกชนเป็นผู้ดูแล แล้วจัดจ่ายให้กับทุกเหล่า อย่างเหมาะสม มากกว่าที่เป็นอยู่

ด้วยกันสมมติว่าหมู่ใหญ่อย่าง คณะเรอัล มาดริด ไม่ใช่หรือ บาร์เซโลน่า จักได้มากกว่าเหล่าเล็กกันสัก 60 - 70 เปอร์เซ็นต์ มันก็คงไม่น่าเกลียด เท่ากับ ฟ้ากับเหว มองเห็นตัวเลขแล้ว ต่างกันเป็น 10 เท่าอย่างที่ เรอัล มาดริด ได้รับร้อยกว่าล้านยูโร มันก็เกินไป

แต่ถ้าถ้าว่าฝ่ายเล็กศักยยืนขึ้นได้ด้วยตัวเอง ตามเงินที่พวกเขาได้รับที่สมควร แน่นอนว่า ลาลีกา จะยกระดับฟุตบอลได้สูงไปเอง รวมทั้งความสนุกของคนดูพร้อมกับแฟนบอลต่างๆ จักทำให้เรตติ้ง มูลค่าการตลาดลีกก็พัฒนาขึ้นไปด้วย

ก็ไม่รู้ว่า ฝรั่งมังค่า หน้าคมๆ ชาวสแปนิช จะคิดได้อย่างเราหรือไม่เปล่า

ที่มา: http://sport.sanook.com/
วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

โรนัลโด้ เอ็งเป็นอะไรมากหรือเปล่า!

โรนัลโด้ เอ็งเป็นอะไรมากหรือเปล่า!




วิเคราะห์ฟุตบอล: ข้างในหน้าความเอกอุด้านฟุตบอลฝีเท้าของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คงจักไม่มีใครเคเอิกเกริกบแคลงกับสนเท่ห์เลยสักนิด

เสียแต่ว่าว่าในระยะหลังสิ่งที่เรียกว่า อีโก้ ผสมกับความ ทะนงตัว ว่า กูเจ๋ง กูแน่ อยู่คนเดียว กำลังทำให้คุณค่าในตัวเองเสื่อมถอยลง

พร้อมทั้งการก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวท็อปของโลก บนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของคนที่สู้ชีวิต กับกล้าที่จักเดินตามความฝันของตัวเอง

ซึ่งการที่จะประสบความสำเร็จในทางลูกหนัง เป็นสิ่งที่น้อยคนจักทำได้ประเภทเขา

พร้อมทั้งครั้งวันเวลาตัดผ่านไป นักเตะที่เพิ่งลอดวัย 30 กะรัต กลับแสดงออกในสิ่งที่ไม่ควรทำ


 วิเคราะห์บอล


อื้นง่ายๆก็คือ ลูกเกเร ลูกขี้หงุดหงิด หรือไม่ก็ก็คือ หงุดหงิดมันไปซะทุกหลักสำคัญ!

เปรียบผลงานเอาเฉพาะในสนาม พักหลังมานี้ เขาแสดงออกทางอารมณ์กับเพื่อนร่วมพวก ในทุกเกม ที่ไม่ได้ดั่งใจแน่แท้ๆ

ข้อ 1.ไม่ส่งฟุตบอลให้ตัวเองบ้างละ , ข้อ 2.ผู้ไกล่เกลี่ยไม่เป่าให้ประโยชน์กับตัวเองบ้างละ ไม่ก็แม้แต่ ข้อที่3.บางครั้งยิงประตูเองได้ ก็ยังไม่อยากได้จักแสดงความสามารถอาการดีใจซะด้วยซ้ำ

พิศใครก็ตามที่ได้ดู เจ็ทโด้ ลงสนามในระยะหลังๆ ต่างมีคำถามในใจว่า ด้วยอายุราชการทางลูกหนังที่มากขึ้น ทำไม? คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงยังเเลื่องลือกทำสิ่งเหล่านี้อยู่

ซึ่งเที่ยงตรงว่า แกเร็ธ เบล ทราบเรื่องนี้ดีที่สุด!

หลังจากที่ได้มีข่าวซุบซิบจากฝั่งแดนกระทิงดุ ก็ย้ำในทำนองว่า 2 คนนี้ไม่ค่อยจะกินเส้นกันเท่าไหร่นัก


 โปรแกรมบอล


ในเกมนัดล่าสุดจนถึงคืนที่ทะลวงมา ชัดเจนในระดับหนึ่ง ว่าการที่พวกราชันชุดขาว โดนแฟนฟุตบอลของตัวเองโห่ใส่ นักเตะต่างเกร็งกับเล่นด้วยฟอร์มที่ไม่เอาอ่าว

เพราะที่ 2 ประตูที่ได้มา ยิ่งบ่งชัดว่า โรนัลโด้ กำลังหัวเสีย พร้อมกับ กลายเป็นคุณชายขี้โมโหไปหมดซะทุกเรื่องไปแล้ว

ในโอกาสที่ได้ลูกขึ้นนำ 1 – 0 ที่ตัวเองกระโดดตีลังกายิง ไปโดน อีวาน รามิส ผู้เล่น เลบันเต้ โหม่งสกัดออกมาจากเส้น เขาหงุดหงิดสุดๆ

หรือไม่แม้กระทั่ง วินาทีต่อมาที่ แกเร็ธ เบล จักเป็นคงกดเน้นๆ จากจังหวะดังกล่าวเข้าประตูไป ตัวของ โรนัลโด้ ยังแสดงออกถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวอีกต่างต่างว่า

ในช่วงเวลาเดียวกัน เบล ที่ภายหลังทำประตูได้ ก็พลอยหงุดหงิดงุ่นง่านไปด้วย จนถึงขั้นแสดงออกด้วยการเอามือปิดหู กับบรรจงใช้เท้าถีบไปทีธง อีกหนึ่งดอก แหม่ กรุ๊ปนี้นี่ขึ้หงุดหงิดแน่นอนๆโว้ย!

 ไฮไลท์ฟุตบอล


ซึ่งฟอร์มระยะหลังๆ ที่โดนแฟนบอลของตัวเองตามโห่ คือสิ่งที่นักเตะใน คณะเรอัล มาดริด กำลังทำบางสิ่ง เพื่อตอบโต้แฟนบอลของตัวเองเช่นนั้นหรือว่า

งานเป็นฝ่ายที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดคณะหนึ่งของโลก กำลังทำให้สปิริตในกลุ่มหดหายไปเรื่อยๆ

ด้วยกันที่สำคัญไปกว่านั้น พวกเขากำลังทำให้แฟนบอลของตัวเองเอือมระอา

ซึ่งนี่อีกทั้งไม่ต้องการนึกภาพนะครับ ว่าอาทิตย์หน้า ถ้าหมู่ราชันชุดขาว บุกไปพ่าย บาร์เซโลน่า ที่คัมป์นู อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ครั้นแล้วในเกมมที่ เอลกลาซิโก้ ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ มันปล่อยเป็นอะไรที่น่าติดตามครันๆ

เขียนเรื่องเพราะ บ.ส้มซิ่ง

คลิปไฮไลท์พรีเมียร์ลีก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โมโหไปซะทุกเรื่อง


 

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

แย่ยิ่งกว่าแพ้!

แย่ยิ่งกว่าแพ้!


ฟุตบอล


วิเคราะห์บอล: สำหรับความพ่ายแพ้ หรือ การต้องตกรอบตารางบอลในการแข่งขันกีฬานั้น ถือเป็นสิ่งที่เจ็บปวดและน่าผิดหวังเสมอสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง และถ้าจะมีอะไรที่แย่ไปกว่านั้น ก็คงเป็นการแพ้โดยที่ทุกคนเบ้ปากใส่แล้วบอกว่าสมควรแล้ว

และสถานการณ์ของ ทีมเชลซี หลังจบจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อคืนวันพุธ น่าจะใกล้เคียงกับที่จั่วหัวเอาไว้

เพราะว่านอกจากจะตกรอบไปอย่างชอกช้ำ จากการทำได้แค่ผลบอลเสมอ 2-2 ในบ้านตัวเอง หลังที่มีผู้เล่นมากกว่าถึงสองในสามของเวลาที่เตะกันแล้ว

ทีมสิงโตสีคราม ยังถูกวิจารณ์ อย่างหนักจากการแสดงออกของนักเตะในสนาม ในจังหวะการฟาวล์ต่อออสการ์ที่ทำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวเตะคนสำคัญของคู่แข่ง โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

และแน่นอนว่าการตัดสินของ บียอร์น คีเปอร์ส กรรมการชาวดัตช์ ที่คิดว่าจังหวะนี้ควรเป็นใบแดง ถือเป็นวิจารณญาณของเขาเองด้วยที่โดนจวกหนักไม่แพ้กัน แต่หลายคนก็มองว่าการแสดงออกของนักเตะ ทีมเชลซี ที่เข้าไปห้อมล้อมและโหวกเหวกโวยวายเกินจำเป็นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย


วิเคราะห์บอล


ซึ่งบรรดาเกจิในแวดวงลูกหนัง ทั้งอดีตนักเตะและผู้จัดการทีมชื่อดังหลายคน ต่างก็มองไปในทางเดียวกันว่ากองหน้าของ ทีมเปแอสเชโชคร้ายที่โดนใบแดง และพฤติกรรมของนักเตะ ทีมเชลซี เป็นสิ่งที่น่าอัปยศอดสู

โดยที่ อลัน กรีน คอมเมนเตเตอร์ของ BBC วิเคราะห์ผลบอลพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า มันแย่มากที่ได้เห็นนักเตะมากมายหลายคนแสดงพฤติกรรมแบบนั้นในสนาม ผมจะไม่ปกป้องพวกไร้สมองที่ทำตัวน่าขายหน้าแบบนี้แน่

ซึ่ง แกรม ซูเนสส์ อดีตนักเตะและผู้จัดการทีมชื่อดัง ได้ออกมา วิจารณ์ออสการ์ที่เจตนาเรียกใบแดงให้คู่แข่งในจังหวะที่โดนทำฟาวล์ด้วย

เรียกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องทำเลย มันรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง การที่นักเตะพยายามล้มเพื่อให้คู่แข่งโดนไล่ออก

และมันไม่ใช่วิถีของอังกฤษ มันกำลังคืบคลานเข้าสู่เกมของเรา ซึ่งผมรู้สึกว่ารับไม่ได้จริงๆ

และแม้เวลามีใครเข้าสกัดคุณ คุณมักจะอยากล้มลงไปเพื่อให้เขาโดนเล่นงาน มันน่าสมเพชแบบนี้แหละ ขอบคุณสวรรค์ที่เปแอสเชไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขากลับไปพร้อมกับเครดิตที่สมควรได้รับ พวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่า

ทางด้านเจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ทีมลิเวอร์พูล ได้วิจารณ์ไปถึงโจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเชลซี ว่าเป็นคนปลูกฝังทัศนคติแบบนี้ให้กับนักเตะ


โปรแกรมบอล


ซึ่งการแสดงออกของนักเตะ ทีมเชลซีเป็นเรื่องที่น่าอดสู มันมาจากทุกทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ ทีมของเขามักจะทำพฤติกรรมแบบนี้เสมอ มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว

และในบางทีสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนเกมว่าเปแอสเชเป็นทีมที่เล่นสกปรกที่สุด อาจจะถูกฝังไว้ในหัวของกรรมการไปแล้ว

ส่วนตัว ผมคิดเสมอว่าทีมของมูรินโญ่อาจจะได้รับการยอมรับในฝีเท้า แต่ทีมของเขาจะไม่มีทางเป็นทีมที่คนรัก เพราะสถานการณ์แบบนี้นี่แหละ ทีมของเขาเอาคำว่าชนะไปอยู่ตรงจุดที่ทีมอื่นหรือผู้จัดการทีมคนอื่นทำไม่ได้ คำพูดของเขามีอิทธิพลไปแล้ว

ในขณะที่ ไมเคิล โอเว่น อดีตดาวยิงชื่อดัง ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน และมองว่าจังหวะนี้ไม่ควรเป็นใบแดง

หากเป็นจังหวะนี้ ต้องไม่ใช่ใบแดงแน่นอน พฤติกรรมของนักเตะเชลซีน่าช็อกสุดๆ การทำอะไรแบบนี้มีอิทธิพลต่อเกมได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทำ

โดยที่ผมดีใจที่เห็นคาร์ราเกอร์และซูเนสส์คิดตรงกับผมเป๊ะ เกมฟุตบอลคงกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย ถ้านักเตะเริ่มมีอิทธิพลต่อเกมด้วยการเข้าไปกดดันกรรมการ

และมาร์ค ลอว์เรนสัน ที่เป็นอดีตกองหลัง ทีมลิเวอร์พูล ซึ่งผันตัวไปทำงานด้านสื่อมานาน ก็ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของนักเตะ ทีมเชลซีเช่นกัน

สำหรับการแสดงออกของนักเตะ ทีมเชลซีนั้นเหลือเชื่อมาก ถ้าดูจากการที่การทำฟาวล์จังหวะนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้นเลย ผมเกือบจะคิดว่าเขาทำคู่แข่งขาหักซะอีก ออสการ์สมควรได้รับออสการ์เลย

และสิ่งที่เกิดขึ้นฉุดให้เกมฟุตบอลถอยหลังเข้าคลอง พฤติกรรมโอเวอร์เกินเหตุต่อการทำฟาวล์ของคู่แข่ง เกมฟุตบอลกำลังจะกลายเป็นละครเข้าไปทุกทีแล้ว

A ในส่วนของ เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินชื่อดังของอังกฤษ ก็มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณอันตรายของเกมฟุตบอล


พรีเมียร์ลีก


ซึ่งพฤติกรรมของนักเตะ ทีมเชลซี ตอนที่เข้าไปรุมล้อม บียอร์น คีเปอร์ส เป็นความอัปยศอย่างแท้จริง และมันเป็นสัญญาณที่บอกว่าเกมฟุตบอลในปัจจุบันกลายเป็นแบบไหนไปแล้ว

ส่วนทางด้าน จอห์น อัลดริดจ์ อดีตศูนย์หน้า ทีมลิเวอร์พูล อีกคน ออกมาตำหนิวิธีการเล่นของมูรินโญ่ที่ไม่เน้นเกมบุกมากพอ

ทีมเชลซีได้ในสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว วิธีการเล่นของพวกเขาสะท้อนตัวตนผู้จัดการทีมของพวกเขาออกมา การเล่นเกมรับในบ้านน้อยครั้งที่จะเวิร์ก

และ โลร็องต์ บล็องก์ โค้ชของ ทีมปารีส ย้ำว่าทีมของเขาสมควรได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ปัญหาเกิดขึ้นในเกมนี้หรือไม่ก็ตาม

ซึ่งต่อให้คุณตัดการแสดงออกอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬาพวกนั้นออกไปจากเกม ผมก็คิดว่าทีมของผมดีกว่าเชลซีในทุกจุดของสนาม เปแอสเชสมควรเข้ารอบแล้ว

ในขณะที่อิราฮิโมวิชเองได้เหน็บแนมพฤติกรรมของคู่แข่งเบาๆ ว่าทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต

หลังจากที่ผมเห็นกรรมการควักใบแดงออกมา ผมนี่แบบว่า เขารู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุดนะ ที่แย่ที่สุดก็คือในจังหวะนั้น นักเตะ ทีมเชลซี ทุกคนกรูกันเข้ามารุมล้อมเต็มไปหมด ผมรู้สึกเหมือนโดนเหล่าเด็กน้อยมากลุ้มรุมอยู่รอบตัวเลย

เรื่องโดย : Bebybear

ที่มา: http://sport.sanook.com/138549/
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผลบอล: ทีมปารีสฯบุกเจ๊าเชลซีส่วนบาเยิร์นถล่มทีมชัคเตอร์10คน 7-0

ทีมปารีสฯบุกเจ๊าเชลซี 2-2 ผล อเวย์โกลเข้ารอบชปล



  • ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
  • รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2
  • วันพุธที่ 11 มีนาคม2558
  • ทีมเชลซี 2-2 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
  • (รวมผลสองนัดเสมอ 3-3 ปารีสฯ ผ่านเข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
  • สนาม: สแตมฟอร์ดบริดจ์

เริ่มเกมครึ่งแรก ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมยังไม่มีจังหวะหวาดเสียว เกมยังถือว่าสูสีกันอยู่

ถัดมานาทีเดียว ทีมเยือน ทีมเปแอสเช ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เสียบหนักใส่ ออสการ์ ผู้ตัดสินควักใบแดง ไล่ดาวยิงชาวสวีเดน ออกจากสนามทันที

นาทีที่ 41 เจ้าถิ่น ทีมเชลซี ได้ลุ้น จากจังหวะที่ ออสการ์ ขึ้นเกมด้านซ้าย ก่อนลากบอลเข้าไปกดด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปตรงตัว ซิริกู

หมดครึ่งแรก ทีมเชลซี กับ ทีมเปแอสเช ผลบอลเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 ทีมเชลซี ได้ลูกฟรีคิกระยะไกล วิลเลี่ยน หลอกยิงไปที่เสาแรก บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ทว่า ซิริกู ยังไวพุ่งปัดทิ้งออกหลัง

นาทีที่ 54 คาวานี่ เก็บบอลได้ ก่อนจ่ายยัดให้ แม็กซ์เวลล์ แตะบอลเข้าไปยิงด้วยซ้ายมุมแคบ บอลแฉลบ เคฮิลล์ ออกไป

นาทีที่ 65 แวร์รัตติ แย่งบอลมาจากเท้าของ รามิเรส หน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายออกด้านซ้ายให้ มาตุยดี้ ยิงไปติดบล็อก แกรี่ เคฮิลล์

นาทีที่ 82 ทีมเชลซี ก็มาได้ประตู ขึ้นนำ 1-0 เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมเข้าเขตโทษ บอลขลุกขลิกอยู่หน้าประตูทีมเยือน สุดท้ายบอลมาถึง แกรี่ เคฮิลล์ ซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 86 เกมที่ทำท่าจะจบด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น แต่ ปารีส มีฮืดในช่วงท้ายเกม ไล่ทวงประตูตีเสมอเป็น 1-1 จากลูกเตะมุมทางขวาของ ลาเวซซี่ ที่เปิดโค้งเข้าเขตโทษและเป็น ดาวิด ลุยซ์ ที่โฉบมาโหม่งเหน่งๆ บอลพุ่งเช็ดใต้คานเข้าไป

จบเกม 90 นาที ทีมเชลซี เปิดรังเสมอกับ ปารีส 1-1 ทำให้สกอร์ออกมาเท่ากับเกมแรกที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ซึ่งรวม 2 นัด เสมอกันที่ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 96 ทีมเชลซี มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ ติอาโก้ ซิลวา ใช้มือปัดบอลในจังหวะแย่งโหม่งบอลกับ เคิร์ท ซูม่า ก่อนที่ เอแด็น อาซาร์ จะสังหารเข้าไปไม่พลาด ทีมสิงห์บลูส์ ขึ้นนำ 2-1

โปรแกรมบอลในช่วงนาทีที่ 115 สาวก ทีมสิงห์บลูส์ แทบช็อก เมื่อ ทีมปารีสฯ มาได้ประตูตีเสมออีกครั้งเป็น 2-2 จากลูกเตะมุม ติอาโก้ ม็อตต้า เปิดเข้าเขตโทษให้ ติอาโก้ ซิลวา ขึ้นโขกคนเดียวโดดๆ บอลย้อยเสียบตาข่ายเข้าไป

ส่งผลให้จบเกม 120 นาที ปารีสฯ บุกมายันเสมอ ทีมเชลซี ถึงถิ่น 2-2 รวมผล 2 นัดเสมอกัน 3-3 ทำให้ ทีมเปแอสเช ผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ ด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน


บาเยิร์นถล่มทีมชัคเตอร์10คน 7-0 ลิ่ว8ทีมชปล+คลิป




  • ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปี 2014-2015
  • แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
  • แข่งวันพุธที่ 11 มีนาคม 2558
  • ทีมบาเยิร์น มิวนิค 7-0 ทีมชัคเตอร์ โดเนทส์ค
  • ซึ่งผลนัดแรก เสมอกันมาที่บ้านของ ชัคเตอร์ฯ 0-0
  • แข่งที่สนาม : อัลลิอันซ์ อารีนา
วิเคราะห์ผลบอลเปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 3 นาที ทีมบาเยิร์น ได้จุดโทษ โธมัส มุลเลอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ทีมบาเยิร์น ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 34 เจ้าบ้าน ทีมบาเยิร์น หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี่ ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟของ อังเดร เปียตอฟ นายด่านชัคเตอร์ บอลมาเข้าทาง เยโรม บัวเต็ง ซัดจ่อๆเข้า ไปตุงตาข่าย

จบครึ่งแรก ทีมทีมบาเยิร์น มิวนิก นำ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค อยู่ 2-0

ครึ่งหลัง มาถึง นาทีที่ 50 ฟรองค์ ริเบรี่ ยิงด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป ทีมบาเยิร์น นำห่าง 3-0

ถัดมา 2 นาที ทีมบาเยิร์น หนีเป็น 4-0 จากจังหวะปัดบอลของ อังเดร เปียตอฟ ไปเข้าทางปืน มุลเลอร์ แปเข้าไปง่ายๆ

ถึง นาทีที่ 64 เจ้าถิ่น "เสือใต้" มาได้ลูกที่ห้า หนีเป็น 5-0 ราฟินญ่า เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ โฮลเกอร์ บัดสตูเบอร์ ขึ้นโหม่งเต็มศีรษะเข้าไป

นาทีที่ 76 เจ้าบ้าน ทีมบาเยิร์น ทิ้งไปไกลเป็น 6-0 จากจังหวะที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี่ พักบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 87 ทีมบาเยิร์น มาได้ประตูสุดท้าย หนีเป็น 7-0 จากจังหวะที่ บัวเต็ง เปิดจากฝั่งขวาไปที่เสาสองถึง มาริโอ เกิทเซ่ วิ่งมากดด้วยขวาเข้าไป

จบเกม ทีมบาเยิร์น มิวนิค ถล่ม ชัคเตอร์ โดเนทส์ค ไป 7 -0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก สำเร็จ




ที่มา: http://sport.sanook.com/138245/http://sport.sanook.com/138241/
วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผลฟุตบอลศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ16ทีมสุดท้าย

ทีมมาดริด พ่าย ทีมชาลเก้ คาถิ่น 3 - 4 

แต่!! กินบุญเก่า ทำให้ลิ่วทะลุเข้า 8 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีก +คลิป




ทีมราชันชุดขาว เจอทีมเยือน ราชันสีน้ำเงิน บุกยิงแซงกลับมาชนะสุดมันส์ 4-3 แต่ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ ทำให้นัดนี้ส่งมาดริดเข้ารอบแปดทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 5-4

สำหรับศึกลูกหนังยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ที่ สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นเกมระหว่าง ทีมเรอัล มาดริด ดวล ทีมชาลเก้04 ซึ่งนัดเเรก ทีมเรอัล มาดริด บุกไปเอาชนะมาได้ 2-0

โดยที่เกมนี้ ทีมเรอัล มาดริด ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ทำเซอร์ไพรซ์เล็กๆใส่ชื่อของ ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์ห้องเครื่องคนสำคัญหายบาดเจ็บมีชื่อเป็นตัวสำรองเกมแรก

ส่วนรายชื่อนักเตะ 11 ตัวจริงสามประสานแดนหน้าทั้ง 1.เบนเซม่า,2.เบล และ 3.โรนัลโด้ ยังลงพร้อมหน้า แต่ว่ามีการปรับในแผงหลังฟูลแบ็คสองข้างเปลี่ยนแปลง ให้อาร์เบลัว เล่นแทน การ์บาฆาล รวมถึง โคเอนเทรา ก็ลงแทน มาร์เซโล่ อีกด้วย

ในขณะที่ ทีมชาลเก้ของ โค้ชโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ไม่มีอะไรจะเสียต้องบุกเพื่อเอาประตูโดยเร็ว วันนี้วางกองหน้าคู่ทั้ง 1.ฮุนเตลาร์ และ 2.ชูโป-โมติง มาลุ้นประตู มีกลางดาวรุ่งอย่าง มักซ์ ไมเยอร์ คอยเชื่อมเกมแดนกลาง

ซึ่งผลการเเข่งขันปรากฎว่า ทีมชาลเก้04 งัดฟอร์มสุดยอดออกมาโชว์ ด้วยการบุกมาเฉือนชนะ ทีมเรอัล มาดริด ไปได้ด้วยสกอร์สุดตื่นเต้น 4-3

โดยที่ผู้มาเยือนได้ประตูจาก
คริสเตียน ฟุชส์ นาทีที่ 20
คลาส แยน ฮุนเตลาร์ นาทีที่ 40 และนาทีที่ 84
เลรอย ซาเน นาทีที่ 57

ทางเจ้าถิ่นได้ประตูจาก
คริสเตียโน โรนัลโด ในนาทีที่ 25 และนาทีที่ 45
คาริม เบนเซมา นาทีที่ 53

แต่ว่า!!!! อย่างไรก็ตาม ทีมเรอัล มาดริด ถึงแม้จะแพ้ แต่เมื่อรวมผล 2 นัด พวกเขายังผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ผลบอลรวม 5 - 4 เพราะนัดแรก บุกไปอัด ทีมชาลเก พ่ายคารังมาก่อน 2-0





เจ้าพ่อตัวยิงไกล! ของทีมปอร์โต้ง้างเป็นเข้า

หลังพาทีมถล่มบาเซิ่ล 4-0 ฉลุยเข้ารอบ8ทีม +คลิป




  • การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 
  • แข่งวันอังคารที่ 10 มีนาคม ปี 2558
  • ทีมเอฟซี ปอร์โต้ 4 - 0 ทีมบาเซิ่ล
  • ทีมเอฟซี ปอร์โต้ ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1
  • แข่งที่สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา
  • กรรมการผู้ตัดสิน : โยนาส อีริคส์สัน

ทีมปอร์โต้ เปิดรังไล่ถล่ม ทีมเอฟซี บาเซิ่ล ไปแบบสบายเกือก 4 - 0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 5-1 ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา

มาดูรายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามกันสักหน่อยดีกว่า

ทีมเอฟซี ปอร์โต้ 4-3-3 :

  1. ฟาเบียโน่ รีเบยโร่ 
  2. ดานิโล่ เปลี่ยนตัว บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ลงในนาทีที่ 22
  3. ไมค่อน เปเรยร่า
  4. อีบัน มาร์กาโน่
  5. อเล็กซ์ ซานโดร 
  6. เอ็คตอร์ เอร์เรร่า
  7. กาเซมีโร่
  8. เอวานโดร เปลี่ยนตัว ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ลงในนาทีที่ 79
  9. คริสเตียน เตโย่
  10. แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์
  11. ยาซีน บราอิมี่ เปลี่ยนตัว รูเบน เนเวส ลงในนาทีที่ 74


ทีมบาเซิ่ล 4-3-3 :

  1. โธมัส วาชลิค 
  2. โตลันต์ ชาก้า
  3. ฟาเบียน ชาร์ เปลี่ยนตัว เบรล เอ็มโบโล่ ลงในนาทีที่ 59
  4. วอลเตอร์ ซามูเอล
  5. เบห์รัง ซาฟารี 
  6. โมฮาเหม็ด เอลเนนี่
  7. ฟาเบียน ฟราย เปลี่ยนตัว โยอิชิโร่ คาคิตานิ ลงในนาทีที่ 63
  8. ลูก้า ซุฟฟี่ 
  9. เดร์ลีส กอนซาเลซ
  10. มาร์โก สเตรลเลอร์ 
  11. ชเคลเซน กาชี่ เปลี่ยนตัว ดาวิเด้ คัลล่า ลงในนาทีที่ 77





ที่มา: http://sport.sanook.com/138117/
วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผลฟุตบอลสเปน รีลมาดริดนำห่างทีมบาร์ซ่า2แต้ม

ทีมบาร์ซ่า บุกอัดบียาเรอัล 3 - 1 เข้าชิงศึกโกปาฯ +คลิป



 


  • การต่อสู้ฟุตบอลโกปา เดล เรย์ สเปน
  • การแข่งรอบรองปราบเลิศ นัดสอง
  • แข่งวันพุธที่ 4 มีนาคม 2558
  • ทีมบียาร์เรอัล 1-3 ทีมบาร์เซโลน่า
  • ผลจับกลุ่มสองนัด ทีมบาร์เซโลน่า ผ่านเข้ารอบด้วยที่นี่รวม 6 - 2
  • แข่งที่สนาม: เอสตาดิโอ เอล มาดรีกาล กาสเตย่อน
  • กรรมการผู้ตัดสิน: ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลัน
หลังจากเริ่มมาได้เท่า 3 นาที ทีมบาร์เซโลน่า ขึ้นนำก่อน 1 - 0 จากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ แทงผ่านให้กับ เนย์มาร์ หลุดเข้าไปกดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลตุงตาข่าย ในนาทีที่ 39 เป็นเจ้าบ้านมาได้ประตูตีเป็นนิตย์ เมื่อ ฆวาเม่ กอสต้า เปิดให้กับ โจนาธาน โดส ซานโต๊ส ซัดด้วยขวาเสียบมุมซ้ายเข้าไป ทำให้ ทีมบียาร์เรอัล ตามมายังไม่ตาย 1-1

ในช่วงกึ่งหลังนาทีที่ 65 เจ้าถิ่น เกินแค่ 10 คน เมื่อ โตมาส ปีน่า ไปสร้างฟาวล์ เนย์มาร์ ถูกใบแดงยื่นซองขาวจากสนามจาก

นาทีที่ 73 ฝ่ายเยือน มาได้ประตูขึ้นนำ 2 - 1 ทันทีที่ มาสเคราโน่ วางฟุตบอลให้เข้ากับ หลุยส์ ซัวเรซ ในกรอบโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายเน้นๆ เข้าไปไม่พลาด

และในช่วงสุดท้ายเกม ทีมบาร์ซ่า มาได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ โยนบอลจากด้านขวาให้ เนย์มาร์ ที่เสาไกลก่อนโฉบมาโขกสวนกลับตัวของ เซร์คิโอ อาเซนโฆ่ นายทวารบียาร์เรอัล เข้าประตูไปลุ้นให้ เหล่าบาร์เซโลน่า บุกมาชนะเลิศ กลุ่มบียาร์เรอัล 3 - 1

ยอดรวมทั้งสองนัด กรุ๊ปบาร์เซโลน่า ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยซ้ำสกอร์รวม 6 - 2 เข้าไปรอเจอกับผู้ปราบระหว่าง ทีมเอสปันญ่อล หรือ ทีมแอธเลติก บิลเบา ถัดจาก

มองดูรายนามผู้เล่นของทั้ง2 ทีม

  กลุ่มบียาร์เรอัล:
  • เซร์คิโอ อาเซนโฆ่
  • มาริโอ กาสปาร์
  • มาเตโอ มูซัคคิโอ
  • บิคตอร์ รูอิซ
  • ฆวาเม่ กอสต้า
  • โจนาธาน โดส ซานโต๊ส
  • มานู ตรีเกโรส เปลี่ยนตัว มอยเซส โกเมซ นาทีที่ 75
  • โตมาส ปีน่า
  • เดนิส เชอรีเชฟ เปลี่ยนตัว โฮเอล แคมป์เบลล์ นาทีที่ 69
  • ลูเซียโน่ เวียตโต้
  • อิเคชุควู อูเช่ เปลี่ยนตัว โจวานี่ โดส ซานโต๊ส นาทีที่ 62


เหล่าบาร์เซโลน่า:
  • มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น
  • มาร์ติน มอนโตย่า
  • เคราร์ด ปีเก้
  • ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เปลี่ยนตัว อีวาน ราคิติช นาทีที่ 76
  • จอร์ดี้ อัลบา
  • ราฟินญ่า เปลี่ยนตัว ชาบี เอร์นานเดซ นาทีที่ 65
  • เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ เปลี่ยนตัว เฌเรมี่ มาติเยอ นาทีที่ 42
  • อันเดรส อีเนียสต้า
  • หลุยส์ ซัวเรซ
  • ลีโอเนล เมสซี่
  • เนย์มาร์



   

ปีนี้ลุ้นแชมป์สนุกเลย!!! ทีมราชันชุดขาวโดนบียาเรอัลเจ๊า 1 - 1

นำทีมบาร์ซ่าแค่ 2 แต้ม

   


วิเคราะห์ผลบอลสำหรับการต่อสู้ฟุตบอลลาลีกา สเปน ปี 2014 - 2015 เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา กรุ๊ปราชันชุดขาว  เรอัล มาดริด ทีมจ่าฝูง เปิดสนามหญ้าซานติอาโก้ เบอร์นาเบว รับรองการมาเยือนของ ทีมเรือดำน้ำสีเหลือง บียาร์เรอัล ทีมอันดับ 6 ของตารางบอล

ในช่วงกึ่งแรก ทีมมาดริด มีช่วยจากการยิงไกล ลูคัส ซิลวา ส่วนทีมเยือนเกือบได้จาก มอยเซส โกเมซ ที่ได้ยิงจังหวะสอง เสียแต่ว่าแนวรับเจ้าบ้านสะสางทิ้งเอาไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก เท่าเทียมกัน 0 - 0

ตอนหลังในครึ่งหลังเล่นมาได้แค่ 5 นาที อิริค เบลลี่ แนวรับทีมเยือน ไปเหนี่ยว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ลงความเห็นชี้เป็นจุดโทษ ก่อน โรนัลโด้ รองหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ด้วยกันนับเป็นประตูที่ 30 ในฤดูกาลนี้ของกัปตันกลุ่มชาติโปรตุเกส

และถัดมาจากนั้นนาที 64 เหล่าบียาร์เรอัล ตามตีเสมอสำเร็จ พลัดพรากการยิงของ เคราร์ด โมเรโน่ ช่วงท้ายเกมนาที 83 มาดริด เกือบได้อีกครั้งจาก เฆเซ่ โรดริเกซ แต่ว่ายิงออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง

เวลาเวลาที่เหลือ พวกมาดริด บุกหนักหวังพังประตูเพิ่ม แต่ไม่ข้ามแนวรับ ฝ่ายบียาร์เรอัล จบเกม หมู่เรอัล มาดริด เสมอ ทีมบียาร์เรอัล 1 - 1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน โดย มาดริด มีเพิ่มเป็น 61 แต้ม ทิ้งห่าง ทีมบาร์เซโลน่า รองจ่าฝูง อยู่ 2 คะแนน ส่วน ทีมบียาร์เรอัล มี 45 คะแนน อยู่ที่ 6 ยินยอมเดิม


     
   

ผลบอลคู่อื่น


  • กลุ่มบาเลนเซีย 2 - 0 ฝ่ายเรอัล โซเซียดัด
  • เหล่าเออิบาร์ 0 - 1 พวกแอธ บิลเบา
  • ฝ่ายเซบีญ่า 0 - 0 คณะแอต มาดริด


ที่มา: http://sport.sanook.com/136689/ , http://sport.sanook.com/136055/
วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาเก็บตกดูศึกซูเปอร์ซันเดย์?

มาเก็บตกดูศึกซูเปอร์ซันเดย์?



สำหรับวิเคราะห์บอลเกมซูเปอร์ซันเดย์ที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นแม่น้ำ 2 สาย โดยสายแรกเป็นเกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง ทีมลิเวอร์พูล กับ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในขณะที่อีกคู่ ทีมอาร์เซนอลทำศึกกับ ทีมเอฟเวอร์ตัน ส่วนแม่น้ำอีกสายหนึ่งเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลแคปิตอลวัน คัพระหว่าง ทีมเชลซี กับ ทีมสเปอร์ส

ที่ล้วนแล้วแต่บิ๊กทีมทั้งนั้น หลังเกมการแข่งขันย่อมมีประเด็นให้พูดจากันแน่นอน

ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

และก่อนเกม ทีมเรือใบ นั้นมีแต้มตามหลัง ทีมเชลซี ที่ไม่มีคิวพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ 5 แต้ม เพราะฉะนั้น ผลแพ้ชนะ นั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากเก็บ 3 แต้มได้ไล่กดดันติดหลัง ทีมเชลซีทันที แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาปัญหาใหญ่ในการลุ้นแชมป์เกิดขึ้นทันตาเห็น


ซึ่งในฤดูกาลที่แล้ว ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่หลังลิเวอร์พูลไปเรื่อยๆ จนหงส์แดงพลาดเองและโดนแซงหน้าคว้าแชมป์ได้ในที่สุด ทว่านาทีนี้จะทำแบบนั้นได้อีกหรือเปล่าไม่กล้าคิดครับ

โค้ชมานูเอล เปเญกรีนี่

และก่อนหน้าที่จะเสีย 2 ประตูจากการยิงของ เฮนเดอร์สันกับคูตินโญ่ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ ลีกที่ไม่เสียประตูจากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษ

ซึ่งบทที่จะโดนขึ้นมาเสียท่า 2 ประตูรวดเลยทีเดียว ในเกมที่พ่ายให้กับบาร์ซ่า มานูเอล เปเญกรีนี่ ด้วยการจัดระบบ 4 - 4 - 2  ลงไปสู้ มิดฟิลด์ตัวกลางมี 2 คนในระบบนี้ในขณะที่ทีมบาร์ซ่ามีกองหน้า 3 คน


และเมื่อต้องเล่นเกมรับ สำหรับมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คนจะรับมือกองหน้า 3 คนของคู่แข่งไม่ทัน ช่วยปิดช่องให้กับแนวรับไม่สนิทพอ

ด้วยการที่เจอ ทีมลิเวอร์พูล เปเญกรีนี่ ยังคงมั่นใจในระบบนี้ ผลที่ออกมา ปกป้องแนวรับไม่ทันเหมือนเดิม โดนส่องตรงพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษนั่นแหละ

3 ประสานกองหน้าทีมหงส์แดง

1.อดัม ลัลลาน่า, 2.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ 3.ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คือ 3 กองหน้าของหงส์แดงที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ส่งลงลุยเรือใบ

และฟอร์มจัดจ้านทั้ง 3 คนครับ มาแบบพร้อมเพรียงจนแนวรับเรือใบปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ที่ได้พักจากเกมกลางสัปดาห์สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน


โดยที่มิดฟิลด์แซมบ้ายิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษได้อีกครั้ง กลายเป็นความคาดหวังเป็นอาวุธร้ายแรงอีกอย่างหนึ่งของ ทีมลิเวอร์พูล

และความขยันขันแข็งแต่ละคนไม่ต้องพูดถึง เมื่อเล่นเกมเพรสซิ่งแล้วแข้งขาไม่อ่อนไปซะก่อน ได้ผลอย่างที่ต้องการทันทีครับ

ตัวของแกเบรียล เปาลิสต้

เป็นที่แน่นอนว่าประสบการณ์ใน ศึกพรีเมียร์ลีกแทบไม่มี เป็นสิ่งที่ท้าทายกองหลังคนใหม่ของอาร์เซนอลที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมในช่วงกลางเทอมอย่างยิ่ง


ตัวของอาร์แซน เวนเกอร์ ต้องการเซ็นเตอร์แบ็กที่มีความเร็วพอตัวใช้งาน ทว่าการเดิมพันด้วยการรับมือ โรเมลู ลูกากู ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้นเกมเกือบมอบช่อดอกไม้ให้กับ ลูกากู โชคดีที่ ออสปิน่า ช่วยไว้ได้ทัน

แต่ทว่าหลังจากจังหวะนั้น แกเบรียล เปาลิสต้า ทำหน้าที่ของตัวเองได้สมบูรณ์แบบ การจับจังหวะการเล่นของเกมในพรีเมียร์ลีก สร้างปัญหาให้นักเตะต่างชาตินักต่อนัก

และเปาลิสต้า ยังคงต้องการประสบการณ์เข้ามาเสริมความแน่นอน แต่ถ้าเรียนรู้ได้เร็วเหมือนเกมเจอเอฟเวอร์ตันผลงานมีสิทธิ์ที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ

ตัวของชิรูด์กับประตูที่เขาต้องการ


ต้องเสียชื่อชั้นไปเยอะในเกมแพ้ ทีมโมนาโก พลาดแบบง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อจนกังวลกันว่า ชิรูด์ จะติดเชื้อนั้นจนลุกลามมาถึงเกมอื่นๆ

แต่ทว่าหลังจาก ทีมอาร์เซนอลสตาร์ทแบบอืดๆ เกมในแดนหน้าไม่หวือหวาอย่างที่คิด ชิรูด์ กลับยิงประตูที่ทีมและตัวเองต้องการปลดล็อคสถานการณ์บีบคั้นได้อีกครั้ง

และจอห์น สโตนส์ กองหลังทีมเอฟเวอร์ตัน ถึงกับออกอาการเหนื่อยใจกับ ประตูของ ชิรูด์ น่าจะปลอบใจค่ำคืนอันเลวร้ายในช่วงตารางบอลกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

เรื่องโดยดามัน

 



คลิปไฮไลท์พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 2-0 เอฟเวอร์ตัน
วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

ต้องอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเด็ดขาด ผลบอลแมนยู

ต้องอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเด็ดขาด!!




ก็ต้องขอบอกว่า "ปล่อยคนชั่วสิบคนดี ดีกว่าจับคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว!!!" นั้นเป็นวลีที่นึกขึ้นได้เมื่อวันก่อนหลังจากดูการถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกระหว่าง ทีมปิศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด กับ ทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์

ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามคาดลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน ฮัล เอาตัวรอดด้วยชัยชนะผลบอล 2-0

แต่ว่าในจังหวะที่อยากพูดถึงคงหนีไม่พ้น การที่ เวส บราวน์ อดีตศิษย์เก่าสำนักโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกผู้ตัดสิน โรเจอร์ อีสต์ ให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม

ซึ่งถ้าพี่น้ำตาลทำฟาวล์หรือกระทำผิดจริงๆ ในจังหวะที่ไปเหนี่ยว ศูนย์หน้าตีนบอด อย่าง ราดาเมล ฟัลเกา ก็คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ผู้กระทำผิด ที่แท้จริง ในจังหวะนั้น ดันเป็นเพื่อนร่วมอดีตสำนักเดียวกันอย่าง จอห์น โอเช ที่เป็นคนไปเหนี่ยวศูนย์หน้าชาวโคลอมเบีย

แต่ว่าที่สำคัญ ในจังหวะที่เหนี่ยวไม่ใช่แค่จับแล้วปล่อย แต่เป็นการเหนี่ยวแล้วยังดึงรั้งตัว ฟัลเกา ที่กำลังจะพลิกบอลเข้าไปยิงประตูถึง 2 จังหวะ 2 ครั้ง ด้วยกัน

และในขณะที่พี่น้ำตาลผู้โชคร้ายดันไปอยู่แถวนั้นพอดี เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น ยังไงก็เป็นจุดโทษ แต่กรรมการเจ้ากรรมดันไปให้ใบแดงพี่น้ำตาลแทนที่จะเป็นโอเช

ซึ่งเมื่อพี่น้ำตาลถูกกล่าวหาพยายามจะอธิบายให้ผู้ตัดสินเข้าใจว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดก็ไม่เป็นผล จึงต้องตกอยู่ในสถานะ ถูกจับแพะ แบบไม่มีทางเลือก




โดยที่แสบไปกว่านั้นคือ ผู้กระทำผิดที่แท้จริงอย่างโอเชดันเดินไปให้กำลังใจตบหลังพี่น้ำตาลตอนที่เดินออกจากสนาม เชื่อว่าในใจของ แพะ อย่างพี่น้ำตาลคงอาจจะคิดลึกๆ เผาพริกเผาเกลือให้เพื่อนร่วมทีมที่ลอยนวล

ซึ่งแทนที่จะช่วยเข้ามายืนยันว่าตัวเองทำผิดและยอมเดินออกจากสนาม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า โชคร้ายมากๆ ในแง่ความรู้สึก แม้ว่าใครจะถูกไล่ออกทีมก็คงแพ้เหมือนกัน เพราะทั้ง บราวน์ และ โอเช ไม่ได้มีใครเล่นดีกว่ากันซักเท่าไหร่

หากจะว่าไปก็คล้ายๆ กับเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเกมระหว่าง ทีมสิงห์บลู เชลซี กับ ทีมเบิร์นลี่ย์ ในจังหวะที่ เนมันย่า มาติช ถูกไล่ออกหลังจากวิ่งไปผลัก แอชลี่ย์ บาร์นส์

ในที่จังหวะก่อนหน้านั้น เจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละดันเข้าบอลเปิดปุ่มแบบน่าเกลียดใส่มิดฟิลด์ของ ทีมเชลซี

และที่สำคัญกรรมการเจ้ากรรม อีกแล้ว อย่าง มาร์ติน แอตกินสัน ที่มากประสบการณ์ดันไม่เห็น หรือเปล่า ในจังหวะนั้น จึงไม่ได้เป่าฟาวล์หยุดเกมแต่อย่างใด

ซึ่งจริงๆ ขอแนะนำใครที่มีเวลาลองหาเทปหรือคลิปย้อนดูในจังหวะนั้นอีกรอบ จะรู้ว่าเจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละสมควรโดนไล่ออกจากสนามในฐานะผู้กระทำผิดที่แท้จริง




และเหตุผลที่ มาติช เองนั้นก็คุมอารมณ์ไม่อยู่ จริงๆ จังหวะนั้นถ้าใครคุมอยู่ก็คงต้องชาบู บูชา ก็ต้องรับกรรมไป ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็น เหยื่อ ก่อนแท้ๆ ขณะที่ผู้ร้ายลอยนวล!!!

ซึ่งในเหตุการณ์นั้นต้องยอมรับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกมคู่นี้ เพราะเชลซีที่เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า ถูกตีเสมอ จบเกมจากสามแต้มที่ควรได้เหลือเพียงแต้มเดียว

และนี่แหละคือเกมฟุตบอลที่ Human Error อาจจะเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้แฟนบอลทั้งหลายบางคน

แต่ว่าสำหรับผู้ถูกกระทำอย่าง เวส บราวน์ และ เนมันย่า มาติช คงขำไม่ออก และเจ็บปวดพอสมควรกับโลกของฟุตบอลที่บางทีความยุติธรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่ายๆ ครับ

ที่มา:http://sport.sanook.com/136273/

ติดตามชมอ่าน ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก ตารางบอล ได้ที่ http://sport.sanook.com
วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลอฟเรน ยิงโทษไม่เข้าม เบซิคตัสเฉือนชนะหงส์ 5-4

ตกรอบแล้ว! ลอฟเรน ยิงโทษไม่เข้า

ทำให้เบซิคตัสเฉือนชนะหงส์ 5-4 +คลิป





  • ศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2014 - 2015 รอบ 32 ทีมสุดท้าย
  • แข่งวันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558
  • ทีมเบซิคตัส 1 - 0 ทีมลิเวอร์พูล
  • แพ้จุดโทษ 5 - 4
  • สำหรับผลการแข่งขันนัดแรก ทีมลิเวอร์พูล 1 - 0 ทีมเบซิคตัส
  • แข่งที่สนาม : อาตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม , เมืองอิสตัลบูล
  • กรรมการผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมินา


ในนาทีที่ 25 ทีมหงส์แดง นั้นเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะสเตอร์ริดจ์จิ้มบอลขึ้นหน้าให้ราฮีมหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่เจ้าตัวไม่ยอมยิง โชว์พริ้วล็อกก่อน ทำให้กองหลังตามมาปิดได้หมด

ซึ่งนาทีที่ 72 เจ้าบ้านเฮสนั่น หลังได้ประตูขึ้นนำ บอลเริ่มจากริมเส้นฝั่งซ้าย ส่งบอลถึงบา พักบอลให้อาร์สลานวิ่งเข้ามาปั่นระยะ 20 หลา บอลพุ่งโค้งหนีมือ มิโญเล่ต์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม 1 - 0

หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ ซึ่ง นาทีที่ 100 ทีมเบซิคตัส เกือบได้ประตูชัย บาได้บอลหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา ตัดสินใจยิงทันที ติดเซฟของมิโญเล่ต์ก่อนที่สเคอร์เทลตามมาเคลียร์ได้ทัน

และหลังจากที่หมดช่วงต่อเวลาพิเศษ ถึงเวลาต้องยิงจุดโทษหาผู้ชนะแล้ว หลังผลรวมสกอร์ทั้งสองนัดเสมอกัน 1 - 1 โดยผลการยิงจุดโทษมีดังนี้

ทีมเบซิคตัส :

  1. บา ผลการยิง เข้า
  2. โตเร่ ผลการยิง เข้า
  3. คาฟลัค ผลการยิง เข้า
  4. ฮัตชินสัน ผลการยิง เข้า 
  5. อาร์สลาน ผลการยิง เข้า


ทีมลิเวอร์พูล :

  1. แลมเบิร์ต ผลการยิง เข้า
  2. ลัลลาน่า ผลการยิง เข้า
  3. ชาน ผลการยิง เข้า
  4. อัลเลน ผลการยิง เข้า
  5. ลอฟเรน ผลการยิง ไม่เข้า


ทำให้จบเกม ทีมลิเวอร์บุกมาพ่ายแพ้ให้กับ ทีมเบซิคตัส ด้วยผลการดวลจุดโทษ 5 - 4 หลังผลสกอร์ทั้งสองนัดเสมอกัน 1-1 ซึ่งเป็น ลอฟเรน คนยิงคนสุดท้ายที่ยิงชนคานฉีกตั๋วเข้าโปรแกรมบอลรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูโรป้า ลีก เรียบร้อย และเป็นเบซิคตัสที่ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

มาดูรายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ทีมเบซิคตัส 4 - 5 - 1 : 

  • เชงค์ โกเนน 
  • เซอร์ดาร์ เคอร์ตูลุส 
  • เปโดร อูญัว 
  • เนซิป อูซาล 
  • ดาเนี่ยล โอปาเร่ 
  • โฆเซ่ โซซ่า 
  • ก็อคคาน โตเร่ 
  • เวลี่ คาฟลัค 
  • โอลคาย ซาฮาน 
  • อติบา ฮัตชินสัน 
  • เด็มบา บา


ทีมลิเวอร์พูล 3 - 4 - 3 : 

  • ซิมง มิโญเล่ต์
  • โคโล่ ตูเร่ 
  • เดยัน ลอฟเรน 
  • มาร์ติน สเคอร์เทล 
  • อัลเบร์โต้ โมเรโน่ 
  • เอ็มเร่ ชาน 
  • โจ อัลเลน 
  • จอร์ดอน ไอบ์ 
  • แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 
  • มาริโอ บาโลเตลลี่ 
  • ราฮีม สเตอร์ลิ่ง



วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลเวอร์คูเซ่น vs แอตเลติโก มาดริด

วิเคราะห์บอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลเวอร์คูเซ่น vs แอตเลติโก มาดริด




  • วิเคราะห์บอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก 
  • ทีมเลเวอร์คูเซ่น vs ทีมแอตเลติโก มาดริด 
  • แข่งวัน พุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 
  • แข่งเวลา: 02.45 นาฬิกา 
  • แข่งที่สนาม: ไบอารีนา 
  • กรรมการผู้ตัดสิน: พาเวล คราโลเว็ค ประเทศเช็ก 
  • ด้านสภาพอากาศ: 3 องศา, มีฝนเล็กน้อย 
  • ช่องที่ถ่ายทอดสด: TrueSport 3, TrueSport HD, TrueSport HD3


สำหรับผลการพบกัน 2 นัดหลังสุด

  1. วันที่ 16/12/10 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก เลเวอร์คูเซ่น 1 - 1 แอต.มาดริด
  2. วันที่ 30/09/09 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แอต.มาดริด 1 - 1 เลเวอร์คูเซ่น



ผลงาน 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม

ทีมเลเวอร์คูเซ่น

  1. วันที่ 21/2/15 ผลบอล เสมอ เอาก์สบวร์ก 2 - 2 นัดเยือน
  2. วันที่ 14/2/15 ผลบอล แพ้ โวล์ฟสบวร์ก 4-5 นัดเหย้า
  3. วันที่ 8/2/15   ผลบอล แพ้ เบรเมน 1-2 นัดเยือน
  4. วันที่ 4/2/15   ผลบอล ชนะ แฮร์ธ่า 1-0 นัดเยือน
  5. วันที่ 31/1/15 ผลบอล เสมอ ดอร์ทมุนด์ 0-0 นัดเหย้า


ทีมแอต.มาดริด

  1. วันที่ 21/2/15 ผลบอล ชนะ อัลเมเรีย 3-0 นัดเหย้า
  2. วันที่ 15/2/15 ผลบอล แพ้ เซลต้า 0-2 นัดเยือน
  3. วันที่ 7/2/15   ผลบอล ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 นัดเหย้า
  4. วันที่ 31/1/15 ผลบอล ชนะ เออิบาร์ 3-1 นัดเยือน
  5. วันที่ 28/1/15 ผลบอล แพ้ บาร์เซโลน่า 2-3 นัดเหย้า



เช็กความพร้อม-สภาพทีม


ทีมเลเวอร์คูเซ่น

  • ในส่วนของโอเมอร์ ท็อปรัค ติดโทษแบน 
  • ส่วนทางด้าน ทิน เยดไว ยังต้องรอลุ้นฟิต 
  • ส่วน คิริอากอส ปาปาโดปูลอส กับ เอเมียร์ สปาฮิช คงยืนเซ็นเตอร์คู่กัน 
  • ด้าน จูลิโอ โดนาติ นั้นต้องลุ้นว่าจะเบียดลงยืนแบ็กขวาได้หรือไม่ 
  • สำหรับสเตฟาน ไรนาร์ทซ์ พร้อมเป็นตัวเลือกในแดนกลางแล้ว 
  • แต่ว่า ลาร์ส เบนเดอร์ อาจยังไม่ฟิตพอ 
  • และโยซิป เดอร์มิช คงจะยืนศูนย์หน้า

รายชื่อนักเตะโดนแบน: โทเมอร์ ท็อปรัค


ทีมแอต.มาดริด

  • สำหรับโกเก้ ยังไม่หายเจ็บกลับมาเสริมแดนกลาง 
  • ส่วนอาร์ด้า ตูราน อาจชวดบู๊ด้วย ถ้าฟิตไม่ทันจากการบาดเจ็บระหว่างซ้อม 
  • แต่ว่า ติอาโก้ น่าจะพร้อมเป็นตัวเลือกได้ หลังกลับมาลงเล่นในสองนัดหลังสุดแล้ว 
  • ทางด้านของเฟร์นานโด ตอร์เรส คงต้องรอโอกาสในฐานะตัวสำรองไปก่อน 
  • เพราะว่า อองตวน กรีซม็อง กับ มาริโอ มันด์ซูคิช คงจะยืนคู่กันในแนวรุก



มาวิเคราะห์รูปเกม

โดยรวมแล้วทั้งสองทีมฟอร์มแกว่งไปเยอะ ทีมเลวอร์ฯ คงต้องเปิดเกมบุกเพื่อชิงความได้เปรียบไว้ก่อนกับการเล่นในบ้าน เพราะไปเยือน ทีมแอต มาดริดนัดหน้าคงเป็นงานที่หนักขึ้นอีกเยอะ เกมนี้ห้างขายยาต้องเน้นต่อบอลเข้าทำให้แน่นอน เพราะตราหมีดูฉาบฉวยและวูบวาบกว่า แต่ด้วยวินัยของเจ้าถิ่น เกมนี้มีลุ้นแน่และคงไม่พลาดท่าง่ายๆ


รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกที่คาด

ทีมเลเวอร์คูเซ่น 4 - 2 - 3 - 1:

  • 1.แบรนด์ เลโน
  • 27.กอนซาโล่ คาสโตร 
  • 14.คิริอากอส ปาปาโดปูลอส 
  • 5.เอเมียร์ สปาฮิช 
  • 18.เวนเดลล์
  • 6.ไซม่อน โรลเฟส 
  • 3.สเตฟาน ไรนาร์ทซ์
  • 38.คาริม เบลลาราบี้ 
  • 10.ฮาคาน คัลฮาโนกลู 
  • 7.ซอนเฮืองมิน
  • 9.โยซิป เดอร์มิช
โค้ชทีม: โรเจอร์ ชมิดท์


ทีมแอต.มาดริด 4 - 4 - 2:

  • 1.มิเกล โมย่า
  • 20.ฆวนฟราน 
  • 23.มิรันด้า 
  • 2.ดิเอโก้ โกดิน 
  • 3.กีเลอร์เม่ ซีเกร่า
  • 8.ราอูล การ์เซีย 
  • 14.กาบี้ 
  • 5.ติอาโก้ 
  • 17.ซอล นีเกซ
  • 7.อองตวน กรีซม็อง
  • 9.มาริโอ มันด์ซูคิช

โค้ชทีม: ดิเอโก้ ซิเมโอเน่


ผลฟุตบอลฮอตสกอร์: ทีมเลเวอร์คูเซ่น ชนะ 2-3 แอต มาดริด

สำหรับเกร็ดที่น่าสนใจ

  • ข้อแรก ทีมเลเวอร์คูเซ่นไม่ชนะเลยใน 3 นัดหลังสุด เสมอ 1 แพ้ 2 และชนะแค่ 2 จาก 10 เกมหลังเท่านั้น ชนะ 2 เสมอ 5 แพ้ 3
  • ข้อที่สอง ทีมแอตมาดริด เสมอแค่ครั้งเดียวจาก 13 นัดหลังสุด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 4 และไม่เสมอเลยใน 8 เกมหลัง
ที่มา: http://sport.sanook.com/134997/
วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฟุตบอล: แมตช์อำลา เจอร์ราร์ด,ผีแดงบนความปราชัย,โจอี้ บาร์ตัน

ล่าสุด!!! อลอนโซ่ - ตอร์ - ซัวเรซ ร่วมแข่งแมตช์อำลา เจอร์ราร์ด




หลังจากที่เหล่าแข้งทีมหงส์แดง ได้เตรียมรีเทิร์นกลับคืนถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อลงสนามเตะในเกมเทสติโมเนียลแมตช์อำลา ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้

ซึ่งเมื่อสื่อกีฬาเมืองผู้ดี รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ทีมลิเวอร์พูล ได้ทำหนังสือเชิญ

  1. ชาบี้ อลอนโซ่
  2. เฟอร์นานโด ตอร์เรส
  3. หลุยส์ ซัวเรซ 
  4. ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 
  5. เปเป้ เรน่า 

เพื่อให้เข้าร่วมเกมฟุตบอลนัดพิเศษเทสติโมเนียลแมตช์ อำลา ทีมลิเวอร์พูล ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

โดยที่ทั้งหมดนั้นล้วนเคยเล่นให้กับ ทีมหงส์แดง อีกทั้งได้ร่วมงานกับกัปตัน สตีวี่จี มาก่อน โดยกองกลางในวัย 34 ปีชาวอังกฤษ จะย้ายไปอยู่กับ ทีมลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ สโมสรในศึกเมเจอร์ลีก ซ็อคเก้อร์ สหรัฐอเมริกา หรือ เอ็มแอลเอส หลังจบฤดูกาลนี้

และทั้งนี้ การจัดแมตช์อำลาให้กับ เจอร์ราร์ด ก็เพื่อเป็นการเชิญชูเกียรติที่อยู่รับใช้เดอะ ค็อป มาอย่างยาวนานถึง 17 ปี และงานจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้ ที่สนามแอนฟิลด์

ทีมผีแดงบนความปราชัย ในเชิงลูกหนัง!



และสำหรับผลงานของ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระดับห่วยสิ้นดี เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา หลังบุกไปพ่าย ทีมสวอนซี 1 - 2 พร้อมกับโดนย้ำแค้นแบบ - ทั้งไป และ กลับ

ซึ่งความอึดอัด ความพะอืดพะอม ตลอด 90 นาที นี่ถ้าไม่นับลูกการเข้าทำแบบสวยหรูในจังหวะขึ้นนำ 1 - 0 จากลูกยิงของ อันเดร์ เอร์เอร่า ก็ต้องขอบอกว่า ตลอดเกมเล่นได้ตามมาตรฐาน คือ ห่วยเหมือนเดิม

และถึงตรงนี้ ใครที่เป็นแฟนๆ ทีมปีศาจแดง ก็มิอาจปฏิเสธความเป็นจริงว่า ฟอร์มแบบนี้คงต้องกระเสือกกระสนไปยันจบฤดูกาลแน่นอน ในการคั่วโควต้าไปลุยถ้วย ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก

และ คำถามต่างๆมากมาย ได้วิ่งตรงไปยังผู้เป็นนายใหญ่ อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พร้อมกับคำถามเดิมๆ ว่า จนป่านนี้ ทำไมยังหา 11 ตัวจริงไม่ได้สักที!

และหลังจากที่ ทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก นั้นได้กลับสำแดงเดชในสนามได้แค่นี้นะหรือ? คิดๆ แล้วก็เจ็บปวดแทนบรรดา ทีมเร้ดอาร์มี่




และผู้เล่นอย่าง อังเคล ดิมาเรีย นั้นเริ่มต้นแบบสุดหรู แต่หลังจากผ่านมา 3 เดือน กลับถอยหลังลงคลอง อาวุธหลักอย่างการเปิดบอลระดับแม่นเป็นจับวางหายไปหมด

โดยฟอร์มเปรี้ยงปร้าง เมื่อต้นซีซั่น ได้หายเข้ากลีบเมฆไปซะอย่างงั้น

เมื่อถึง ณ จุดหนึ่งที่รู้สึกได้เลย ถึงสาเหตุ ที่ส่งให้ผลงานให้พลพรรค ทีมผีแดง ฟอร์มไม่เอาอ่าวยามนี้ คือ ความมั่นใจ

และทุกคนกำลังขาดมั่นใจ ที่สำคัญคือสภาวะความไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย




ก็จะยกตัวอย่างได้คือ ลุค ชอว์ ที่ย้อนไปเมื่อซีซั่นก่อนที่อยู่กับ ทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ฟอร์มนี่เข้าตา เกมรุกสะเด่าเหลือหลาย

แต่ว่าหลังจากมาอยู่บนยูนิฟอร์ม ทีมปีศาจแดง กลับฟอร์มหลุด ฟอร์มหาย พร้อมกับเดินหน้าเข้าโรงหมอ มากกว่าอยู่ในฟลอร์หญ้าซะอีก

และสิ่งที่แฟนๆ ทีมแมนฯยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ ตั้งความหวังหลังจากผ่านเกมหายนะเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ก็คงจะต้องขอบอกว่า ขอแค่ทีมรักประคองตัวเอง แล้ววิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมโควต้าไปลุยบอล ยุโรปถ้วยใหญ่ก็เป็นพอ ถึงแม้ว่าฟอร์มแบบไหนก็ช่างหัวมันเถอะ




ส่วนในด้าน ฟุตบอล เอฟเอคัพ นั้นจะไปถึงแชมป์หรือไม่แฟนๆ คงไม่แยแสเท่าไหร่นัก ประมาณว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

แต่ว่าเชื่อเถอะ หากซีซั่นนี้ลงเอย ด้วยการไม่ติด 1 - 4 ของลีก บอกเลยว่างานนี้อาจถึงขั้นวงแตกแน่นอน

ทั้งนี้คนที่จะโดนเชือดคือผู้ที่นั่งอยู่บนบังลังก์กุนซือ ด้วยโดนข้อหาฉกรรจ์จากผู้บริหาร

และนั่นคือข้อหา I ทุ่มเงินซื้อนักเตะขนาดนี้ You ทำทีมได้แค่นี้เหรอวะ

เขียนเรื่องโดย บ.ส้มซิ่ง

คลิ๊กชมคลิป ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก ครบทุกคู่ แบบชัดๆ ระดับ HD ได้ที่นี่



ฟุตบอล โจอี้ บาร์ตัน ใช้มือกระทุ้งเจ้าโลกคู่แข่ง +คลิป



หลังจากที่ โจอี้ บาร์ตัน กัปตันทีมของ ทีมQPR ก่อเหตุฉาวโฉ่อีก เมื่อตั้งใจใช้มือกระทุ้งเจ้าโลกคู่แข่ง จนโดนไล่ออกจากสนาม

สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นระหว่างในศึกพรีเมียร์ลีก นัดวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในเกมที่ ทีมฮัลล์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 2 - 1

ซึ่งเกมในครึ่งแรก นาทีที่ 33 ตัวของโจอี้ บาร์ตัน กับตันทีมอารมณ์ร้อน กำลังมีปากเสียงกับผู้เล่นของเจ้าถิ่น

โดยขณะที่กำลังปะทะคารมณ์กันดุเดือด บาร์ตัน ได้ออกอาวุธเด็ด นั่นคือการยื่นมือไปกระทุ้งเข้าที่กล่องดวงใจของ ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน มิดฟิลด์ของ ทีมฮัลล์ ซิตี้ แบบตั้งใจสุดๆ

และหลังจากนั้นผู้ตัดสิน ก็ตาไวพอที่จะเห็นช็อตดังกล่าว เลยจัดการมอบใบแดงตอบแทนความเกเรของมิดฟิลด์พันธุ์ดุรายนี้ในทันที






วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ล่าสุด!! อองรี นั่งสต๊าฟฟ์โค้ชอะคาเดมี่ชุดยู 16 ปี

ล่าสุด!! อองรี นั่งสต๊าฟฟ์โค้ชอะคาเดมี่ชุดยู 16 ปี

ภายหลังที่เธียร์รี่ อองรี แข้งตำนานกองหน้าชาวน้ำหอมวัย 37 ปี ได้ผันตัวเองเข้ามาทำงานเป็นโค้ชดูแลนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีที่ เฮล เอ็นด์ อะคาเดมี่ของ เหล่าปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นก้าวแรกเพื่อการไปเป็นกุนซือในอนาคต พร้อมทั้งความฝันก็คือดูแลพวกชุดใหญ่ เหล่าเดอะ กันเนอร์ส

ซึ่งเท่าที่วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ลอดมา เธียร์รี่ อองรี ได้เข้ามาทำงานในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งด้วยการเป็นหนึ่งในเหล่างานสต๊าฟฟ์โค้ช หลังประสบความสำเร็จในการค้าแข้งกับสโมสรฟุตบอล เหล่าปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ซึ่งปัจจุบันในวัย 37 ปีทำงานเป็นหนึ่งในกูรูวิเคราะห์เกมลูกหนังให้กับ Sky Sports สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ประจำเกาะอังกฤษ

พร้อมทั้งล่าสุด อดีตกองหน้าเหล่าชาติฝรั่งเศส ก็ได้เข้าไปนั่งทำงานเป็นโค้ชให้กับทีมเยาวชนดูแลนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีของสโมสร พวกปืนใหญ่ อาร์เซน่อล พร้อมทั้งความฝันที่ทะเยอทะยานจักทำหลังได้รับวิชาชีพการเป็นโค้ช ก็คือการได้คุมทัพ เหล่าเดอะ กันเนอร์ส ชุดใหญ่สักครั้งในชีวิต ซึ่งนี้เป็นการพางบุกเบิกต้น พร้อมกับหวังว่าแฟนบอลจะได้เห็นฝีมือการควบคุมทีมในอีกไม่นานเกินรอนับจากนี้

ที่มา: http://sport.sanook.com/133773/
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวกีฬา:บีร็อดชมแข้งหงส์,โค้ชหนึ่งรับทีมไทยอ่อนล้า,สารัชยิงทีมเก่า

บีร็อด ชมแข้งหงส์แดงครึ่งหลังเล่นดีและสมควรชนะ




หลังจากที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์วัย 42 ปีชาว ไอร์แลนด์เหนือ ได้ออกมากล่าวชื่นชมลูกทีม โดยเฉพาะเกมครึ่งหลัง ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ทำผลงานได้ดีจนสามารถพลิกแซงเอาชนะเจ้าบ้าน ทีมคริสตัล พาเลซได้  2 - 1 ชี้ว่าสมควรแล้วที่ทัพ ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล จะได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

สำหรับศึกบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2014 - 2015 รอบ 5 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังบุกไปเอาชนะ ทีมปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ถึงถิ่น เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค  2 - 1 โดย เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ยิงให้เจ้าบ้านออกนำไปก่อนจะโดนทีมเยือนเอาคืนสองลูกรวดจาก 1.ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ 2.อดัม ลัลลาน่า

โดยหลังจากจบเกมการแข่งขัน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ในถิ่นแอนฟิลด์ นั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีกับครั้งที่แล้วที่เรามาที่นี่กับฟอร์มการเล่นของเรา นั่นคือช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับเราจริงๆ และจากตรงนั้นทีมของเราก็ดีขึ้นมาก มันเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมในการต่อกรกับทีมที่ยากลำบากในวันนี้ แต่ผมคิดว่าเราเหมาะสมแล้วนะที่ได้รับชัยชนะ

เขากล่าวต่ออีกว่า เราเริ่มเกมกันอย่างเชื่องช้า แต่เมื่อเราทำสกอร์ได้ เราก็คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดเลย ทีมเรามีความยืดหยุ่นและเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ หลังจากที่เราทำประตูได้ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีมากๆ ในครึ่งแรกเราได้ลองยิง 15 ครั้ง แต่เราไม่ดุดันพอ ผมอยากให้เราคอยเล่นด้วยการฉีกออกด้านข้างต่อไป เราเปลี่ยนแผนในช่วงพักครึ่ง และมันได้ผลดีสำหรับเรา อดีตกุนซือ สวอนซี กล่าว

โค้ชหนึ่ง รับน่องนิ่มไทยล้าทำพ่าย ทีมสตองดาร์ด ลีแอช 1 - 3 ปรับแก้ลุยอุ่นต่อ ทีมอาแจ็กซ์ 17 กุมภาพันธ์ นี้




สำหรับความเคลื่อนไหวนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ศึกฟีฟ่า วีเมนส์ เวิลด์คัพ 2015 ที่ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน -  5 กรกฏาคม 2558

โดยในระหว่างที่กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมอยูที่เมือง มาสทริชท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเมื่อช่วงดึกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทีมสาวไทยลงเตะอุ่นเครื่องนัดที่ 3 พ่ายให้กับทีมฟุตบอลหญิงสตองดาร์ด ลีแอช ทีมจากลีกเบลเยียม 1 - 3 ที่สนามยูธ คอมเพล็กซ์ สตองดาร์ด เมืองลีแอช ประเทศเบลเยียม

ในเกมนี้ โค้ชหนึ่ง หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ซึ่งเป็นเฮดโค้ชทีมแข้งสาวไทยเปิดโอกาสให้นักเตะตัวสำรองลงสนามเป็นส่วนใหญ่ โดยครึ่งแรกนาทีที่ 34 ทีมสตองดาร์ด ลีแอช ยิงนำก่อน 1 - 0 จาก สคุนมาร์กัส โหม่งบอลเข้าประตูไป

หลังจากนั้นนาทีที่ 38 ทีมเจ้าถิ่นขยับสกอร์หนีห่างเป็น 2 - 0 จาก สคุนมาร์กัส คนเดิม แต่นาทีที่ 39 ทีมชาติไทยยิงตีไข่แตก 1 - 2 จากเนตร กาญจนา สังข์เงิน ได้เปิดบอลให้ ฝน หรือ นิสา ร่มเย็น โหม่งบอลไปติดเซฟนายทวารสตองดาร์ด ลีแอช บอลทะลักไปเข้าทาง อลิษา รักพินิจ นักเตะตัวสำรองตามซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย

ซึ่งในครึ่งหลังนาทีที่ 50 ลีเวิร์ดเรดซ่า นั้นโหม่งบอลเข้าประตูไปช่วยให้ ทีมสตองดาร์ด ลีแอช เอาชนะไป 3 - 1 ทำให้ทีมแข้งสาวไทยอุ่นเครื่องไปแล้ว 3 นัด แพ้รวด 3 นัด

และหลังจบเกม โค้ชหนึ่ง หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ได้เปิดเผยว่า สำหรับเกมอุ่นเครื่องกับ สตองดาร์ด ลีแอช นี้ จะเห็นได้ว่านักเตะตัวหลักมีอาการเหนื่อยล้าจาก 2 เกมที่ผ่านมา เพราะต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่งกว่ามากทั้งสิ้น

ซึ่งในช่วงครึ่งหลังได้ส่งนักเตะสำรองลงสนามไป และนักเตะก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ มีบางคนเท่านั้นที่ยังมีจุดที่จะต้องปรับแก้ไขอยู่บ้างเพื่อเตรียมตัวลงเตะอุ่นเครื่องนัดต่อไปที่จะพบกับ สโมสรฟุตบอลหญิง ทีมอาแจ็กซ์อัมสเตอร์ดัม จากลีกเนเธอร์แลนด์ วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้

สารัช อยู่เย็น ยิงทีมเก่า ช่วยทีมเมืองทองเชือด ทีมสวาทแคท คารัง




ในการการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ทีมสวาทแคท นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมน้องใหม่ พบกับ ทีมกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

และสำหรับรายชื่อผู้เล่นของทาง ทีมนครราชสีมา นั้นประกอบไปด้วย

  1. ประภาส กอบแก้ว
  2. สถาพร แดงสี
  3. ซาโตชิ นากาโนะ
  4. ประลอง สาวันดี
  5. ไกรเกียรติ เบียดตะคุ
  6. โนอาห์ ชิวูต้า
  7. ปริญญา อู่ตะเภา
  8. บียอร์น ลินเดมันน์
  9. ลี ทัค
  10. ยุทธนา เรืองสุขสุด
  11. อัครวินท์ สวัสดี


ในส่วนของ ทีมเอสซีจี เมืองทอง มี

  1. กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
  2. วีระวุฒิ กาเหย็ม
  3. อาทิตย์ ดาวสว่าง
  4. นาโออากิ อาโอยามะ
  5. ปิยพล ผานิชกุล
  6. ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
  7. สารัช อยู่เย็น
  8. ดัสกร ทองเหลา
  9. มาริโอ ยูรอฟสกี้
  10. ธีรศิลป์ แดงดา
  11. เคลตัน ซิลวา


ในช่วงนาทีที่ 29 ทีมเมืองทองเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากลูกยิงของ เคลตัน ซิลวา แต่ว่า ประภาส กอบแก้ว ผู้รักษาประตูโคราชพุ่งปัดเอาไว้ได้

จากนั้นในนาทีที่ 34 ทีมเมืองทองเกือบได้ลุ้นอีกครั้งจาก ธีรศิลป์ แดงดา แต่ก็ไปติดบล๊อกของ ซาโตชิ นากาโนะ จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0 - 0

ในช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ทีมเมืองทอง ขึ้นนำจนได้ เมื่อ คลีตัน ซิลวา ยิงไปแฉลบกองหลัง แล้วบอลไปเข้าทาง สารัช อยู่เย็น ที่วิ่งขึ้นมาแปเข้าไป จากนั้นก็ไม่มีฝั่งไหนทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ทำให้ทีม นครราชสีมา แพ้ ทีมเอสซีจี เมืองทอง 1 - 0

และโปรแกรมบอลนัดต่อไปวันที่  21 กุมภาพันธ์ นครราชสีมา จะออกไปเยือน ทีมสุพรรณบุรี เอฟซี ส่วน ทีมเอสซีจี เมืองทองฯ นั้นจะทำศึกบิ๊กแมตช์ในบ้าน พบกับ ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ในขณะที่ผลคู่อื่นๆ ทีมชัยนาท ฮอร์นบิล แพ้ ทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด 1 - 2 โดยแบงค็อกขึ้นนำก่อน 2 - 0 จาก เลอันโดร ตาตู ในนาทีที่ 40 และ เอกชัย สำเร นาทีที่ 56 ส่วน ทีมชัยนาท นั้นได้ประตูจาก มิคาเอล เมอร์ซีย์ ในนาทีที่ 58

ในด้าน ทีมราชมังคลากีฬาสถาน โอสถสภา เอ็ม - 150 สระบุรี เสมอกับ ทีมสุพรรณบุรี เอฟซี 1 - 1

ที่มา: http://sport.sanook.com/football/