วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

นาโปลี 1-1 บาร์เซโลนา: คลิปไฮไลท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก




นาโปลี 1-1 บาร์เซโลนา: ไฮไลท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (คลิป)


การแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก คู่ระหว่าง นาโปลี พบกับ บาร์เซโลน่า ที่สนาม ซาน เปาโล เมื่อคืนวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

  • 10น. : เจ้าบ้านได้โอกาสจากจังหวะที่ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ดีดขึ้นหน้าให้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ได้ยิงหน้าเขตโทษแต่บอลไปตรงตัว แทร์ ชเตเก้น รับเข้าซองได้ไม่ยาก
  • 30น. : นาโปลี มาได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ พิโอเตอร์ เซียลินสกี้ ไปแย่งบอลจาก จูเนียร์ ฟีร์โป้ แล้วลากขึ้นหน้าก่อนเปิดย้อนไปให้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ สับไกด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมสุดงาม
  • 42น. : เจ้าบ้านเกือบได้เพิ่ม ฟาเบียน รูอิซ วางบอลยาวไปที่เสาแรก โฆเซ่ กาเยฆ่อน เปิดจังหวะเดียวให้ คอสตาส มาโนลาส ได้ยิงจ่อๆ หลุดกรอบเหลือเชื่อ หมดครึ่งแรก นาโปลี ออกนำ 1-0
  • 57น. : ทีมเยือนต่อเกมสวย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ จ่ายให้ เนลซอน เซเมโด้ หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้ อองตวน กรีซมันน์ ซัดตุงตาข่าย บาร์เซโลน่า ตามตีเสมอ 1-1
  • 61น. : ลอเรนโซ่ อินซินเย่ โชว์สกิลเหนือลากหลบแนวรับทีมเยือน 2 คน ก่อนหลุดเข้าเขตโทษไปกดด้วยขวาแต่ แทร์ ชเตเก้น ล้มตัวรับไว้ได้ทัน
  • 63น. : เจ้าบ้านเกือบได้อีกครั้ง อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค แทงทะลุให้ โฆเซ่ กาเยฆ่อน ได้หลุดเดี่ยวไปยิงแต่กลับซัดไปติดตัว แทร์ ชเตเก้น อย่างน่าเสียดาย
  • 98น. : บาร์เซโลน่า ต้องมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ อาร์ตูโร่ วิดัล ไปเสียบหนักใส่ มาริโอ รุย ที่ริมเส้น ผู้ตัดสินชูใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ต้องออกจากสนามไป
  • จบเกม : นาโปลี เปิดบ้านเสมอกับ บาร์เซโลน่า 1-1 ในนัดแรก ส่วนนัดสองจะต้องกลับไปเล่นที่คัมป์ นู บ้านของ บาร์เซโลน่า

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


นาโปลี (4-3-3) :
  1. ดาวิด ออสปิน่า
  2. โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่
  3. คอสตาส มาโนลาส
  4. นิโกล่า มัคซิโมวิช
  5. มาริโอ รุย
  6. ฟาเบียน รูอิซ
  7. ดีเอโก้ เดมเม่
  8. พิโอเตอร์ เซียลินสกี้
  9. โฆเซ่ กาเยฆ่อน
  10. ดรีส์ เมอร์เท่นส์
  11. ลอเรนโซ่ อินซินเย่

บาร์เซโลน่า (4-3-3) :
  1. มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น
  2. เนลซอน เซเมโด้
  3. เคราร์ด ปีเก้
  4. ซามูเอล อุมติตี้
  5. จูเนียร์ ฟีร์โป้
  6. เฟร็งกี้ เดอ ยอง
  7. เซร์คิโอ บุสเก็ตส์
  8. อิวาน ราคิติช
  9. ลิโอเนล เมสซี่
  10. อองตวน กรีซมันน์
  11. อาร์ตูโร่ วิดัล
ผู้ตัตสิน : เฟลิกซ์ บรีช (เยอรมัน)

ไฮไลท์ เชลซี 0-3 บาเยิร์น มิวนิค: UCL 2019-20




ไฮไลท์ฟุตบอล เชลซี 0-3 บาเยิร์น มิวนิค: UCL 2019-20


การแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก คู่ระหว่าง เชลซี พบกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

11น.: ทีมเยือนเกือบได้ประตูออกนำ คิงส์เล่ย์ โกมัน ทำชิ่งกับ โธมัส มุลเลอร์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายชนิดได้ลุ้น

27น.: "เสือใต้" ได้โอกาสอีกครั้ง โธมัส มุลเลอร์ จ่ายตัดแนวรับให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มด้วยขวาแต่ วิลลี่ กาบาเยโร่ ออกมาล้มตัวบล็อกไว้ได้ทัน

35น.: บาเยิร์น น่าจะได้อีกครั้ง แซร์จ นาบรี้ เปิดบอลโค้งเข้าเขตโทษ โธมัส มุลเลอร์ โหม่งกลับหลังบอลพุ่งชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

43น.: โอกาสของเจ้าถิ่นบ้างจากจังหวะสวนกลับ มาร์กอส อลอนโซ่ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนกดเรียดด้วยซ้าย แต่ มานูเอล นอยเออร์ ล้มตัวทุบทิ้งไว้ได้ หมดครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

50น.: บาเยิร์น มาได้ประตูนำ 1-0 จากการประสานงานอันยอดเยี่ยม แซร์จ นาบรี้ ทำชิ่งกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก่อนได้ซัดด้วยขวาตุงตาข่าย

54น.: ทีมเยือนโต้กลับอีกครั้ง แซร์จ นาบรี้ ทำชิ่งกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก่อนหลุดเข้าไปซัดเสียบโคนเสาเข้าไปเด็ดขาดให้ บาเยิร์น หนีเป็น 2-0

75น.: "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เกมบุกสวนน่ากลัวจริงๆๆ อัลฟอนโซ่ เดวิส กระชากหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนเปิดไปเสาสองให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แปโล่งๆ ไม่เหลือ บาเยิร์น ทิ้งห่าง 3-0

84น.: เจ้าถิ่นต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ มาร์กอส อลอนโซ่ ไปเจตนาเล่นนอกเกมฟาดแขนใส่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เต็มๆ ผู้ตัดสินขอดู VAR ก่อนชูใบแดงไล่ออกจากสนาม

จบเกม: บาเยิร์น มิวนิค บุกถล่ม เชลซี 3-0 โอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมค่อนข้างสดใส แม้จะต้องลงเล่นเกมนัดที่สองในบ้านตัวเองอีกนัดก็ตาม
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชลซี (3-4-2-1) :
  1. วิลลี่ กาบาเยโร่
  2. เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า
  3. อันเดรียส คริสเตนเซ่น
  4. อันโตนิโอ รือดิเกอร์
  5. รีซ เจมส์
  6. จอร์จินโญ่
  7. มาเตโอ โควาซิช
  8. มาร์กอส อลอนโซ่
  9. เมสัน เมาน์ท
  10. รอสส์ บาร์คลี่ย์
  11. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1):
  1. มานูเอล นอยเออร์
  2. เบนฌาแม็ง ปาวาร์
  3. เยโรม บัวเต็ง
  4. ดาวิด อลาบา
  5. อัลฟอนโซ่ เดวิส
  6. โยชัว คิมมิช
  7. ติอาโก้ อัลกันตาร่า
  8. แซร์จ นาบรี้
  9. โธมัส มุลเลอร์
  10. คิงส์เล่ย์ โกมัน
  11. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ผู้ตัดสิน : กเลมงต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส)
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ไฮไลท์ฟุตบอล 23 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อคืนที่ผ่านมา



แมนยู vs วัตฟอร์ด 3-0 




อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่: แมนยู พบ วัตฟอร์ด


อาร์เซนอล vs เอฟเวอร์ตัน 3-2



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่: อาร์เซนอล พบ เอฟเวอร์ตัน


แอตเลติโก มาดริด vs บียาร์เรอัล 3-1

clip by. beIN SPORTS Thailand



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : แอตเลติโก มาดริด พบ บียาร์เรอัล


โรมา vs เลชเช 4-0




อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่: โรมา พบ เลชเช


เลเวอร์คูเซ่น vs เอาก์สบวร์ก 2-0




อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่: เลเวอร์คูเซ่น พบ เอาก์สบวร์
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แวร์เดอร์ เบรเมน 0-2 ดอร์ทมุนด์ - ไฮไลท์ บุนเดสลีกา



แวร์เดอร์ เบรเมน 0-2 ดอร์ทมุนด์ - ไฮไลท์ฟุตบอล บุนเดสลีกา




การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี 2019/20 นัดที่ 23

แวร์เดอร์ เบรเมน VS โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

เจ้าถิ่นใช้แผน 3-4-3:

  • ยูยะ โอซาโกะ, มิลอต ราชิกา และ เดวี เซลเก เป็นสามประสานในแนวรุก 


ทีมเยือนมาในระบบ 3-4-3:

  • ธอร์กก็อง อาซาร์, จาดอน ซานโช และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ นำทัพล่าตาข่าย


ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพเสือเหลืองเป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะไป 2-0 ได้ประตูจาก แดน-อักเซล ซากาดู นาที 52 และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ นาที 66

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีเพิ่มเป็น 45 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค 4 คะแนน ส่วน แวร์เดอร์ เบรเมน มี 17 คะแนนเท่าเดิม รั้งรองบ๊วย ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นต่อไป

ไฮไลท์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เชลซี vs สเปอร์ส 2019-20



ไฮไลท์ ฟุตบอล เชลซี vs สเปอร์ส: ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-20





ผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-20: นัดที่ 27 เชลซี อันดับ 4 เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์นัดสำคัญ รับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 5 ของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 3-4-2-1:

  • รอสส์ บาร์คลีย์
  • เมสัน เมาท์
  • โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นสามประสานในแนวรุก


ด้านทีมเยือนมาในระบบ 5-3-2:

  • จิโอวานี โล เซลโซ คุมแดนกลาง
  • สตีเวน เบิร์กไวน์ จับคู่ ลูคัส มูรา ล่าตาข่าย


ผลการแข่งขัน ขุนพลสิงห์บลูส์เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้อย่างสนุก 2-1 ได้ประตูจาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ นาที 15 และ มาร์กอส อลอนโซ นาที 48 ส่วนไก่เดือยทองได้คืนจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ นาที 89

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ เชลซี มีเพิ่มเป็น 44 คะแนน รั้งที่ 4 เหนียวแน่น ส่วน ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มี 40 คะแนนเท่าเดิม

ที่มาของข่าว: เชลซี vs สเปอร์ส
วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แมนซิตี 2-0 เวสต์แฮม: คลิป พรีเมียร์ลีก 2019-20 นัดตกค้าง





การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้าง ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดอู่เอติฮัด สเตเดียม พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาในระบบ 4-3-3 เอแดร์ซอน ลงเฝ้าเสา คู่กองหลัง นิโคลัส โอตาเมนดี้ จับคู่ อายเมอริค ลาปอร์กต์ แผงมิดฟิลด์ เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ และ ดาบิด ซิลบา แนวรุก แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร และ กาเบรียล เชซุส

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 18 ของตาราง มาในระบบ 3-5-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ลงเฝ้าเสา สามเซ็นเตอร์ อารอน เครสส์เวลล์, แองเจโล อ็อกบอนนา และ อิสซา ดิย็อป แผงมิดฟิลด์ มาร์ค โนเบิล, เดแคลน ไรซ์ และ โตมาช ซูเช็ค คู่กองหน้า มิเกล อันโตนิโอ ประสานงาน โรเบิร์ต สน็อดกราสส์

ผลปรากฏว่า เริ่มเกมมาเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกโหมเป็นพายุอยู่ฝั่งเดียว จนได้โอกาสทักทายก่อนตั้งแต่ 7 นาทีแรก เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลไปให้ เซร์คิโอ อเกวโร ดีดไซด์ก้อยหลุดกรอบออกไปเพียงนิดเดียว ถัดมาอีกห้านาที เดอ บรอยน์ ได้ซัดไกลด้วยขวาแต่ก็ยังติดเซฟขาซ้ายของ ลูคัส ฟาเบียงสกี

ผ่านไปครึ่งช่วงโมงก็ยังเป็นเรือใบโหมบุกหนักจนมาเจาะกำแพงขุนค้อนแตก 1-0 จากจังหวะ เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมไปให้ โรดรี โหม่งเข้าไปที่เสียบเสาสอง ช่วงเวลาที่เหลือก็ยังเป็นซิตี้ครองเกมบุกต่อเนื่องแต่ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเตะมาถึงนาทีที่ 53 เรือเกือบได้ประตูหนีห่าง เมื่อ เดอ บรอยน์ ลากตะลุยขึ้นมาก่อนแทงไปให้ อเกวโร หลุดไปซัดด้วยขวา บอลผ่านหน้าปากประตูออกไป

นาทีที่ 62 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หนีเป็น 2-0 เมื่อ แบร์นาโด ซิลวา หลุดเข้าไปในเขตโทษ ล็อกเข้าขวากำลังจะซัดอยู่แล้ว ก่อนที่จะเป็น เดอ บรอยน์ โฉบมาจากด้านหลังเอาบอลไปซัดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างหมดจด

จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เวสต์แฮม กลับมาชนะอีกครั้งในรอบ 3 เกมหลังสุด ทำคะแนนตามหลัง “จ่าฝูง” ลิเวอร์พูล 22 แต้ม

ขณะที่เวสต์แฮม มี 24 คะแนนเท่าเดิมรั้งอันดับ 18 โดยมีประตูได้เสียดีกว่าวัตฟอร์ด 1 ประตู

ที่มา: ผลบอล พรีเมียร์ลีก
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

คลิป - เอซี มิลาน 1-0 โตริโน่: กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี




Hilight Clip by. Serie A


ผลบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คู่ระหว่าง เอซี มิลาน เปิดบ้านพบกับ โตริโน่ ที่สนาม ซาน ซิโร่ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา


  • เปิดเกมมา 20 นาที เจ้าบ้านเกือบได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ อันเต้ เรบิช ผ่านบอลให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดีดคืนให้ ลูคัส ปาเกต้า วิ่งมากดด้วยขวาแต่ ซัลวาตอเร่ ซิริกู พุ่งปัดไว้ได้มือเดียว
  • นาทีที่ 25 "ปีศาจแดงดำ" ลุยต่อเนื่อง ซามูเอล กาสตีเยโฆ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดไปในเขตโทษให้ อันเต้ เรบิช วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาตุงตาข่าย เอซี มิลาน ออกนำ 1-0 พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
  • กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 73 เจ้าถิ่นเกือบได้เพิ่ม จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า ลองสับไกหน้าเขตโทษบอลแฉลบแนวรับทีมเยือนเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
  • จบเกม "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ "กระทิงหิน" โตริโน่ ไปได้แบบหวุดหวิด 1-0 เก็บชัยนัดแรกในรอบ 3 เกมหลังสุดได้สำเร็จ พร้อมขยับอันดับขึ้นมาอยู่ที่ 8 ของตาราง


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เอซี มิลาน (4-4-2) :

  1. จานลุยจิ ดอนนารุมม่า
  2. ดาวิเด้ คาลาเบรีย
  3. ซิม่อน เคียร์
  4. อเลสซิโอ โรมันโยลี่
  5. เตโอ แอร์กน็องเดซ
  6. ซามูเอล กาสตีเยโฆ
  7. ฟร้องค์ เกสซีเย่
  8. อิสมาเอล เบนนาเซอร์
  9. ลูคัส ปาเกต้า
  10. อันเต้ เรบิช
  11. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช


โตริโน่ (3-4-2-1) :

  1. ซัลวาตอเร่ ซิริกู
  2. เบรเมอร์
  3. นิโกล่าส์ เอ็นคูลู
  4. ยานโก้
  5. ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี
  6. ซาซ่า ลูคิช
  7. โทมัส รินคอน
  8. คริสเตียน อันซัลดี้
  9. ซิโมเน่ เอเดร่า
  10. อเล็กซ์ เบเรนเกร์
  11. อันเดรีย เบล็อตติ
ที่มาของข่าว : https://www.sanook.com/sport/1058466/

คลิป เชลซี v แมนยู 0-2: ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ




ไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก by. TrueVisions





ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019/20 นัดที่ 26 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เชลซี อันดับ 4 เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 9 ของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-3-3 เปโดร โรดริเกวซ, วิลเลียน และ มิชี บัตชูอายี เป็นสามประสานในแนวรุก ด้านทีมเยือนมาในระบบ 3-4-1-2 บรูโน แฟร์นันเดส ยืนเพลย์เมกเกอร์ อ็องโตนี มาร์กซิยัล กับ ดาเนียล เจมส์ เป็นความหวังล่าตาข่าย

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ขุนพลปีศาจแดงเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า บุกมาเอาชนะไป 2-0 ได้ประตูจาก อ็องโตนี มาร์กซิยัล นาที 45 และ แฮร์รี แม็คไกวร์ นาที 66

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเพิ่มเป็น 38 คะแนน ขึ้นมาอยู่ที่ 7 ของตาราง ส่วน เชลซี มี 41 คะแนนเท่าเดิม

ที่มา: ข่าวกีฬา
วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

คลิป - เอซี มิลาน เสมอ ยูเวนตุส 1-1: Coppa Italia



เอซี มิลาน 1-1 ยูเวนตุส: ฟุตบอล โคปปา อิตาเลีย 2563





การแข่งขัน ฟุตบอลโคปปา อิตาเลีย  รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ระหว่าง "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เปิดสนามจูเซปเป เมอัซซา รับการมาเยือนของ "ม้าลาย" ยูเวนตุส

สเตฟาโน ปิโอลี กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-1-1 โดยใช้ ฮาคาน ชัลฮาโนลู เล่นหน้าต่ำคอยทำเกมรุกร่วมกับหน้าเป้าอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ด้านทีมเยือนของ เมาริซิโอ ซาร์รี วางหมากมาในแผน 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น ฮวน กัวดราโด้, เปาโล ดีบาลา และ คริสเตียโน โรนัลโด้


  • ครึ่งแรก นาทีที่ 11 มิลาน ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ไขว้ยิงในเขตโทษ บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
  • นาทีที่ 21 มิลานได้ลุ้นอีกครั้ง ฟรองค์ เคสซี จ่ายให้ ดาวิเด ซาลาเบรีย ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งจะมุดเสียบใต้คาน แต่ จิอันลุยจิ บุฟฟอน นายด่านยูเวนตุส บินปัดออกไปได้
  • ถัดมา 7 นาที มิลานมาอีกแล้ว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้บอลในเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ อันเต เรบิช กดด้วยขวาเน้นๆ แต่ยังไม่ผ่าน จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา จอมหนึบของมิลาน จบครึ่งแรก เอซี มิลาน ยังเสมอ ยูเวนตุส 0-0
  • ครึ่งหลัง กระทั่งนาทีที่ 61 มิลาน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ซามู คาสติเยโฆ เปิดบอลจากแนวลึกเข้าเขตโทษ บอลเลยไปถึง อันเต เรบิช โฉบมาแปเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม
  • ถึงนาทีที่ 71 มิลาน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เตโอ เอร์นันเดซ ที่มีใบเหลืองติดตัวก่อนหน้านี้ ไปฟาวล์หนักใส่ เปาโล ดีบาลา ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักใบเหลืองที่สองตามด้วยใบแดงไล่ เอร์นันเดซ ออกจากสนามทันที
  • เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+1 ยูเวนตุส ได้จุดโทษจากจังหวะที่ คริสเตียโน โรนัลโด ตีลังกายิงไปโดนแขน ดาวิเด ซาลาเบรีย ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนให้จุดโทษทันที และเป็น คริสเตียโนโรนัลโด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดพา ยูเวนตุส ตีเมสอ 1-1
  • จบเกม เอซี มิลาน เสมอ ยูเวนตุส 1-1 ต้องไปลุ้นต่อนัดสอง ที่บ้านของยูเวนตุส ในวันที่ 4 มีนาคมนี้

ไฮไลท์ เรอัล โซเซียดาด 2-1 มิรานเดส: โกปาเดลเรย์ 2020






ผลบอลวันนี้ ถ้วยของประเทศสเปน รายการ โกปาเดลเรย์ 2020 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก  โดยเป็นเกมระหว่าง เรอัล โซเซียดาด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ มิรานเดส ทีมในระดับเซกุนดา ดิวิชั่น

โซเซียดาดวางอิซาคเป็นหน้าเป้า โดยมีโอเดการ์ด,โอยาร์ซาบัล,ปอร์ตู,เมริโน่ คอยหนุน ฝั่งทีมเยือนวางมัตเธอัสค้ำหน้า และมีซานเซซ,เรย์,เมร์เกลันซ์ ช่วยหนุน

เรอัล โซเซียดาด ชนะ 5 จาก 6 นัดหลังทุกรายการ

มิรานเดส ไม่แพ้ 12 นัดติดต่อกันทุกรายการ


  • ผลปรากฎว่า เกมเริ่มมาได้เพียง 9 นาที เจ้าบ้านได้เฮก่อนอย่างรวดเร็ว จากการซัดจุดโทษของ มิเกล โอยาร์ซาบัล
  • เข้าสู้ช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 39 มิรานเดสมาตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะ มัธเทอุส โรดริเกซ ล็อคบอลหลบกองหลังโซเซียดาด ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไป
  • อย่างไรก็ตาม ถัดมาเพียง 3 นาที โซเซียดาดมาได้ประตูออกนำอีกครั้งจากลูกยิงซ้ำของ มาร์ติน โอเดการ์ด ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำอยู่ 2-1
  • ส่วนในครึ่งหลังทั้งสองทีมยิงกันไม่ได้ 
  • ส่งผลให้จบเกม เรอัล โซเซียดาด เปิดบ้านเอาชนะ มิรานเดส 2-1 ไปลุ้นกันต่อในเกมสองที่จะสลับไปเล่นในบ้านมิรานเดส ช่วงต้นเดือนหน้า
วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ไฮไลท์คลิป ฟุตบอล บิลเบา vs กรานาดา เมื่อคืนนี้



ไฮไลท์ฟุตบอล บิลเบา vs กรานาดา





ผลการเเข่งขัน ฟุตบอล โกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ เกมแรก ที่ สนาม ซาน มาเมส บาร์เรีย ระหว่าง แอธเลติก บิลเบา ที่ล้มยักษ์ปราบ บาร์เซโลน่า มาในรอบที่แล้ววันนี้จะได้เป็นฝ่ายเปิดบ้าน รับการมาเยือนของ กรานาด้า

  • ผลปรากฎว่า ครึ่งแรก เริ่มเกมมาได้ 22 นาที บิลเบา มีโอกาสก่อนเมื่อทาง มิเกล เบสก้า ได้โอกาสสอดเข้าไปยิงแต่โดน รุย ซิลวา เซฟเอาไว้ได้
  • อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 42 เจ้าบ้านได้ประตูออกนำ 1-0 เมื่อทาง อินญากี้ วิลเลียมส์ หลุดมาทางซ้ายก่อนจะรอจังหวะไหลมาให้ อีเกร์ มูเนียอิน สอดยิงเสียบตาข่าย แม้จะมีสัญญาณ วีเออาร์ แต่หลังจากไปตรวจสอบก็ยืนยันตามเดิมคือเป็นประตู  และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
  • ครึ่งหลังนาทีที่ 50 แฟนบอลบิลเบาได้เฮเก้อ เมื่อทาง เยราย อัลบาเรซ ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ว่าโดนไลน์แมนยงธงจับล้ำหน้า
  • จากนั้นในนาทีที่ 60 อันเดร์ กาปา วิงแบ็กเจ้าบ้านได้โอกาสสับไกส่งบอลเสียบตาข่ายแบบสุดสวย แต่ไม่ได้เพราะว่า อินญากี้ วิลเลียมส์ โดนจับล้ำหน้าเพราะมีส่วนและอยู่ในทางบอลผ่าน
  • จบเกม แอธเลติก บิลเบา ที่ล้มยักษ์ผ่าน บาร์เซโลน่า มาจากรอบที่แล้ว เปิดบ้านเอาชนะ กรานาด้า ไปก่อน 1-0 ในศึก โกปา เดล เรย์ รอบ 4 ทีม นัดแรก


โดยเกมที่ 2 จะกลับไปเล่นในรัง กรานาด้า วันที่ 5 มีนาคมนี้

ส่วนวันที่ 13 ก.พ. จะมีการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ เป็นเกมระหว่าง เรอัล โซเซียดาด เปิดบ้านพบกับ มิรานเดส แข่งขันกันเวลา 03.00 น. เช่นเดิม

ที่มา: บิลเบา vs กรานาดา

คลิป ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ 1-2 โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส








ผลบอล เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช คู่ระหว่าง ชนบุก เอฟซี เปิดบ้านพบกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ที่สนาม จอนจู เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563

โดยเกมนี้ แชมป์เคลีก เกาหลีใต้ นำทัพโดย ลี ดอง กุ๊ก ศูนย์หน้ากัปตันทีมจอมเก๋าของทีม ขณะที่ แชมป์เจลีก ญี่ปุ่น เกมนี้ส่ง ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทย ออกสตาร์ทเป็นสิบเอ็ดคนแรก


  • 5 นาที ทีมเยือนเกือบได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ อาโดะ โอไนวู กองหน้าตัวใหม่ได้บอลหลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาในเขตโทษแต่ ซอง บอม คุน นายด่านเจ้าถิ่นปัดเอาไว้ได้
  • นาทีที่ 33 ทีมเยือนบุกต่อเนื่อง เทรุฮิโตะ นาคากาว่า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดไปหน้าประตู เคตะ เอนโดะ วิ่้งเข้าแหย่ขาส่งบอลตุงตาข่าย โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส นำ 1-0
  • นาทีที่ 37 แชมป์เจลีก ทำเกมได้สวย มาร์กอส จูเนียร์ วางบอลขึ้นหน้าให้ เคตะ เอนโดะ สปีดไปเปิดบอลเข้าเขตโทษ คิม จิน ซู แนวรับเจ้าถิ่นสกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส หนีเป็น 2-0 พร้อมจบครึ่งด้วยสกอร์นี้
  • กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 69 สถานการณ์ของเจ้าถิ่นย่ำแย่ไปอีก ซน จุน โฮ กองกลางของ ชนบุก มาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงต้องออกจากสนาม
  • นาทีที่ 80 จากการออกมาตัดบอลนอกเขตโทษพลาดของ ยูจิ คาจิกาว่า ผู้รักษาประตู โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส บอลไปเข้าทาง โจ คิว-ซอง ซัดโล่งๆ ไม่เหลือ ชนบุก เอฟซี ไล่มาเป็น 1-2
  • สองนาทีต่อมา ชนบุก เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 9 คน จากจังหวะที่ ลี ยอง ไปตัดฟาวล์และเป็นใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงต้องออกจากสนามไปอีกคน
  • ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่้ม จบเกม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส แชมป์เจลีกบุกไปเอาชนะ ชนบุก เอฟซี 2-1 เก็บสามแต้มประเดิมสนามได้สำเร็จ
วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

บาเยิร์น พร้อมจ่าย 78 ล.ปอนด์ คว้า 1 แข้งหงส์ร่วมทัพซีซั่นหน้า




บาเยิร์น มิวนิค ทีมดังใน บุนเดสลีกา เตรียมทุ่มทุนกว่า 75 ล้านปอนด์คว้าตัว โรแบร์โต ฟิร์มิโน่ จาก ลิเวอร์พูล มาร่วมทีมตามรายงานของ เดอะ ซัน

ตามรายงานระบุว่าทีมแชมป์เยอรมันต้องการยกระดับกองหน้าและ ฟิร์มิโน่ เองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหลังทำผลงานอย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้

ขณะที่นอกจากนี้ก็เชื่อว่า บาเยิร์น ยังต้องการคว้าตัว เลรอย ซาเน่ ปีกความไวสูงจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมพร้อม ฟิร์มิโน่ ในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย


haqnzza2

โดยหัวหอกทีมชาติบราซิลในวัย 28 เองก็ย้ายมาจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ เข้ารัง แอนฟิลด์ เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์ซึ่งทำให้เขามีความคุ้นเคยกับลีกเยอรมนีเป็นอย่างดี

ซึ่งในขณะนี้ ฟิร์มิโน่ เองก็ยังเหลือสัญญากับ หงส์แดง จนถึงกลางปี 2022 หลังเพิ่งต่อมันออกไปเมื่อช่วงปี 2018 นั่นเอง

ที่มา: บาเยิร์น พร้อมยื่นซื้อ โรแบร์โต ฟิร์มิโน่
วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เวโรน่า 2-1 ยูเวนตุส: ผลฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี




ผลบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คู่ระหว่าง เวโรน่า พบกับ ยูเวนตุส ที่สนาม มาร์คอันโตนิโอ เบนเตโกดี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา


  • น. 15: เจ้าบ้านได้โอกาสก่อน ฟาบิโอ บอรินี่ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนกดด้วยขวาบอล วอยเชียค เชสนี่ หมดสิทธิ์ป้องกันแล้ว แต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไปชนิดได้ลุ้น
  • น. 20: ยูเวนตุส เกือบได้ประตูออกนำ ดั๊กลาส คอสต้า ลากบอลขึ้นหน้าจากกลางสนามก่อนตัดสินใจสับไกด้วยซ้ายบอลพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย
  • น. 37: ทีมเยือนน่าจะได้ประตูนำอีกครั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้โอกาสปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งโค้งชนเสาออกหลังอีก หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
  • น. 65: หลังพยายามอยู่นาน ยูเวนตุส มาได้ประตูนำ 1-0 จากความเหนือชั้นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำชิ่งกับ  โรดริโก้ เบนตานกูร์ ก่อนหลุดเข้าไปซัดตุงตาข่ายเหนือชั้น
  • น. 76: เวโรน่า เจ้าถิ่นมาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ มิราเล็ม ปานิช จ่ายบอลพลาดโดน ฟาบิโอ บอรินี่ ฉกไปปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาไม่เหลือ
  • น. 83: จากลูกเตะมุม มาราช คุมบุลล่า โหม่งไปโดนมือ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ผู้ตัดสินขอดู VAR ก่อนชี้เป็นจุดโทษและเป็น จามเปาโล ปาซซินี่ ซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด เวโรน่า แซงนำ 2-1
  • จบเกม: เวโรน่า พลิกแซงเอาชนะ ยูเวนตุส ไปได้แบบเหลือเชื่อ 2-1 คว้าสามแต้มขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง ขณะที่ "ม้าลาย" ยูเวนตุส จ่าฝูงสั่นคลอนเสียแล้ว


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เวโรน่า (3-4-2-1) : มาร์โก ซิลเวสตรี - อาเมียร์ ราห์มานี่, โคราย กึนเตอร์, มาราช คุมบุลล่า - ดาวิเด้ ฟาราโอนี่, โซฟียาน อัมราบัต, มิเกล เวโลโซ่, ดาร์โก ลาโซวิช - มัตเตโอ เปสซิน่า, มัตเตีย ซัคคายี่ - ฟาบิโอ บอรินี่

ยูเวนตุส (4-3-3) : วอยเชียค เชสนี่ - ฮวน กวาดราโด้, มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเล็กซ์ ซานโดร - โรดริโก้ เบนตานกูร์, มิราเล็ม ปานิช, อาเดรียง ราบิโอต์ - ดั๊กลาส คอสต้า, กอนซาโล่ อิกวาอิน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ผู้ตัดสิน : เดวิด แมสซา

ที่มา: ผลบอล เวโรน่า VS ยูเวนตุส
วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สถิติชี้ชัด โชเซ มูรินโญ โกนหัวแล้วคุมทีมฟอร์มแจ่ม


สถิติชี้ชัด โชเซ มูรินโญ โกนหัวแล้วคุมทีมฟอร์มแจ่ม




โชเซ มูรินโญ โกนผม ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จัดการเปิดตัวในโฉมใหม่ด้วยการโกนหัวเสียโล่งเตียน หลังไปตัดผมที่ร้านหรู ฮัคส์ ออสการ์ ที่ถนนคิงส์โร้ด ย่านเชลซี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ก่อนโพสต์รูปโชว์ลุคใหม่ของตนเองในอินสตาแกรม

โดยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มูรินโญ โกนหัวของเขา ซึ่งจากสถิติบอกว่าเขาสามารถทำผลงานคุมทีมได้ดียามที่โกนหัวแบบนี้ด้วย นั่นทำให้แฟนบอลไก่เดือยทองอดยิ้มไม่ได้

ในฤดูกาล 2006/07 เจ้าตัวคุมเชลซีชนะถึง 9 จาก 11 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก หลังกุนซือโปรตุกีสตัดทรงนี้ ขณะที่เมื่อฤดูกาล 2013/14 ตอนที่เขากลับมาคุมเชลซีรอบสองก็ชนะถึง 8 จาก 10 เกมลีกในช่วงเวลานั้น

โอเอช ลูเวิน ประกาศปล่อยยืม กวินทร์ ซบ ซัปโปโร


โอเอช ลูเวิน ประกาศปล่อยยืม กวินทร์ ซบ ซัปโปโร



สโมสรโอเอช ลูเวิน ทีมในลีกรองของเบลเยียม ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการปล่อยตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูชาวไทย วัย 30 ปี ให้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมจากเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล

โดย กวินทร์ ย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาเฝ้าเสาให้กับโอเอช ลูเวิน เมื่อเดือนมกราคม 2018 และลงเล่นให้กับ โอเอช ลูเวิน ไปทั้งสิ้น 19 เกม เสียไป 31 ประตู

ทางสโมสรขอส่งความปรารถนาดีให้กับกวินทร์ มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับการลงเล่นในประเทศญี่ปุ่น

ซึ่ง เจ้าตอง จะได้ผนึกกำลังร่วมกับ เจ้าเจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์รุ่นน้องทีมชาติไทยในสีเสื้อของ "เจ้านกฮูก" ลุยศึกเจลีก 2020 ต่อไป

ที่มา: Sanook Sport

โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส VS วิสเซล โกเบ แชมป์ซูเปอร์ คัพ




ผลฟุตบอล ฟูจิ ซีร็อกซ์ ซูเปอร์ คัพ 2020 ที่สนามไซตามะ สเตเดียม เป็นการนำแชมป์เจลีก และแชมป์ถ้วยเอ็มเพอเรอร์ส คัพ มาเจอกัน ประเดิมก่อนเปิดซีซั่นใหม่

โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ในฐานะแชมป์ลีก จัดทัพใหญ่ลงสนาม โดย ธีราทร บุญมาทัน ยืนประจำการฝั่งซ้าย มาร์คอส จูเนียร์ ทำหน้าที่บัญชาเกมรุก พร้อมกับ อาโดะ โอไนวู กองหน้าตัวใหม่ที่ดึงมาจาก โออิตะ ทรินิตะ

ด้าน วิสเซล โกเบ แชมป์บอลถ้วย ธอร์สเท่น ฟิงค์ ส่ง อันเดรียส อิเนียสตา บัญชาเกมแดนกลางร่วมกับ เซร์กี ซัมเปร์ แนวรับนำมาโดย โธมัส แฟร์มาเลน คอยสั่งการ

ผลการแข่งขันปรากฏว่า 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกันไปอย่างสุดมัน 3-3 โกเบ ได้ประตูจาก

  • ดิยานเฟรซ ดักลาส นาที 27
  • เคียวโกะ ฟูรุฮาชิ นาที 40
  • โฮตารุ ยามากูชิ นาที 69


ด้าน โยโกฮามา ได้จาก

  • มาร์คอส จูเนียร์ นาที 36
  • ทากาฮิโระ โอกิฮาระ นาที 54
  • เอริค นาที 73


ทำให้ต้องหาผู้ชนะด้วยการยิงลูกจุดโทษ และเป็นโกเบที่ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะไป 3-2 โดยต้องยิงกันถึง 7 คน

จากการชนะนัดนี้ ทำให้ วิลเซล โกเบ เล่นถ้วยซูเปอร์คัพสมัยแรกก็คว้าแชมป์ได้ทันที ส่วน โยโกฮามา เอฟ. มารินอส ไม่ถูกโฉลกกับรายการนี้เท่าไร เมื่อได้โอกาสเล่น 6 ครั้ง แต่ไม่เคยคว้าชัยได้เลย

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1051766/
วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แอธเลติก บิลเบา vs บาร์เซโลนา 1-0: โกปา เดล เรย์ (คลิป)




ผลบอล แอธเลติก บิลเบา vs บาร์เซโลนา




การแข่งขันฟุตบอลโกปา เดล เรย์ สเปน รอบ 8 ทีมสุดท้าย แอธเลติก บิลเบา เปิดสนาม ซาน มาเมส บาร์เรีย รับการมาเยือนของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา

กาอิซก้า การิตาโน กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-4-3 โดยใช้สามแนวรุกเป็น ราอูล การ์เซีย, อินญากี้ วิลเลียมส์ และ อิเกร์ มูเนียอิน

ด้านทีมเยือนของ กีเก้ เซเตียน วางหมากมาในแผน 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกเป็น แซร์จี้ โรแบร์โต้, ลิโอเนล เมสซี และ อันซู ฟาติ


  • ครึ่งแรก นาทีที่ 7 บาร์ซาได้ลุ้นอีกครั้ง อิวาน ราคิติช จ่ายบอลให้ อันซู ฟาติ กลับตัวยิงในเขตโทษติดบล็อกกองหลังออกไป และจากจังหวะเตะมุม ฆอร์ดี อัลบา เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ เฟรนกี เดอ ยอง โขกเน้นๆ อูไน ซิมอน นายด่านบิลเบา ปัดออกหลังไปได้
  • นาทีที่ 10 บิลเบาเกือบได้เฮ เมื่อ อินากิ วิลเลียมส์ ได้ซัดในเขตโทษเข้าไป แต่ถูกผู้ตัดสินจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
  • ถึงนาทีที่ 35 บิลเบาได้ลุ้น จากจังหวะที่ อันเดอร์ คาปา เปิดบอลเข้าเขตโทษ ราอูล การ์เซีย ได้โหม่ง แต่บอลตรงตัว มาร์ค อังเดร แตร์ สเตเกน จบครึ่งแรก แอธเลติก บิลเบา ยังเสมอ บาร์เซโลนา อยู่ 0-0
  • กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 66 โอกาสของบาร์ซา ลิโอเนล เมสซี เมสซี เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฆอร์ดี อัลบา เอาบอลลงแล้วยิงด้วยซ้าย แต่บอลเข้ามือ ซิมอน
  • จากนั้นนาทีที่ 70 บาร์ซาได้ลุ้นอีกครั้ง เซร์กี โรแบร์โต หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายเรียดเข้ากลาง อองตวน กรีซมันน์ วิ่งมาแปเน้นๆ แต่ ซิมอน ยังเซฟออกไปได้
  • นาทีที่ 88 โอกาสทองของบาร์ซา เมื่อ ลิโอเนล เมสซี ได้ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ ซิมอน เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
  • นาทีที่ 90 บิลเบา เกือบขึ้นนำ เมื่อ อินากิ วิลเลียมส์ เติมมายิงด้วยขวาในเขตโทษ บอลหลุดเสาแรกออกไป
  • เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+3 บิลเบา ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อิไบ โกเมซ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ อินากิ วิลเลียมส์ โหม่งเช็ดเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม
  • จบเกม แอธเลติก บิลเบา ชนะ บาร์เซโลนา 1-0 เข้ารอบรองชนะเลิศโกปา เดล เรย์ ได้สำเร็จ



ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ เรอัล มาดริด โดน เรอัล โซเซียดาด บุกมาเชือดคาบ้าน 4-3 ตกรอบไปพร้อมกับ บาร์เซโลน่า
วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

(คลิป) สเปอร์ส ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-2 : ผลบอล เอฟเอคัพ


สเปอร์ส พบ เซาแธมป์ตัน

สเปอร์ส ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-2 : ผลบอล เอฟเอคัพ รอบ4






ผลฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ 2019-20 รอบ 4 นัดรีเพลย์ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดสนามทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ เซาแธมป์ตัน

ฝั่งไก่เดือยทอง เจ้าบ้านจัดทีมในระบบ 4-3-3 วางซน ฮึง-มิน, ลูคัส มูรา และไรอัส แซสเซอญง เป็นสามประสานในแดนหน้า

ทางด้านนักบุญแดนใต้ ผู้มาเยือนเลือกใช้แผน 4-4-2 โดยมีแดนนี้ อิงส์ และเชน ลอง จับคู่กันล่าตาข่าย


  • นาทีที่ 10 โอกาสของทีมเยือนอีกครั้ง เนธาน เรดมอนด์ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนยิงด้วยขวา แต่ อูโก โยริส เซฟออกไปได้
  • ถึงนาทีที่ 12 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ตองกีย์ เอ็มดอมเบเล ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ แจ็ค สตีเฟนส์ ผู้เล่นเซาแธมป์ตันสกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป
  • และในนาทีที่ 34 เซาแธมป์ตัน ตีเสมอ 1-1 เมื่อ เนธาน เรดมอนด์ ซัดด้วยขวาในเขตโทษ อูโก โยริส เซฟออกมเข้าทาง เชน ลอง ซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย จบครี่งแรก ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ เซาแธมป์ตัน อยู่ 1-1
  • ครึ่งหลัง นาทีที่ 72 เซาแธมป์ตัน ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ เนธาน เรดมอนด์ โต้กลับขึ้นมาทางขวาพาบอลผ่านผู้เล่นสเปอร์ส 2-3 คนก่อนจ่ายต่อทางซ้ายให้ แดนนี อิงส์ พาบอลเข้าเขตโทษแล้วยิงเล่นทางด้วยขวา บอลพุ่งเข้าประตูไป
  • เกมเข้มข้นสุดขีด นาทีที่ 78 สเปอร์ส ตีเสมอเป็น 2-2 ลูคัส มูรา กดด้วยขวาแถวกรอบเขตโทษ บอลเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด
  • เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้และไปลุ้นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ในนาทีที่ 87 สเปอร์ส มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซอน เฮือง มิน โดน อังกัส กันน์ ทำฟาวล์ร่วงลงไป และเป็น ซอน เฮือง มิน ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารไม่พลาด พาไก่เดือยทองขึ้นนำ 3-2
  • ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะเซาแธมป์ตัน 3-2 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปเจอกับ นอริช ซิตี้

ที่มา: ผลบอลเอฟเอคัพ สเปอร์ส VS เซาแธมป์ตัน

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ลิเวอร์พูล vs ชรูว์สบิวรี่ - ไฮไลท์คลิป เอฟเอคัพ


Hilight: ลิเวอร์พูล 1-0 ชรูว์สบิวรี่




  • ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2019/20 รอบที่ 4 นัดรีเพลย์
  • วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020
  • สนาม : แอนฟิลด์
ประเด็นร้อนหลัง ลิเวอร์พูล เฉือนหวิว ชรูว์สบิวรี่ ศึก เอฟเอคัพ 2019-20

เก็บตกประเด็นร้อนหลัง "หงส์ยังบลัด" เฉือนหวิว ชรูว์สบิวรี่ ศึกเอฟเอ คัพ


  • ช่วงเวลาตลอด 90 นาที
เกมนี้ ลิเวอร์พูล ส่งชุดดาวรุ่งลงสนามทั้งทีม รวมถึงให้ นีล คริทชีย์ โค้ชทีมชุดเล็กลงคุมเกมข้างสนามแทนตามที่นายใหญ่อย่าง เยอร์เกน คล็อปป์ ลั่นวาจาเอาไว้ทุกประการ 

แต่ก็ต้องชมบรรดาดาวรุ่งที่สามารถครองเกมเอาไว้ได้ในช่วงครึ่งแรก แม้จะแทบไม่มีจังหวะลุ้นประตู แต่พวกเขาก็สามารถกดจนทีมเยือนไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้เลยตลอด 45 นาทีแรก

ในครึ่งหลัง ผู้มาเยือนจากลีกวัน เปิดเกมบุกแลกมากขึ้น ทำให้ทั้งสองทีมต่างมีช่องในการลุ้นประตูมากกว่าใน 45 นาทีแรก โดย ชรูวส์บิวรี เกือบทำเซอร์ไพรส์บุกมานำก่อน แต่ก็โดน VAR จับล้ำหน้าเอาไว้ได้

กระทั่งพลหรรคหงส์น้อย ขึ้นนำได้สำเร็จจากลูกโหม่งเข้าประตูตัวเองของกองหลังทีมเยือน และนั่นเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้ จบเกม ทัพเร้ดแมทชีน คว้าชัยชนะมาได้อย่างชิวเฉียด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

Sepp Van Den Berg

  • ดาวรุ่งลิเวอร์พูล ทรงดีแต่ยังขาดประสบการณ์

เกมนี้เหล่า หงส์แดงเลือดใหม่ สร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ถึง 12 ครั้ง แต่ทั้งจากหมดนั้นไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้เลยแม่แต่ครั้งเดียว

โดยประตูชัยที่พวกเขาได้มานั้น เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่นทีมเยือน ซึ่งถ้าวันนี้ ริโก้ วิลเลียมส์ พกความเฉียบขาดมาเพิ่มอีกนิด พวกเขาคงชนะขาด 2 ถึง 3 ประตูไปแล้ว

FBL-ENG-FACUP-LIVERPOOL-SHREWSBURY

  • โจนส์-วิลเลียมส์ มีแววได้เกิด
เคอร์ติส โจนส์ แฟนหงส์หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็นชื่อของหนุ่มน้อยคนนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะในเกมรอบ 3 ของรายการนี้ ที่เจ้าตัวเป็นผู้ยิงประตูชัยสุดสวย ช่วยให้ทีมโค่น เอฟเวอร์ตัน ผ่านเข้ารอบมาได้

ริโก้ วิลเลียมส์ แบ็คขวาวัย 18 ปี ที่วันนี้ได้รับโอกาสให้ลงเป็นตัวจริง ซึ่งต้องบอกเลยว่าดูแล้วเหมือนกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในเวอร์ชั่นที่บ้ายิงยังไงอย่างงั้น เนื่องจากมีการเติมเกมรุกที่ดุดัน การขยับหาพื้นที่ว่างที่ดี

แต่น่าเสียดายที่ยังต้องไปฝึกเรื่องความเฉียบขาดอีกนิด แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เจ้าตัวก็ทำได้ 1 แอสซิสต์ และเป็นประตูชัยส่งให้ทีมเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้อย่างฉิวเฉียดในเกมวันนี้  

ที่มา: 
วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แกรี่ เนวิลล์ จวก แมนยู ต้องหัดดู ลิเวอร์พูล เป็นตัวอย่างบ้าง




แกรี่ เนวิลล์ ตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่าสโมสรของเขาควรที่จะมองดูวิธีการซื้อขายนักเตะของ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามารับงานผู้จัดการทีมเป็นตัวอย่าง

ตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือเมื่อปี 2013 ทีม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ประสบความล้มเหลวในการซื้อขายนักเตะมาตลอด ในขณะที่ฝั่งทีม หงส์แดง สามารถดึงนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาร่วมทีม และกำลังสร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้

เนวิลล์ เชื่อว่า ยูไนเต็ด ควรที่จะมองดูวิธีการดำเนินการในตลาดซื้อขายภายใต้การทำงานของ เยอร์เก้น คล็อปป์

โดยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ การคัดเลือกนักเตะนั้นยังไม่ดีพอ คุณสามารถมองย้อนกลับไปที่ ราดาเมล ฟัลเกา และ อังเคล ดิ มาเรีย รวมถึงนักเตะที่พวกเขาเซ็นสัญญามาร่วมทีม ผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าที่พวกเขาดึงเข้ามาในช่วง 6-7 ปีหลังสุดนั้นไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้เลย

ช่วงท้ายเกมพวกเขาก็ให้โอกาส เจสซี่ ลินการ์ด และ ดิโอโก้ ดาโลต์ ซึ่งมันบอกคุณได้ว่าพวกเขากำลังอยู่ตรงจุดไหน ทีม ปีศาจแดง เป็นทีมที่มีค่าเหนื่อยสูงที่สุดเป็นอันดับสองในยุโรป แต่คุณต้องใช้เงินให้ฉลาดกว่านี้ ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนดูแลเรื่องการซื้อขายนักเตะในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

คุณดู ลิเวอร์พูล ที่ได้ตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ มาร่วมทีมซึ่งมีแต่คนรู้จัก ในขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ อาจมีคนรู้จักน้อยกว่าแต่ผู้เล่นเหล่านี้ก็พร้อมใช้งานได้ทันที ” อดีตแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ กล่าว

ที่มา: ข่าวแมนยู
วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

6 โปรแกรมบอล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ทีม ลิเวอร์พูล



6 โปรแกรมบอล ชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2019-20 "ลิเวอร์พูล"

ที่มา: Sanook Sport

ใกล้เต็มทีสำหรับการเถลิงบัลลังก์แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรกของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ต้องใช้เวลารอคอยมานานถึง 30 ปี

ซึ่งในฤดูกาลนี้ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการชนะ 24 นัด จาก 25 เกมในลีก โดยพลาดเสมอเพียงแค่เกมเดียว เก็บไปได้ถึง 73 คะแนน

ohohohohoza

ถึงเวลานี้พวกเขามีแต้มเหนือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับอันดับ 2 อยู่ถึง 22 คะแนน หลังการแข่งขันผ่านไปแล้ว 25 เกม นั่นเท่ากับว่าหาก 6 นัดต่อจากนี้ ลิเวอร์พูล สามารถคว้าชัยได้หมดจะการันตีแชมป์ทันที

เนื่องจากคะแนนในโปรแกรมทีเหลืออยู่จะไม่เพียงพอให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บแต้มไล่มาได้ทันอย่างแน่นอน เราลองไปดูโปรแกรมที่ "หงส์แดง" จะต้องเจอในอีก 6 เกมต่อจากนี้กันว่ามีแนวโน้มจะซิวชัยทุกเกมหรือไม่

  • 16 กุมภาพันธ์ 2563 : นอริช ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล (เยือน)
  • 25 กุมภาพันธ์ 2563 : ลิเวอร์พูล พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)
  • 1 มีนาคม 2563 : วัตฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล (เยือน)
  • 7 มีนาคม 2563 : ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธ (เหย้า)
  • 17 มีนาคม 2563 : เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล (เยือน)
  • 22 มีนาคม 2563 : ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

สเปอร์ส 2-0 แมนซิตี้: ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-20




สเปอร์ส 2-0 แมนซิตี้: ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-20




คลิปโดย : TNN ช่อง16


  • ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
  • วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2020
  • ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์  2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • ​สนาม : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม


สเปอร์ส เก็บ 3 คะแนนเต็มในศึก พรีเมียร์ลีก นัดที่ 25 เมื่อพวกเขาเปิดรัง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 จากประตูของ สตีเฟน เบิร์กไวน์ และ ซน ฮึง-มิน

หลังจาก เรือใบสีฟ้า ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่อ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ถูกใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 60

Steven Bergwijn

รูปเกมตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มต้นตกเป็นของ แมนฯ ซิตี้ อย่างเห็นได้ชัดเมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ ไก่เดือยทอง อย่างต่อเนื่องก่อนที่จะมาได้ลูกจุดโทษจากการพิจารณาด้วย VAR

เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร ถูกสกัดจากด้านหลังล้มลงในกรอบเขตโทษในช่วงท้ายครึ่งแรก อิลคาย กุนโดกัน รับหน้าที่สังหารแต่ยิงไปติดเซฟของ อูโก้ ยอริส และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

เกมในครึ่งหลังยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม ก่อนที่จุดเปลี่ยนของเกมจะมาถึงในนาทีที่ 60 เมื่อ ซิตี้ เสียบอลจากลูกเตะมุม และเป็น แฮร์รี วิงค์ส กระชากพาบอลสวนกลับเร็วหนี ซินเชนโก้ และถูกแบ็คซ้ายดาวรุ่งชาว ยูเครน อัดล้มลง ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ชูใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันทีอย่างไม่ลังเล

3 นาทีให้หลัง สเปอร์ส มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากช็อตที่กองหลัง ซิตี้ เคลียร์บอลกันไม่ขาด จังหวะสุดท้ายถูกหนุนไปเข้าทาง เบิร์กไวน์ ดาวเตะคนใหม่ถอดด้ามของ โชเซ มูรินโญ พักอกก่อนตวัดยิงด้วยขวาผ่านมือ เอแดร์ซอน ตุงตาข่าย ก่อนที่พวกเขาจะมาได้ประตูย้ำชัยจากจังหวะสวนกลับในนาทีที่ 71 โดยเป็น ซน ฮึง-มิน สังหารผ่านมือนายทวาร บราซิเลียน ของ ซิตี้ อย่างเด็ดขาด

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ : ยอริส, ออริเยร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, ซานเชซ, ทังกันก้า, วิงค์ส, โล เซลโซ, เดเล, เบิร์กไวน์, ซน, ลูคัส

ตัวสำรอง : กาซซานิก้า, เซสเซยอง, แฟร์ตองเก้น, ดายเออร์, เกดสัน, เอ็นดอมเบเล, ลาเมลา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ, โอตาเมนดี้, ซินเชนโก้, โรดริโก้, เดอ บรอยน์, กุนโดกัน, มาห์เรซ, สเตอร์ลิง, อเกวโร

ตัวสำรอง : บราโบ, เชซุส, ซิลบา, แบร์นาโด้, คันเซโล, โฟเด้น, การ์เซีย