วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลอฟเรน ยิงโทษไม่เข้าม เบซิคตัสเฉือนชนะหงส์ 5-4

ตกรอบแล้ว! ลอฟเรน ยิงโทษไม่เข้า

ทำให้เบซิคตัสเฉือนชนะหงส์ 5-4 +คลิป





  • ศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2014 - 2015 รอบ 32 ทีมสุดท้าย
  • แข่งวันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558
  • ทีมเบซิคตัส 1 - 0 ทีมลิเวอร์พูล
  • แพ้จุดโทษ 5 - 4
  • สำหรับผลการแข่งขันนัดแรก ทีมลิเวอร์พูล 1 - 0 ทีมเบซิคตัส
  • แข่งที่สนาม : อาตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม , เมืองอิสตัลบูล
  • กรรมการผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมินา


ในนาทีที่ 25 ทีมหงส์แดง นั้นเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะสเตอร์ริดจ์จิ้มบอลขึ้นหน้าให้ราฮีมหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่เจ้าตัวไม่ยอมยิง โชว์พริ้วล็อกก่อน ทำให้กองหลังตามมาปิดได้หมด

ซึ่งนาทีที่ 72 เจ้าบ้านเฮสนั่น หลังได้ประตูขึ้นนำ บอลเริ่มจากริมเส้นฝั่งซ้าย ส่งบอลถึงบา พักบอลให้อาร์สลานวิ่งเข้ามาปั่นระยะ 20 หลา บอลพุ่งโค้งหนีมือ มิโญเล่ต์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม 1 - 0

หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ ซึ่ง นาทีที่ 100 ทีมเบซิคตัส เกือบได้ประตูชัย บาได้บอลหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา ตัดสินใจยิงทันที ติดเซฟของมิโญเล่ต์ก่อนที่สเคอร์เทลตามมาเคลียร์ได้ทัน

และหลังจากที่หมดช่วงต่อเวลาพิเศษ ถึงเวลาต้องยิงจุดโทษหาผู้ชนะแล้ว หลังผลรวมสกอร์ทั้งสองนัดเสมอกัน 1 - 1 โดยผลการยิงจุดโทษมีดังนี้

ทีมเบซิคตัส :

  1. บา ผลการยิง เข้า
  2. โตเร่ ผลการยิง เข้า
  3. คาฟลัค ผลการยิง เข้า
  4. ฮัตชินสัน ผลการยิง เข้า 
  5. อาร์สลาน ผลการยิง เข้า


ทีมลิเวอร์พูล :

  1. แลมเบิร์ต ผลการยิง เข้า
  2. ลัลลาน่า ผลการยิง เข้า
  3. ชาน ผลการยิง เข้า
  4. อัลเลน ผลการยิง เข้า
  5. ลอฟเรน ผลการยิง ไม่เข้า


ทำให้จบเกม ทีมลิเวอร์บุกมาพ่ายแพ้ให้กับ ทีมเบซิคตัส ด้วยผลการดวลจุดโทษ 5 - 4 หลังผลสกอร์ทั้งสองนัดเสมอกัน 1-1 ซึ่งเป็น ลอฟเรน คนยิงคนสุดท้ายที่ยิงชนคานฉีกตั๋วเข้าโปรแกรมบอลรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูโรป้า ลีก เรียบร้อย และเป็นเบซิคตัสที่ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

มาดูรายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ทีมเบซิคตัส 4 - 5 - 1 : 

  • เชงค์ โกเนน 
  • เซอร์ดาร์ เคอร์ตูลุส 
  • เปโดร อูญัว 
  • เนซิป อูซาล 
  • ดาเนี่ยล โอปาเร่ 
  • โฆเซ่ โซซ่า 
  • ก็อคคาน โตเร่ 
  • เวลี่ คาฟลัค 
  • โอลคาย ซาฮาน 
  • อติบา ฮัตชินสัน 
  • เด็มบา บา


ทีมลิเวอร์พูล 3 - 4 - 3 : 

  • ซิมง มิโญเล่ต์
  • โคโล่ ตูเร่ 
  • เดยัน ลอฟเรน 
  • มาร์ติน สเคอร์เทล 
  • อัลเบร์โต้ โมเรโน่ 
  • เอ็มเร่ ชาน 
  • โจ อัลเลน 
  • จอร์ดอน ไอบ์ 
  • แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 
  • มาริโอ บาโลเตลลี่ 
  • ราฮีม สเตอร์ลิ่ง



วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลเวอร์คูเซ่น vs แอตเลติโก มาดริด

วิเคราะห์บอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลเวอร์คูเซ่น vs แอตเลติโก มาดริด




  • วิเคราะห์บอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก 
  • ทีมเลเวอร์คูเซ่น vs ทีมแอตเลติโก มาดริด 
  • แข่งวัน พุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 
  • แข่งเวลา: 02.45 นาฬิกา 
  • แข่งที่สนาม: ไบอารีนา 
  • กรรมการผู้ตัดสิน: พาเวล คราโลเว็ค ประเทศเช็ก 
  • ด้านสภาพอากาศ: 3 องศา, มีฝนเล็กน้อย 
  • ช่องที่ถ่ายทอดสด: TrueSport 3, TrueSport HD, TrueSport HD3


สำหรับผลการพบกัน 2 นัดหลังสุด

  1. วันที่ 16/12/10 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก เลเวอร์คูเซ่น 1 - 1 แอต.มาดริด
  2. วันที่ 30/09/09 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แอต.มาดริด 1 - 1 เลเวอร์คูเซ่น



ผลงาน 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม

ทีมเลเวอร์คูเซ่น

  1. วันที่ 21/2/15 ผลบอล เสมอ เอาก์สบวร์ก 2 - 2 นัดเยือน
  2. วันที่ 14/2/15 ผลบอล แพ้ โวล์ฟสบวร์ก 4-5 นัดเหย้า
  3. วันที่ 8/2/15   ผลบอล แพ้ เบรเมน 1-2 นัดเยือน
  4. วันที่ 4/2/15   ผลบอล ชนะ แฮร์ธ่า 1-0 นัดเยือน
  5. วันที่ 31/1/15 ผลบอล เสมอ ดอร์ทมุนด์ 0-0 นัดเหย้า


ทีมแอต.มาดริด

  1. วันที่ 21/2/15 ผลบอล ชนะ อัลเมเรีย 3-0 นัดเหย้า
  2. วันที่ 15/2/15 ผลบอล แพ้ เซลต้า 0-2 นัดเยือน
  3. วันที่ 7/2/15   ผลบอล ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 นัดเหย้า
  4. วันที่ 31/1/15 ผลบอล ชนะ เออิบาร์ 3-1 นัดเยือน
  5. วันที่ 28/1/15 ผลบอล แพ้ บาร์เซโลน่า 2-3 นัดเหย้า



เช็กความพร้อม-สภาพทีม


ทีมเลเวอร์คูเซ่น

  • ในส่วนของโอเมอร์ ท็อปรัค ติดโทษแบน 
  • ส่วนทางด้าน ทิน เยดไว ยังต้องรอลุ้นฟิต 
  • ส่วน คิริอากอส ปาปาโดปูลอส กับ เอเมียร์ สปาฮิช คงยืนเซ็นเตอร์คู่กัน 
  • ด้าน จูลิโอ โดนาติ นั้นต้องลุ้นว่าจะเบียดลงยืนแบ็กขวาได้หรือไม่ 
  • สำหรับสเตฟาน ไรนาร์ทซ์ พร้อมเป็นตัวเลือกในแดนกลางแล้ว 
  • แต่ว่า ลาร์ส เบนเดอร์ อาจยังไม่ฟิตพอ 
  • และโยซิป เดอร์มิช คงจะยืนศูนย์หน้า

รายชื่อนักเตะโดนแบน: โทเมอร์ ท็อปรัค


ทีมแอต.มาดริด

  • สำหรับโกเก้ ยังไม่หายเจ็บกลับมาเสริมแดนกลาง 
  • ส่วนอาร์ด้า ตูราน อาจชวดบู๊ด้วย ถ้าฟิตไม่ทันจากการบาดเจ็บระหว่างซ้อม 
  • แต่ว่า ติอาโก้ น่าจะพร้อมเป็นตัวเลือกได้ หลังกลับมาลงเล่นในสองนัดหลังสุดแล้ว 
  • ทางด้านของเฟร์นานโด ตอร์เรส คงต้องรอโอกาสในฐานะตัวสำรองไปก่อน 
  • เพราะว่า อองตวน กรีซม็อง กับ มาริโอ มันด์ซูคิช คงจะยืนคู่กันในแนวรุก



มาวิเคราะห์รูปเกม

โดยรวมแล้วทั้งสองทีมฟอร์มแกว่งไปเยอะ ทีมเลวอร์ฯ คงต้องเปิดเกมบุกเพื่อชิงความได้เปรียบไว้ก่อนกับการเล่นในบ้าน เพราะไปเยือน ทีมแอต มาดริดนัดหน้าคงเป็นงานที่หนักขึ้นอีกเยอะ เกมนี้ห้างขายยาต้องเน้นต่อบอลเข้าทำให้แน่นอน เพราะตราหมีดูฉาบฉวยและวูบวาบกว่า แต่ด้วยวินัยของเจ้าถิ่น เกมนี้มีลุ้นแน่และคงไม่พลาดท่าง่ายๆ


รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกที่คาด

ทีมเลเวอร์คูเซ่น 4 - 2 - 3 - 1:

  • 1.แบรนด์ เลโน
  • 27.กอนซาโล่ คาสโตร 
  • 14.คิริอากอส ปาปาโดปูลอส 
  • 5.เอเมียร์ สปาฮิช 
  • 18.เวนเดลล์
  • 6.ไซม่อน โรลเฟส 
  • 3.สเตฟาน ไรนาร์ทซ์
  • 38.คาริม เบลลาราบี้ 
  • 10.ฮาคาน คัลฮาโนกลู 
  • 7.ซอนเฮืองมิน
  • 9.โยซิป เดอร์มิช
โค้ชทีม: โรเจอร์ ชมิดท์


ทีมแอต.มาดริด 4 - 4 - 2:

  • 1.มิเกล โมย่า
  • 20.ฆวนฟราน 
  • 23.มิรันด้า 
  • 2.ดิเอโก้ โกดิน 
  • 3.กีเลอร์เม่ ซีเกร่า
  • 8.ราอูล การ์เซีย 
  • 14.กาบี้ 
  • 5.ติอาโก้ 
  • 17.ซอล นีเกซ
  • 7.อองตวน กรีซม็อง
  • 9.มาริโอ มันด์ซูคิช

โค้ชทีม: ดิเอโก้ ซิเมโอเน่


ผลฟุตบอลฮอตสกอร์: ทีมเลเวอร์คูเซ่น ชนะ 2-3 แอต มาดริด

สำหรับเกร็ดที่น่าสนใจ

  • ข้อแรก ทีมเลเวอร์คูเซ่นไม่ชนะเลยใน 3 นัดหลังสุด เสมอ 1 แพ้ 2 และชนะแค่ 2 จาก 10 เกมหลังเท่านั้น ชนะ 2 เสมอ 5 แพ้ 3
  • ข้อที่สอง ทีมแอตมาดริด เสมอแค่ครั้งเดียวจาก 13 นัดหลังสุด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 4 และไม่เสมอเลยใน 8 เกมหลัง
ที่มา: http://sport.sanook.com/134997/
วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฟุตบอล: แมตช์อำลา เจอร์ราร์ด,ผีแดงบนความปราชัย,โจอี้ บาร์ตัน

ล่าสุด!!! อลอนโซ่ - ตอร์ - ซัวเรซ ร่วมแข่งแมตช์อำลา เจอร์ราร์ด




หลังจากที่เหล่าแข้งทีมหงส์แดง ได้เตรียมรีเทิร์นกลับคืนถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อลงสนามเตะในเกมเทสติโมเนียลแมตช์อำลา ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้

ซึ่งเมื่อสื่อกีฬาเมืองผู้ดี รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ทีมลิเวอร์พูล ได้ทำหนังสือเชิญ

  1. ชาบี้ อลอนโซ่
  2. เฟอร์นานโด ตอร์เรส
  3. หลุยส์ ซัวเรซ 
  4. ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 
  5. เปเป้ เรน่า 

เพื่อให้เข้าร่วมเกมฟุตบอลนัดพิเศษเทสติโมเนียลแมตช์ อำลา ทีมลิเวอร์พูล ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

โดยที่ทั้งหมดนั้นล้วนเคยเล่นให้กับ ทีมหงส์แดง อีกทั้งได้ร่วมงานกับกัปตัน สตีวี่จี มาก่อน โดยกองกลางในวัย 34 ปีชาวอังกฤษ จะย้ายไปอยู่กับ ทีมลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ สโมสรในศึกเมเจอร์ลีก ซ็อคเก้อร์ สหรัฐอเมริกา หรือ เอ็มแอลเอส หลังจบฤดูกาลนี้

และทั้งนี้ การจัดแมตช์อำลาให้กับ เจอร์ราร์ด ก็เพื่อเป็นการเชิญชูเกียรติที่อยู่รับใช้เดอะ ค็อป มาอย่างยาวนานถึง 17 ปี และงานจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมนี้ ที่สนามแอนฟิลด์

ทีมผีแดงบนความปราชัย ในเชิงลูกหนัง!



และสำหรับผลงานของ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระดับห่วยสิ้นดี เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา หลังบุกไปพ่าย ทีมสวอนซี 1 - 2 พร้อมกับโดนย้ำแค้นแบบ - ทั้งไป และ กลับ

ซึ่งความอึดอัด ความพะอืดพะอม ตลอด 90 นาที นี่ถ้าไม่นับลูกการเข้าทำแบบสวยหรูในจังหวะขึ้นนำ 1 - 0 จากลูกยิงของ อันเดร์ เอร์เอร่า ก็ต้องขอบอกว่า ตลอดเกมเล่นได้ตามมาตรฐาน คือ ห่วยเหมือนเดิม

และถึงตรงนี้ ใครที่เป็นแฟนๆ ทีมปีศาจแดง ก็มิอาจปฏิเสธความเป็นจริงว่า ฟอร์มแบบนี้คงต้องกระเสือกกระสนไปยันจบฤดูกาลแน่นอน ในการคั่วโควต้าไปลุยถ้วย ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก

และ คำถามต่างๆมากมาย ได้วิ่งตรงไปยังผู้เป็นนายใหญ่ อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พร้อมกับคำถามเดิมๆ ว่า จนป่านนี้ ทำไมยังหา 11 ตัวจริงไม่ได้สักที!

และหลังจากที่ ทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก นั้นได้กลับสำแดงเดชในสนามได้แค่นี้นะหรือ? คิดๆ แล้วก็เจ็บปวดแทนบรรดา ทีมเร้ดอาร์มี่




และผู้เล่นอย่าง อังเคล ดิมาเรีย นั้นเริ่มต้นแบบสุดหรู แต่หลังจากผ่านมา 3 เดือน กลับถอยหลังลงคลอง อาวุธหลักอย่างการเปิดบอลระดับแม่นเป็นจับวางหายไปหมด

โดยฟอร์มเปรี้ยงปร้าง เมื่อต้นซีซั่น ได้หายเข้ากลีบเมฆไปซะอย่างงั้น

เมื่อถึง ณ จุดหนึ่งที่รู้สึกได้เลย ถึงสาเหตุ ที่ส่งให้ผลงานให้พลพรรค ทีมผีแดง ฟอร์มไม่เอาอ่าวยามนี้ คือ ความมั่นใจ

และทุกคนกำลังขาดมั่นใจ ที่สำคัญคือสภาวะความไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย




ก็จะยกตัวอย่างได้คือ ลุค ชอว์ ที่ย้อนไปเมื่อซีซั่นก่อนที่อยู่กับ ทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ฟอร์มนี่เข้าตา เกมรุกสะเด่าเหลือหลาย

แต่ว่าหลังจากมาอยู่บนยูนิฟอร์ม ทีมปีศาจแดง กลับฟอร์มหลุด ฟอร์มหาย พร้อมกับเดินหน้าเข้าโรงหมอ มากกว่าอยู่ในฟลอร์หญ้าซะอีก

และสิ่งที่แฟนๆ ทีมแมนฯยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ ตั้งความหวังหลังจากผ่านเกมหายนะเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ก็คงจะต้องขอบอกว่า ขอแค่ทีมรักประคองตัวเอง แล้ววิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมโควต้าไปลุยบอล ยุโรปถ้วยใหญ่ก็เป็นพอ ถึงแม้ว่าฟอร์มแบบไหนก็ช่างหัวมันเถอะ




ส่วนในด้าน ฟุตบอล เอฟเอคัพ นั้นจะไปถึงแชมป์หรือไม่แฟนๆ คงไม่แยแสเท่าไหร่นัก ประมาณว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

แต่ว่าเชื่อเถอะ หากซีซั่นนี้ลงเอย ด้วยการไม่ติด 1 - 4 ของลีก บอกเลยว่างานนี้อาจถึงขั้นวงแตกแน่นอน

ทั้งนี้คนที่จะโดนเชือดคือผู้ที่นั่งอยู่บนบังลังก์กุนซือ ด้วยโดนข้อหาฉกรรจ์จากผู้บริหาร

และนั่นคือข้อหา I ทุ่มเงินซื้อนักเตะขนาดนี้ You ทำทีมได้แค่นี้เหรอวะ

เขียนเรื่องโดย บ.ส้มซิ่ง

คลิ๊กชมคลิป ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก ครบทุกคู่ แบบชัดๆ ระดับ HD ได้ที่นี่



ฟุตบอล โจอี้ บาร์ตัน ใช้มือกระทุ้งเจ้าโลกคู่แข่ง +คลิป



หลังจากที่ โจอี้ บาร์ตัน กัปตันทีมของ ทีมQPR ก่อเหตุฉาวโฉ่อีก เมื่อตั้งใจใช้มือกระทุ้งเจ้าโลกคู่แข่ง จนโดนไล่ออกจากสนาม

สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นระหว่างในศึกพรีเมียร์ลีก นัดวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในเกมที่ ทีมฮัลล์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 2 - 1

ซึ่งเกมในครึ่งแรก นาทีที่ 33 ตัวของโจอี้ บาร์ตัน กับตันทีมอารมณ์ร้อน กำลังมีปากเสียงกับผู้เล่นของเจ้าถิ่น

โดยขณะที่กำลังปะทะคารมณ์กันดุเดือด บาร์ตัน ได้ออกอาวุธเด็ด นั่นคือการยื่นมือไปกระทุ้งเข้าที่กล่องดวงใจของ ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน มิดฟิลด์ของ ทีมฮัลล์ ซิตี้ แบบตั้งใจสุดๆ

และหลังจากนั้นผู้ตัดสิน ก็ตาไวพอที่จะเห็นช็อตดังกล่าว เลยจัดการมอบใบแดงตอบแทนความเกเรของมิดฟิลด์พันธุ์ดุรายนี้ในทันที






วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ล่าสุด!! อองรี นั่งสต๊าฟฟ์โค้ชอะคาเดมี่ชุดยู 16 ปี

ล่าสุด!! อองรี นั่งสต๊าฟฟ์โค้ชอะคาเดมี่ชุดยู 16 ปี

ภายหลังที่เธียร์รี่ อองรี แข้งตำนานกองหน้าชาวน้ำหอมวัย 37 ปี ได้ผันตัวเองเข้ามาทำงานเป็นโค้ชดูแลนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีที่ เฮล เอ็นด์ อะคาเดมี่ของ เหล่าปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นก้าวแรกเพื่อการไปเป็นกุนซือในอนาคต พร้อมทั้งความฝันก็คือดูแลพวกชุดใหญ่ เหล่าเดอะ กันเนอร์ส

ซึ่งเท่าที่วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ลอดมา เธียร์รี่ อองรี ได้เข้ามาทำงานในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งด้วยการเป็นหนึ่งในเหล่างานสต๊าฟฟ์โค้ช หลังประสบความสำเร็จในการค้าแข้งกับสโมสรฟุตบอล เหล่าปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ซึ่งปัจจุบันในวัย 37 ปีทำงานเป็นหนึ่งในกูรูวิเคราะห์เกมลูกหนังให้กับ Sky Sports สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ประจำเกาะอังกฤษ

พร้อมทั้งล่าสุด อดีตกองหน้าเหล่าชาติฝรั่งเศส ก็ได้เข้าไปนั่งทำงานเป็นโค้ชให้กับทีมเยาวชนดูแลนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีของสโมสร พวกปืนใหญ่ อาร์เซน่อล พร้อมทั้งความฝันที่ทะเยอทะยานจักทำหลังได้รับวิชาชีพการเป็นโค้ช ก็คือการได้คุมทัพ เหล่าเดอะ กันเนอร์ส ชุดใหญ่สักครั้งในชีวิต ซึ่งนี้เป็นการพางบุกเบิกต้น พร้อมกับหวังว่าแฟนบอลจะได้เห็นฝีมือการควบคุมทีมในอีกไม่นานเกินรอนับจากนี้

ที่มา: http://sport.sanook.com/133773/
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวกีฬา:บีร็อดชมแข้งหงส์,โค้ชหนึ่งรับทีมไทยอ่อนล้า,สารัชยิงทีมเก่า

บีร็อด ชมแข้งหงส์แดงครึ่งหลังเล่นดีและสมควรชนะ




หลังจากที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์วัย 42 ปีชาว ไอร์แลนด์เหนือ ได้ออกมากล่าวชื่นชมลูกทีม โดยเฉพาะเกมครึ่งหลัง ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ทำผลงานได้ดีจนสามารถพลิกแซงเอาชนะเจ้าบ้าน ทีมคริสตัล พาเลซได้  2 - 1 ชี้ว่าสมควรแล้วที่ทัพ ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล จะได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

สำหรับศึกบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2014 - 2015 รอบ 5 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังบุกไปเอาชนะ ทีมปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ถึงถิ่น เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค  2 - 1 โดย เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ยิงให้เจ้าบ้านออกนำไปก่อนจะโดนทีมเยือนเอาคืนสองลูกรวดจาก 1.ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ 2.อดัม ลัลลาน่า

โดยหลังจากจบเกมการแข่งขัน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ในถิ่นแอนฟิลด์ นั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีกับครั้งที่แล้วที่เรามาที่นี่กับฟอร์มการเล่นของเรา นั่นคือช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับเราจริงๆ และจากตรงนั้นทีมของเราก็ดีขึ้นมาก มันเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมในการต่อกรกับทีมที่ยากลำบากในวันนี้ แต่ผมคิดว่าเราเหมาะสมแล้วนะที่ได้รับชัยชนะ

เขากล่าวต่ออีกว่า เราเริ่มเกมกันอย่างเชื่องช้า แต่เมื่อเราทำสกอร์ได้ เราก็คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดเลย ทีมเรามีความยืดหยุ่นและเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ หลังจากที่เราทำประตูได้ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีมากๆ ในครึ่งแรกเราได้ลองยิง 15 ครั้ง แต่เราไม่ดุดันพอ ผมอยากให้เราคอยเล่นด้วยการฉีกออกด้านข้างต่อไป เราเปลี่ยนแผนในช่วงพักครึ่ง และมันได้ผลดีสำหรับเรา อดีตกุนซือ สวอนซี กล่าว

โค้ชหนึ่ง รับน่องนิ่มไทยล้าทำพ่าย ทีมสตองดาร์ด ลีแอช 1 - 3 ปรับแก้ลุยอุ่นต่อ ทีมอาแจ็กซ์ 17 กุมภาพันธ์ นี้




สำหรับความเคลื่อนไหวนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ศึกฟีฟ่า วีเมนส์ เวิลด์คัพ 2015 ที่ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน -  5 กรกฏาคม 2558

โดยในระหว่างที่กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมอยูที่เมือง มาสทริชท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเมื่อช่วงดึกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทีมสาวไทยลงเตะอุ่นเครื่องนัดที่ 3 พ่ายให้กับทีมฟุตบอลหญิงสตองดาร์ด ลีแอช ทีมจากลีกเบลเยียม 1 - 3 ที่สนามยูธ คอมเพล็กซ์ สตองดาร์ด เมืองลีแอช ประเทศเบลเยียม

ในเกมนี้ โค้ชหนึ่ง หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ซึ่งเป็นเฮดโค้ชทีมแข้งสาวไทยเปิดโอกาสให้นักเตะตัวสำรองลงสนามเป็นส่วนใหญ่ โดยครึ่งแรกนาทีที่ 34 ทีมสตองดาร์ด ลีแอช ยิงนำก่อน 1 - 0 จาก สคุนมาร์กัส โหม่งบอลเข้าประตูไป

หลังจากนั้นนาทีที่ 38 ทีมเจ้าถิ่นขยับสกอร์หนีห่างเป็น 2 - 0 จาก สคุนมาร์กัส คนเดิม แต่นาทีที่ 39 ทีมชาติไทยยิงตีไข่แตก 1 - 2 จากเนตร กาญจนา สังข์เงิน ได้เปิดบอลให้ ฝน หรือ นิสา ร่มเย็น โหม่งบอลไปติดเซฟนายทวารสตองดาร์ด ลีแอช บอลทะลักไปเข้าทาง อลิษา รักพินิจ นักเตะตัวสำรองตามซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย

ซึ่งในครึ่งหลังนาทีที่ 50 ลีเวิร์ดเรดซ่า นั้นโหม่งบอลเข้าประตูไปช่วยให้ ทีมสตองดาร์ด ลีแอช เอาชนะไป 3 - 1 ทำให้ทีมแข้งสาวไทยอุ่นเครื่องไปแล้ว 3 นัด แพ้รวด 3 นัด

และหลังจบเกม โค้ชหนึ่ง หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ได้เปิดเผยว่า สำหรับเกมอุ่นเครื่องกับ สตองดาร์ด ลีแอช นี้ จะเห็นได้ว่านักเตะตัวหลักมีอาการเหนื่อยล้าจาก 2 เกมที่ผ่านมา เพราะต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่งกว่ามากทั้งสิ้น

ซึ่งในช่วงครึ่งหลังได้ส่งนักเตะสำรองลงสนามไป และนักเตะก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ มีบางคนเท่านั้นที่ยังมีจุดที่จะต้องปรับแก้ไขอยู่บ้างเพื่อเตรียมตัวลงเตะอุ่นเครื่องนัดต่อไปที่จะพบกับ สโมสรฟุตบอลหญิง ทีมอาแจ็กซ์อัมสเตอร์ดัม จากลีกเนเธอร์แลนด์ วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้

สารัช อยู่เย็น ยิงทีมเก่า ช่วยทีมเมืองทองเชือด ทีมสวาทแคท คารัง




ในการการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ทีมสวาทแคท นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมน้องใหม่ พบกับ ทีมกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

และสำหรับรายชื่อผู้เล่นของทาง ทีมนครราชสีมา นั้นประกอบไปด้วย

  1. ประภาส กอบแก้ว
  2. สถาพร แดงสี
  3. ซาโตชิ นากาโนะ
  4. ประลอง สาวันดี
  5. ไกรเกียรติ เบียดตะคุ
  6. โนอาห์ ชิวูต้า
  7. ปริญญา อู่ตะเภา
  8. บียอร์น ลินเดมันน์
  9. ลี ทัค
  10. ยุทธนา เรืองสุขสุด
  11. อัครวินท์ สวัสดี


ในส่วนของ ทีมเอสซีจี เมืองทอง มี

  1. กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
  2. วีระวุฒิ กาเหย็ม
  3. อาทิตย์ ดาวสว่าง
  4. นาโออากิ อาโอยามะ
  5. ปิยพล ผานิชกุล
  6. ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
  7. สารัช อยู่เย็น
  8. ดัสกร ทองเหลา
  9. มาริโอ ยูรอฟสกี้
  10. ธีรศิลป์ แดงดา
  11. เคลตัน ซิลวา


ในช่วงนาทีที่ 29 ทีมเมืองทองเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากลูกยิงของ เคลตัน ซิลวา แต่ว่า ประภาส กอบแก้ว ผู้รักษาประตูโคราชพุ่งปัดเอาไว้ได้

จากนั้นในนาทีที่ 34 ทีมเมืองทองเกือบได้ลุ้นอีกครั้งจาก ธีรศิลป์ แดงดา แต่ก็ไปติดบล๊อกของ ซาโตชิ นากาโนะ จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0 - 0

ในช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ทีมเมืองทอง ขึ้นนำจนได้ เมื่อ คลีตัน ซิลวา ยิงไปแฉลบกองหลัง แล้วบอลไปเข้าทาง สารัช อยู่เย็น ที่วิ่งขึ้นมาแปเข้าไป จากนั้นก็ไม่มีฝั่งไหนทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ทำให้ทีม นครราชสีมา แพ้ ทีมเอสซีจี เมืองทอง 1 - 0

และโปรแกรมบอลนัดต่อไปวันที่  21 กุมภาพันธ์ นครราชสีมา จะออกไปเยือน ทีมสุพรรณบุรี เอฟซี ส่วน ทีมเอสซีจี เมืองทองฯ นั้นจะทำศึกบิ๊กแมตช์ในบ้าน พบกับ ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ในขณะที่ผลคู่อื่นๆ ทีมชัยนาท ฮอร์นบิล แพ้ ทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด 1 - 2 โดยแบงค็อกขึ้นนำก่อน 2 - 0 จาก เลอันโดร ตาตู ในนาทีที่ 40 และ เอกชัย สำเร นาทีที่ 56 ส่วน ทีมชัยนาท นั้นได้ประตูจาก มิคาเอล เมอร์ซีย์ ในนาทีที่ 58

ในด้าน ทีมราชมังคลากีฬาสถาน โอสถสภา เอ็ม - 150 สระบุรี เสมอกับ ทีมสุพรรณบุรี เอฟซี 1 - 1

ที่มา: http://sport.sanook.com/football/
วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวฟุตบอล: รวมข่าวกีฬาในลีกต่างๆรวมทั้งการซื้อขายนักเตะรอบที่ 2

สมาคมเอฟเอตั้งข้อหา ฟาน กัล




หลังจากที่หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์เลือดดัตช์วัย 63 ปี ผู้จัดการ ทีมผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ตั้งข้อหา หลังจากที่ให้สัมภาษณ์ตำหนิกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดแรก ที่บุกไปเสมอ ทีมเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 1 - 1

โดยหลังจากจบเกมเอฟเอ คัพ 2014 - 2015 รอบ 4 นัดแรก ที่ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ ทีมเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 1 - 1 และ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือผีแดงออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความไม่พอใจหลายๆ อย่างในการแข่งขันที่ดูจะไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งได้ตำหนิในการทำหน้าที่ของ คริส ฟอย ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว

และล่าสุด หลุยส์ ฟาน กัล ไม่รอด เมื่อเอฟเอนั้นได้ออกมาตั้งข้อหากับนายใหญ่ประจำถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มีเวลาให้ยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้ข้อกล่าวหาถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ก่อน 18.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 01.00 นาฬิกา ของวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ ตามเวลาบ้านเรา


หนุ่มลีกดิวิชั่น 8 ซบทีมพาเลซหลังซัดแฮตทริค 6 นาที




โดยที่ เคชี่ แอนเดอร์สัน หัวหอกดาวรุ่งของสโมสร ทีมบาร์ตัน โรเวอร์ส ทีมจากเซาเทิร์น ลีก ดิวิชั่น วัน เซนทรัล หรือ ลีกอังกฤษ ดิวิชั่น 8 ชีวิตเหมือนฝันราวดั่งนิยาย หลังกลายมาเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีก ตามฝันได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวย้ายซบ ทีมคริสตัล พาเลซ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนตลาดซื้อ - ขายปิดลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังซัดแฮตทริคใส่ ทีมพาเลซ โดยใช้เวลาเพียง 6 นาที

และกองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี ยังได้โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมซัดไป 19 ประตู จาก 19 เกม ก่อนมาทดสอบฝีเท้ากับ เบรนท์ฟอร์ด ทีมในเดอะแชมเปี้ยนชิพ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง ทีมคริสตัล พาเลซ โดยเจ้าตัวลงมาเป็นตัวสำรองในนาที 65 แต่ใช้เวลาห่างกันเพียงแค่ 6 นาที ก็สามารถถล่มแฮตทริคได้ ทำให้ อลัน พาร์ดิว รีบดึงมาร่วมทีมอย่างรวดเร็ว

โดยได้มีรายงานอีกว่า เคชี่ แอนเดอร์สัน รับทรัพย์จากการเซ็นสัญญา 30000 ปอนด์ จากเดิมรับค่าเหนื่อยกับ บาร์ตัน แค่ 200 ปอนด์ต่อเดือนเท่านั้น




ตัวเลนน่อน บอกปัด ทีมสโต๊คเลือกไป ทีมเอฟเวอร์ตัน แบบยืมตัว




หลังจากที่ ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน นั้นได้ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว อาร่อน เลนน่อน ปีกวัย 27 ปีชาวอังกฤษของ ทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาเสริมทัพเป็นที่เรียบร้อย ก่อนตลาดรอบ 2 จะปิดตัวลง ในแบบสัญญายืมตัวจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ ปล่อยให้ ทีมสโต๊ค ซิตี้ ซดแห้วไปตามระเบียบ

ซึ่งอาร่อน เลนน่อน ปีกตัวจี๊ดของ ทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปฎิเสธที่จะไม่ร่วม ทีมช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ แต่เลือกซบตัก ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน แทน ทั้งนี้อยู่ภายใต้สัญญายืมตัวใช้งานจนจบฤดูกาล 2014 - 2015

และสาเหตุการย้ายทีมของ เลนน่อน เป็นที่ทราบกันดีว่าภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ของถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน เจ้าตัวไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าไหร่ในซีซั่นนี้ ซึ่งได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 9 นัดเท่านั้น และกลายเป็นตัวเลือกรองจาก 1.นาเซอร์ ชาดลี่ และ 2.อันดรอส ทาวน์เซนด์

โดยที่เลนน่อน วัย 27 ปีลงเล่นให้กับทัพ ทีมไก่เดือยทอง มาตั้งแต่ปี 2005 รวมแล้วถึงตอนนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 267 นัด และทำไปได้ 26 ประตู

ซวยจริงๆ! ตากล้องตกงานหลังถ่าย เลนน่อน หน้าบูด




หลังจากที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่เป็นกุนซือ ทีมฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เกิดอาการเหวี่ยงช่างภาพสโมสรที่ถ่าย อารอน เลนน่อน ปีกความเร็วสูงคนใหม่ ออกมาหน้าตาบูดบึ้งตลอดการเปิดตัวมาร่วมทัพภายใต้สัญญายืมตัวจาก ทีมสเปอร์ส

โดยที่หลายต่อหลายรูปที่ปรากฎออกสื่อนั้น มาจากฝีมือของ ปีเตอร์ ไบร์น ที่เป็นคนถ่ายภาพ แต่ปรากฏว่าหน้าตาของ เลนน่อน แทบจะทุกภาพนั้น ดูจะไม่มีความสุขเอาเสียเลยที่ต้องย้ายมาร่วมทัพ ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน





ซึ่งมาร์ติเนซ ได้กล่าวว่า จริงๆแล้ว เขาแฮปปี้มากๆเลยนะที่มาเล่นกับเรา ช่างภาพห่วยมากที่ทำให้ออกมาเป็นแบบนี้ เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขา ที่จะต้องทำให้นายแบบยิ้มสวยๆ

และสภาพร่างกายเขาฟิตเปรี๊ยะ และพร้อมเป็นส่วนสำคัญของทีมของเราสำหรับเกมสุดสัปดาห์นี้ด้วย

เขาพูดว่า เราดีใจมากๆ และรู้ว่าตอนนี้มีหลายต่อหลายคน กำลังพูดถึงเรื่องภาพถ่ายเหล่านั้น ผมจะให้ทีมหาช่างภาพคนใหม่ เพราะผมก็หงุดหงิดเหมือนกัน




ทีมบาร์ซ่าเตรียมเปลี่ยนชื่อสนามเป็น กาตาร์ แอร์เวย์ส




ทีมบาร์เซโลน่า นั้นเตรียมเปลี่ยนชื่อสนาม คัมป์ นู หลังทีมต้องทำตามข้อตกลงของผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่าง กาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินยักษ์ใหญ่

ซึ่งสนาม คัมป์ นู ชื่อนี้อาจไม่มีอีกต่อไป หลังมีรายงานว่า ทีมบาร์เซโลน่า ที่เป็นทีมยักษ์ใหญ่ลา ลีกา สเปน เตรียมเปลี่ยนชื่อสนามใหม่ ในขณะที่ทีมกำลังพยายามเจรจาทำสัญญาฉบับใหม่กับ กาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินยักษ์ใหญ่จากตะวันออกกลาง

ทีมบาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งศึก ลา ลีกา สเปนกำลังจะหมดสัญญากับสายการบินอาหรับ โดยจะทำให้ทีมได้เงินสนุบสนุนทีมมากถึง 25 ล้านปอนด์ต่อปีในปี 2016 ซึ่งขณะนี้ทีมกำลังพยายามโปรแกรมบอลขยายสัญญาใหม่อยู่

โดยที่ อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ที่เป็น ซีอีโอของกาตาร์เผยว่ามีโอกาสที่จะใช้ชื่อของบริษัทเป็นชื่อสนามความจุ 99000 ที่นั่ง ในการเป็นชื่อใหม่ของรังเหย้าของ ทีมบาร์ซ่า

และก่อนหน้านี้ ทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมลีกก็มีแผนเปลี่ยนชื่อสนามตามสปอนเซอร์ของทีมเช่นกัน จาก สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็น สนามดิ อาบู ดาบี เบร์นาเบว นั่นเอง

ที่มา: http://sport.sanook.com/football/

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ดูคะแนนนักเตะไทย ใครโหดสุด นัดอัด ทีมฮอนดูรัส 3 - 1

ดูคะแนนนักเตะไทย ใครโหดสุด นัดอัด ทีมฮอนดูรัส 3 - 1





หลังจากผ่านเกมแรกไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 ที่เมืองโคราช

ทีมช้างศึก ทีมชาติไทย พลิกกลับมาแซงชนะ ทีมชาติฮอนดูรัส ไปแบบสนุกเร้าใจ 3 - 1 เก็บ 3 แต้ม พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ด้วยลูกได้ - เสีย ที่เหนือกว่า ทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ ทีมชาติอุซเบกิสถาน มาได้ 1 - 0

ในวันนี้เรามีคะแนนความสามารถของนักเตะไทยมาฝากกันเช่นเดิม

คนแรก กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : เขามีเวลาอยู่ในสนามแค่ครึ่งเวลาแรก เพราะได้รับบาดเจ็บ จากจังหวะปะทะกับผู้เล่นฮอนดูรัส เกมโดยรวมของ เจ้าตอง ยังถือว่าอยู่ในมาตรฐานของเขา แต่ลูกที่โดนส่อง ต้องบอกว่าสุดปัญญาจะเซฟได้จริงๆ
ให้คะแนน : 7/10

คนที่สอง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา : เจ้าบาส คนที่เติมเกมรุกได้เด่น ทีเด็ดอยู่ที่ลูกยิงจากแถวสอง เกมนี้มีโอกาสกดเต็มๆ 1 ดอก แต่โดนนายทวารฮอนดูรัส เซฟไว้ได้หวุดหวิด แต่เรื่องเกมรับยังดูหลวมๆไปนิด
ให้คะแนน : 7/10

คนที่สาม มิก้า ชูนวลศรี : เขาเป็นคำตอบที่ชัดเจน และการันตีว่า เขาติดทีมชาติไทยหนนี้ด้วยฝีเท้าล้วนๆ ความมุ่งมั่นทุ่มเท และการสกัดบอลที่หนักหน่วง ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาเด่นที่สุดในเกมนี้ก็ว่าได้
ให้คะแนน : 9/10

คนที่สี่ สุทธินันท์ พุกหอม : เจ้าเอ็ม เขาประคองเกมช่วยน้องๆ ในทีมได้ดี แต่จังหวะที่เสียประตู ดูเหม่อๆ ไปนิด แต่นอกจากนั้นถือว่าทำหน้าที่เก็บกวาดหลังบ้านได้ตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด
ให้คะแนน : 7/10

คนที่ห้า นฤบดินทร์ วีวัฒโนดม : ขวัญใจสาวๆอย่าง เจ้าต้น เกมนี้โชว์ความฟิตแบบสุดพลัง การเติมเกมบุก และขันแนวรับให้แน่น คือสิ่งที่ นฤบดินทร์ ทำให้เห็นว่า แบ็คขวาทีมชาติไทยชั่วโมงนี้ไม่มีใครเกินเขาแน่นอน
ให้คะแนน : 7/10

คนทีหก สารัช อยู่เย็น : เป็นมิดฟิลด์ที่มีโลโก้คือความขยัน แสดงศักยภาพที่เต็มเปี่ยมอีกหนึ่งเกม เจ้าตัง ป็นตัวไล่ตัดเกม และ ช่วยทีมได้อย่างมากมายในเกมนี้ แต่ที่เห็นความต่างของเขาจากเดิม คือการกล้าดันสูงขึ้นไปช่วยเพื่อนลุ้นยิงประตู
ให้คะแนน : 9/10

คนที่เจ็ด ปกเกล้า อนันต์ : หลังจากลูกยิงสุดติ่งกระดิ่งแมวในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน เมื่อปีก่อนโน่น มาวันนี้ ปกเกล้า อนันต์ กลับมาพร้อมประตูที่หลายคนอยากเห็นจากฝีเท้าของเขา วันนี้เขาโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยม และลูกยิงปิดกล่อง 3-1 คือเครื่องหมายการค้าของเขาอย่างแท้จริง
ให้คะแนน : 8/10

คนที่แปด มงคล ทศไกร : เขาถูกโฉลกกับการ ประเดิมเกมทัวร์นาเม้นท์จริงๆ มงคล ทศไกร ฟอร์มเด่นสุดๆ ในเกมเมื่อวานนี้ การใช้ความเร็วฉีกแนวรับของฮอนดูรัส และ เปิดบอลให้เพื่อนทำประตู ถือเป็นวันที่เขาเล่นได้เด่นที่สุด ตั้งแต่ติดทีมชาติมาเลยทีเดียว
ให้คะแนน : 9/10

คนที่เก้า ประกิต ดีพร้อม : นี่เป็นวันที่เงียบเชียบสำหรับ ประกิต ดีพร้อม อะไร อะไร ดูจะไม่เป็นใจไปซะหมด สุดท้ายเลยต้องโดนถอดออกในช่วงต้นครึ่งหลัง
ให้คะแนน : 6/10

คนที่สิบ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ : เขาเล่นกันเข้าขารู้ใจกับ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ด้านริมเส้นฝั่งซ้าย เกมนี้ เจ้าก้อง รักษาระดับการเล่นของตัวเองได้เช่นเดิม แถมมีโชคกับการมีชื่อเป็นผู้ทำสกอร์ขึ้นนำ 2-1
ให้คะแนน : 7/10

คนที่สิบเอ็ด ชนาธิป สรงกระสินธ์ : เล็กพริกขี้หนูของจริง ก็ต้องยกให้ เมสซี่เจ ที่เกมนี้ป่วนผู้เล่นร่างยักษ์ของฮอนดูรัสได้ตลอดทั้งเกม น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถทะลวงตาข่ายได้ แต่การมีส่วนร่วมกับเกม รวมถึงการควบคุมอารมณ์ได้ดี ในเวลาโดนหวด โดนเตะได้อย่างไม่แยแสซะด้วย
ให้คะแนน : 8/10

ตัวผู้เล่นสำรอง :

คนที่หนึ่ง ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ : เป็นนายทวารมือ 2 ที่ไว้ใจได้เสมอ ชนินทร์ โชว์เซฟสวยๆได้ 2 - 3 ครั้ง
ให้คะแนน : 8/10

คนที่สอง ภิญโญ อินพินิจ : ลงมาเล่นเป็นหน้าเป้า โดนหวดซะน่วม แต่สุดท้ายเขาก็ลงมาทำให้เกมรุกดูคึกคักขึ้นมา
ให้คะแนน : 6/10

คนที่สาม นูรูล ศรียานเก็ม : เขาเป็นปีกความเร็วสูง ลงมาช่วงสั้นๆ แต่เกือบทำประตูได้ในนาทีสุดท้าย ซึ่ง นูรูล น่าจะเป็นตัวสำรองตัวทีเด็ด ที่พร้อมจะลงมาเป็น ตัวทีเด็ดได้แน่นอนในเกมต่อไป
ให้คะแนน : 6/10

เรื่องโดย บ.ส้มซิ่ง


ที่มา: http://sport.sanook.com/130267/
วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวฟุตบอล: ศึกฟุตบอลรีเมียร์ลีกนัดที่ 23 ปี 2558

ฟุตบอล: เรือบุกเจ๊าสิงห์บลูส์1-1ตามหลัง5แต้มเท่าเดิม



  • การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2014-2015 นัดที่ 23
  • การแข่งวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558
  • ทีมเชลซี 1 - 1 ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งที่สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
  • กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก


วิเคราะห์ผลบอล: ในนาทีที่ 7 ทีมแมนฯซิตี้ ได้ลุ้นประตูจาก แฟร์นันดินโญ่ หลุดเข้าเขตโทษทางด้านขวาก่อนจะยิงหลุดกรอบออกหลังไป

โดยนาทีที่ 24 ทีมเยือนมีโอกาสจาก เซร์คิโอ อกูเอโร่ กระซากบอลหนี เคิร์ต ซูม่า ก่อนยิงไปโดน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดบอลออกไปได้

ต่อมานาทีที่ 33 ทีมเรือใบ เล่นเกมสวนกลับเร็วและ จอห์น เทอร์รี่ สกัดบอลพลาด ทำให้ เซร์คิโอ อกูเอโร่ หลุดไปดวล ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนยิงหลุดเสาออกหลังนิดเดียว

ซึ่งนาทีที่ 42 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โยนบอลไปให้ เอแด็น ฮาซาร์ด ปาดเร็วจากด้านซ้ายมาหน้าประตู โลอิก เรมี่ เข้าชาร์จไม่พลาด 1 - 0

และนาทีที่ 45 ทีมเยือนตามตีเสมอทันควันเมื่อ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ตัดบอลพลาดจนเข้าทาง เซร์คิโอ อกูเอโร่ ยิงอัดเข้ามาแล้ว ดาบิด ซิลบา ล้มตัวจิ้มเข้าไปเป็น 1 - 1

ต่อมานาทีที่ 55 ทีมแมนฯซิตี้ มีลุ้นจากการโหม่งของ แฟร์นันดินโญ่ ก่อนที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ จะกระโดดปัดบอลออกหลังไป

ในช่วงท้ายเกมทีมเยือนบุกหนักหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนจบเกม 90 นาทีเสมอกันไป 1 - 1 แบ่งทีมละแต้ม ทำให้ช่องว่างยังห่างกัน 5 คะแนนเท่าเดิม


มาดูรายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


ทีมเชลซี : ระบบ 4-2-3-1
  • ตำแหน่งผู้รักษาประตู : 1.ติโบต์ กูร์กตัวส์
  • ตำแหน่งกองหลัง : 2.บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, 3.เคิร์ต ซูม่า, 4.จอห์น เทอร์รี่, 5.เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า
  • ตำแหน่งกองกลาง : 6.รามิเรส, 7.เนมันย่า มาติช – 8.วิลเลี่ยน, 9.ออสการ์, 10.เอแด็น ฮาซาร์ด
  • ตำแหน่งกองหน้า : 11.โลอิก เรมี่

ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4-2-3-1
  • ตำแหน่งผู้รักษาประตู : 1.โจ ฮาร์ท
  • ตำแหน่งกองหลัง : 2.บาการี่ ซานญ่า, 3.แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, 4.มาร์ติน เดมิเคลิส, 5.กาแอล กลิชี่
  • ตำแหน่งกองกลาง : 6.แฟร์นันดินโญ่, 7.แฟร์นันโด – 8.เฆซุส นาบาส, 9.ดาบิด ซิลบา, 10.เจมส์ มิลเนอร์
  • ตำแหน่งกองหน้า : 11.เซร์คิโอ อกูเอโร่

เป็นการถอนแค้นได้สำเร็จ! ผีแดงเปิดรังฝังจิ้งจอก 3 - 1 ขึ้นรั้งที่ 3





  • การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
  • แข่งวันเสาร์ที่ 31 มกราคม ปี 2558
  • ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 1 ทีมเลสเตอร์ ซิตี้
  • แข่งที่สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
  • กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

หลังจากที่เริ่มเกมครึ่งแรก เจ้าถิ่น ทีมแมนฯยูฯ ได้ลุ้นก่อน ในนาทีที่ 13 จากจังหวะปั่นนอกกรอบโทษของ อังเคล ดิ มาเรีย แต่บอลไปติดกำแพง

ต่อมานาทีที่ 22 เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลคืนหลังพลาด เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ฉกบอลไปได้แต่โดนเบียด ทำให้จังหวะยิงทำได้ไม่ดีพอบอลข้ามคานออกไป

และถัดมาอีก 1 นาทีเจ้าถิ่น ได้โต้กลับ อังเคล ดิ มาเรีย ให้ ลุค ชอว์ พาบอลขึ้นไป ก่อนเปิดเข้ากลางให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้แปเน้นๆ แต่หลุดออกไป

ในนาทีที่ 26 จากความผิดพลาดของแนวรับเลสเตอร์ ทำให้ ดาเล่ย์ บลินด์ ตัดบอลได้ ก่อนโยนขึ้นหน้าให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงด้วยขวาทันที บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าถิ่น แมนฯยูฯ ออกนำ 1 - 0

นาทีที่ 31 ทีมแมนฯ ยูฯ ได้ขยับหนีห่างเป็น 2 - 0 เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เก็บบอลได้ ก่อนแทงทะลุช่องให้ อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นกราบซ้าย ก่อนยิงมุมแคบ มาร์ค ชวาร์เซอร์ รับไม่ติดมือ ก่อนเป็น ราดาเมล ฟัลเกา ที่วิ่งตัดเข้ามาซ้ำจ่อๆ เข้าไป

นาทีที่ 43 ทีมแมนฯยูฯ มาได้ประตูสาม จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เวย์น รูนี่ย์ เปิดเข้ากรอบโทษ ก่อนที่ ดาเล่ย์ บลินด์ จะวิ่งฉีกหนีตัวประกบออกมาโขกที่เสาแรก และเป็น เวส มอร์แกน ที่โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไป

ทำให้จบครึ่งแรก ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ ทีมเลสเตอร์ ห่างถึง 3 - 0

เริ่มเกมส์มาในครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูเพิ่มอีก อัดนาน ยานาไซ พาบอลขึ้นทางซ้าย ก่อนปาดเข้ากลาง ราดาเมล ฟัลเกา แหย่ไม่ถึงบอล ทำให้เข้ามือ มาร์ค ชวาร์เซอร์

นาทีที่ 56 อัดนาน ยานาไซ มีโอกาสลองส่องไกล แต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป

นาทีที่ 60 เลโอนาร์โด้ อูยัว หลุดเดี่ยวเข้าไปโดยมี มาร์กอส โรโฮ วิ่งตามประกบไปด้วย แล้วล็อคเข้าในก่อนล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการชี้ว่า อูยัว ล้มลงเอง แมนฯยูฯรอดตัวไป

นาทีที่ 79 ทีมเลสเตอร์ มาตีไข่แตกได้สำเร็จไล่มา 1 - 3 เมื่อ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดไปเสาสอง ฟิล โจนส์ ขึ้นโหม่งไม่ถึง บอลเลยมาถึง มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ พุ่งโขกบอลเข้าไปเต็มๆ ถึงแม้จะโดนเท้า ดาบิด เด เกอา ก็ตาม

ทำให้จบเกม ทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถอนแค้นคืนสำเร็จ เปิดบ้านเอาชนะ ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 3 - 1 เพิ่มเป็น 43 แต้ม ขยับขึ้นรั้งอันดับ 3 ชั่วคราว


ดูรายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม

ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ  4 - 3 - 1 - 2  :
  1. ดาบิด เด เกอา 
  2. อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปลี่ยนตัว ฆวน มาต้า ลงมานาทีที่ 77
  3. ฟิล โจนส์
  4. มาร์กอส โรโฮ
  5. ลุค ชอว์ 
  6. อัดนาน ยานาไซ
  7. ดาเล่ย์ บลินด์
  8. อังเคล ดิ มาเรีย 
  9. เวย์น รูนี่ย์ 
  10. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปลี่ยนตัว แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ลงมานาทีที่ 69
  11. ราดาเมล ฟัลเกา เปลี่ยนตัว เจมส์ วิลสัน ลงมานาทีที่ 80

ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4 - 3 - 3 :

  1. มาร์ค ชวาร์เซอร์ 
  2. แดนนี่ ซิมพ์สัน
  3. มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ 
  4. เวส มอร์แกน
  5. ริทชี่ เดอ ลาท 
  6. แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ 
  7. แอนดี้ คิง 
  8. เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ 
  9. อันเดรย์ ครามาริช เปลี่ยนตัว มาร์ค อัลไบรท์ตัน ลงมานาทีที่ 62
  10. เลโอนาร์โด้ อูยัว เปลี่ยนตัว เดวิด นูเจ้นท์ ลงมานาทีที่ 62
  11. เจมี่ วาร์ดี้ เปลี่ยนตัว เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ลงมานาทีที่ 45