วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ไฮไลท์ฟุตบอล | แมนยู vs วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 | พรีเมียร์ลีก (คลิป)

 



  • ผลบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
  • คืนวันอังคารที่ 29 ธันวาคม 2020
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน
  • สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตูโทนจากช่วงทดเวลาบาดเจ็บโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบียดเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 ทะยานรั้งอันดับรองจ่าฝูงของศึก พรีเมียร์ลีก

โอกาสอย่างจะแจ้งของ ปีศาจแดง ในครึ่งแรกเกิดขึ้นจากช็อตที่ บรูโน แฟร์นันด์ส พยายามโฉบตัดหน้ากองหลัง วูล์ฟส เข้าไปตวัดยิงในจังหวะแรกแต่ไม่เป็นประตู ก่อนที่ทีมเยือนจะได้ลุ้นจากการเติมขึ้นไปเล่นลูกเซ็ตพีซของ โรแม็ง ไซอิสส์ ส่งให้ ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟถึง 2 ครั้งเน้นๆ

เกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ แต่แล้วลูกวางบอลยาวของ บรูโน ทิ้งไปให้ แรชฟอร์ด ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวาถึงกองหน้าทีมชาติ อังกฤษ ก่อนที่เจ้าหนูแรชจะเลี้ยงตัดหามุมเข้าเท้าซ้ายตะบันเต็มเหนี่ยว บอลไปแฉลบ ไซอิสส์ กระดอนซุกที่ก้นตาข่ายชนิดที่ รุย ปาทริซิโอ หมดสิทธิ์เซฟ

ผลจากการแข่งขันในเกมนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงบนตารางคะแนน (แข่ง 15 นัดมี 30 คะแนน)

ตามหลัง ลิเวอร์พูล (แข่ง 15 นัดมี 32 แต้ม) ในตำแหน่งหัวตารางเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ก่อนที่ หงส์แดง จะฟาดแข้งเกมที่ 16 กับ นิวคาสเซิล ในคืนวันพุธ ขณะที่ วูล์ฟส์ อยู่อันดับที่ 12 (แข่ง 16 นัดมี 21 แต้ม)

นอกจากนี้จากประตูชัยของ แรชฟอร์ด ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นของทีมปีศาจแดงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทำประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ของฟุตบอลลีกมากที่สุด ด้วยจำนวนสามลูกอีกด้วย

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด
  1. เด เคอา
  2. วาน-บิสซาก้า
  3. ไบยี
  4. แม็คไกวร์
  5. เตลเลส (ชอว์ 46')
  6. ป็อกบา
  7. มาติช
  8. กรีนวูด (มาร์กซิยาล 64')
  9. บรูโน (แม็คโทมิเนย์ 90'+5)
  10. แรชฟอร์ด
  11. คาวานี

ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน : เฮนเดอร์สัน, เจมส์, มาต้า, เฟร็ด, ทวนเซเบ้, ฟาน เดอ เบค

วูล์ฟส์
  1. ปาทริซิโอ
  2. โคอาดี้
  3. ไซอิสส์
  4. คิลแมน
  5. ฮูเวอร์
  6. เนเวส
  7. วิตินญา (โพเดนซ์ 55')
  8. มูตินโญ
  9. อิต นูรี
  10. ตราโอเร
  11. เนโต้ (ซิลวา 68')

ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน : คอร์เบนู, คันเดิล, มาร์เควส, โอตาโซวี, ริชาร์ดส, รัดดี้, เซเมโด้


สรุปผลพรีเมียร์ลีก คู่อื่นๆ
  • ไบรจ์ตัน 0-1 อาร์เซน่อล
  • เบิร์นลี่ย์ 1-0 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
  • เซาแธมป์ตัน 0-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
  • เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-5 ลีดส์ ยูไนเต็ด
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 วูลฟ์ส์
วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เวโรน่า VS อินเตอร์ มิลาน 1-2 | กัลโช เซเรีย อา อิตาลี

เวโรน่า VS อินเตอร์ มิลาน 1-2 | กัลโช เซเรีย อา อิตาลี




ศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่ สนาม มาร์คอันโตนิโอ เบนเตโกดี้ ระหว่าง เฮลลาส เวโรน่า เปิดบ้านรับมือ อินเตอร์ มิลาน

เวโรน่า ปรับเปลี่ยนแนวรับด้วยการให้ มาญานี่ ลงมายืนแทน กุนเตอร์ และแนวรุกเลือกให้ ซัลเซโด้ ค้ำหน้าโดยมี ซัคคานญี่ กับ คอลลีย์ คอยสนับสนุน

อินเตอร์ ก็ปรับนิดนึงด้วยการเน้นเกมรุกมาขึ้นโดยให้ เปริซิช ลงสนามและดร็อปกองกลางออกไปคน

ผลปรากฎว่า อินเตอร์ มิลาน บุกชนะ เวโรน่า 2-1 โดยทีมเยือนออกนำก่อน 1-0 จาก เลาตาโร มาร์ติเนซ นาทีที่ 52 แต่เจ้าถิ่นไม่ยอมแพ้ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้จาก อิวาน อิลิช นาทีที่ 63

กระทั่งนาทีที่ 69 “งูใหญ่” จึงมาได้ประตูชัย 2-1 จาก มิลาน สคริเนียร์

จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ “งูใหญ่” มี  33 คะแนนจาก 14 นัดนำเป็นจ่าฝูง แต่เตะมากกว่า เอซี มิลาน รองจ่าฝูง ที่มี 31 คะแนนจาก 13 นัดอยู่ 1 เกม ฝั่ง เวโรน่า มี 20 คะแนนรั้งอันดับ 9

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เรอัล มาดริด VS อลาเบส 1-2 ตามจ่าฝูง 6 แต้ม

 


ผลฟุตบอลลาลีกา สเปน 2020/21

เรอัล มาดริด อันดับ 4 เปิดสนามอัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน รับการมาเยือนของ เดปอร์ติโบ อลาเบส ทีมอันดับ 15 ของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-3-3 มาร์โก อาเซนซิโอ, เอแด็น อาซาร์ และ มาเรียโน ดิอาซ เป็นสามประสานในแนวรุก ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-4-2 โรดริโก บัตตายา คุมแดนกลาง คู่กองหน้าเป็น ลูคัส เปเรซ กับ โฆเซลู

ผลการแข่งขันปรากฏว่า อลาเบสเป็นฝ่ายบุกมาชนะไป 2-1 ได้ประตูจาก ลูคัส เปเรซ สังหารจุดโทษนาทีที่ 5 และ โฆเซลู นาที 49 ส่วนทัพราชันชุดขาวได้คืนจาก คาเซมิโร นาที 88

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ เดปอร์ติโบ อลาเบส มี 13 คะแนน จาก 11 นัด ด้าน เรอัล มาดริด มี 17 คะแนนเท่าเดิม จาก 10 นัด


ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1178056/

แมนซิตี้ VS เบิร์นลี่ย์ 5-0 - พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020-21

 

แมนซิตี้ VS เบิร์นลี่ย์ 5-0 - พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020-21





ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020/21 นัดที่ 9 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 14 เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 17 ของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-3-3 เควิน เดอ บรอยน์ รับบทเพลย์เมคเกอร์ เฟร์ราน ตอร์เรส, ริยาด มาห์เรซ และ กาเบรียล เชซุส เป็นสามประสานในแดนหน้า ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-4-2 จอช เบนสัน กับ แอชลีย์ เวสต์วูด คุมแดนกลาง แอชลีย์ บาร์นส์ จับคู่ คริส วูด ล่าตาข่าย

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ขุนพลเรือใบสีฟ้ารีดฟอร์มเก่งก่อนเอาชนะสบายเท้า 5-0 ได้ประตูจาก ริยาด มาห์เรซ ทำแฮตทริกนาทีที่ 6, 22, 69, แบ็งฌาแม็ง เมนดี นาที 41 และ เฟร์ราน ตอร์เรส นาทีที่ 66

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเพิ่มเป็น 15 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8 ส่วน เบิร์นลี่ย์ มี 5 คะแนนเท่าเดิม

ดอร์ทมุนด์ VS โคโลญจน์ 1-2 : บุนเดสลีกา เยอรมนี 2020-21

 

ดอร์ทมุนด์ VS โคโลญจน์ 1-2 : บุนเดสลีกา เยอรมนี 2020-21



ผลฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี 2020/21 นัดที่ 9 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูง เปิดสนามซิกนัล อิดูนา พาร์ก รับการมาเยือนของ แอฟเซ โคโลญจน์ ทีมรองบ๊วยของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-2-3-1 เออร์ลิง ฮาลันด์ ค้ำหน้าเป้า จาดอน ซานโช, มาร์โก รอยส์ และ ยูเลียน บรันต์ สนับสนุนเกมรุก ด้านทีมเยือนมาในระบบ 3-4-3 เอลเลียส สกิรี คุมแดนกลาง ซาลิห์ โอซคาน, ออนเดรจ์ ดูดา และ แยน ธีลมันน์ เป็นสามประสานล่าตาข่าย

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพแพะบ้าทำเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกมาเฉือนชนะไป 2-1 ได้ประตูจาก เอลเลียส สกิรี เหมาสองลูกนาทีที่ 9 และ 61 ส่วนขุนพลเสือเหลืองได้จากตัวสำรอง ธอร์กก็อง อาซาร์ นาทีที่ 74

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ แอฟเซ โคโลญจน์ มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน ด้าน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มี 18 คะแนนเท่าเดิม

สตุ๊ตการ์ต พบ บาเยิร์น มิวนิค 1-3: บุนเดสลีกา เยอรมนี 2020-21

 สตุ๊ตการ์ต พบ บาเยิร์น มิวนิค 1-3: บุนเดสลีกา เยอรมนี 2020-21


ผลบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี 2020/21 นัดที่ 9 เฟาแอฟเบ สตุ๊ตการ์ต อันดับ 8 ของตาราง เปิดสนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ อารีน่า รับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค ทีมจ่าฝูง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 3-4-2-1 ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, กอนซาโล คาสโตร และ ต็องกีย์ คูลิบาลี เป็นสามประสานในแนวรุก ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-2-3-1 คิงส์เลย์ โกม็อง กับ แซร์จ กนาบรี ทำเกมริมเส้น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ค้ำหน้าเป้า

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพเสือใต้ฟอร์มยังแรงบุกมาเอาชนะไปไม่ยากเย็น 3-1 ได้ประตูจาก คิงส์เลย์ โกม็อง นาที 38, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี นาที 45+1 และตัวสำรอง ดักลาส คอสตา นาที 88 ส่วนขุนพลม้าขาวขึ้นนำก่อนจาก ต็องกีย์ คูลิบาลี ในนาทีที่ 20

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค มีเพิ่มเป็น 22 คะแนน รั้งจ่าฝูงต่อไป ด้าน เฟาแอฟเบ สตุ๊ตการ์ต มี 11 คะแนนเท่าเดิม

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1178024/

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

คล็อปป์ เชื่อมีถึง 8 ทีมที่ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2020/21

 


ข่าวกีฬา เยอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล เชื่อว่าพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มีถึง 8 สโมสรที่ได้ลุ้นคว้าแชมป์

"ผมขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องแชมป์ ดูเหมือนมันคงไม่มีใครสามารถทำ 100 แต้มหรือราวๆนั้นได้ในฤดูกาลนี้"

"ฤดูกาลที่สั้นลง 4 สัปดาห์ แข่งจำนวนนัดเท่าเดิม ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ แม้แต่ 87 แต้มยังดูห่างไกลเลย บอกตามตรงถ้าเราเป็นแชมป์ฤดูกาลนี้ มันคงเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ บางทีอาจยิ่งใหญ่กว่าฤดูกาลที่แล้วด้วยซ้ำ"

"นั่นเป็นสิ่งที่ผมชอบสำหรับพรีเมียร์ลีก มันมีผู้ท้าชิงหลายทีม ปีนี้มีลุ้นกัน 8 ทีมได้เลยมั้ง"

"เราออกสตาร์ทได้ไม่เลว มีเกมที่แพ้วิลล่า 2-7 ที่เลวร้าย บางทีเราอาจต้องการเกมแบบนั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากมัน เรามีเกมเจอเลสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์นี้ เดี๋ยวมาดูกัน"

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1177920/

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เชือด เอฟซี โซล 2-1

 


ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี ที่สนามจัสซิม บิน ฮาหมัด สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์ เป็นการพบกันระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ เอฟซี โซล จากเคลีก เกาหลีใต้

เกมนี้สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ส่งนักเตะอย่าง ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ บิลล์ โรซิมาร์ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง ส่วน เอฟซี โซล มีนักเตะอย่าง ออสมาร์, ฮาน ซัง กิว, คิม จิน ซอง และ พาร์ค ชู ยอง นำทัพ

ครึ่งแรกรูปเกมยังดูอึดอัดเนื่องจากทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวัง บอลส่วนใหญ่อยู่แดนกลางของสนาม กระทั่งนาทีที่ 40 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา เปิดบอลเข้าหน้าประตูให้ บิลล์ โรซิมาร์ โฉบเข้ามายิงเข้าไป ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาในครึ่งหลัง นาทีที่ 52 เอฟซี โซล มาได้จุดโทษ แต่ พาร์ค ชู ยอง ยิงไปติดเซฟของ อภิรักษ์ วรวงษ์ ก่อนนาทีที่ 59 เอฟซี โซล ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมที่ พาร์ค ชู ยอง แก้ตัวด้วยการขึ้นโหม่งเข้าไป

จากนั้นช่วงท้ายเกม นาทีที่ 89 บิลล์ โรซิมาร์ หลุดเข้ายิงแบบเหนือชั้นให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กลับมานำ และเป็นประตูชัย ผลบอล 2-1 เก็บ 3 คะแนนแรกในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ หลัง 3 นัดก่อนหน้านี้แพ้รวด

ที่มา: สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ เอฟซี โซล

ปัจจุบันของ เดฮาร์ สาวที่เคยมีคดีกับ "2 แข้งดังตราไก่" (ภาพ)

 


ข่าวกีฬา พาไปชมปัจจุบันของ ซาเฮีย เดฮาร์ นางแบบสาวชื่อดังที่อดีตเคยออกมายอมรับว่ามีอาชีพขายบริการ และเคยมีลูกค้าเป็น 2 แข้งดังชาวฝรั่งเศสอย่าง ฟรองค์ ริเบรี กับ คาริม เบนเซมา ตั้งแต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะจนกลายเป็นข่าวฉาวทั่วโลกมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน

ถ้าหากย้อนรายละเอียดเรื่องดังกล่าวต้องย้อนไปเมื่อช่วงต้นปี 2014 ซาเฮีย เดฮาร์ ในวัย 21 ปี ณ ตอนนั้น มีคดีกับสองนักฟุตบอลดังในข้อหาซื้อประเวณีเด็ก โดยอัยการระบุว่า ริเบรีและเบนเซมาซื้อบริการทางเพศเดฮาร์ ตั้งแต่เธออายุ 16 ปี ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 3 ปี

เนื่องจากอาชีพโสเภณีในประเทศฝรั่งเศสนั้นถือเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย แต่ผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ได้ต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ดังนั้น การที่ริเบรีและเบนเซมาซื้อบริการเดฮาร์ในตอนนั้นจึงถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

แต่ทางเดฮาร์เองได้ให้การในชั้นศาลว่า เธอไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นเหยื่อและไม่เคยคิดเช่นนั้น ด้านฝั่งทนายของริเบรีก็รับลูกว่าตอนนั้นทั้งสองแข้งดังก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดฮาร์อายุเท่าไร

สุดท้ายเรื่องราวจบลงด้วยการที่ทั้งริเบรี, เบนเซมา และเดฮาร์ ไม่รู้ไปคุยกันนอกรอบท่าไหน เดฮาร์ตัดสินใจถอนฟ้องในฐานะโจทก์ ส่งผลให้คดีนี้สิ้นสุดไป

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1177952/

ไม่ขาย แมนยู เตรียมใช้ออปชั่นจับ ป็อกบา ลากสัญญาใหม่

 ไม่ขาย แมนยู เตรียมใช้ออปชั่นจับ ป็อกบา ลากสัญญาใหม่





ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020 มีแผนการต่อสัญญาฉบับใหม่ของ ปอล ป็อกบา ซูเปอร์สตาร์ของทีม ตามการรายงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน เหยี่ยวข่าวคนดังแห่งวงการลูกหนัง

ถึงแม้ว่า ป็อกบา จะไม่สามารถโชว์ฟอร์มน่าประทับใจมากนักภายใต้สีเสื้อปีศาจแดง แถมตอนนี้ยังตกเป็นตัวสำรองภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา เสียเป็นส่วนใหญ่ นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ แต่เมื่อรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าตัวมักโชว์ฟอร์มน่าประทับใจเสมอ

สถานการณ์ปัจจุบัน แข้งวัย 27 ปียังไม่ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จากเหลืออีกเพียง 12 เดือนหรือจนจบฤดูกาลนี้เท่านั้น แต่โรมาโนรายงานว่าผีแดงมีแนวโน้มเตรียมใช้ออปชั่นขยายสัญญาของเขาออกไปอีก 1 ปี

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

แฟนบอลเกือบแสนร่วมไว้อาลัยร่าง มาราโดน่า ครั้งสุดท้าย (ภาพ)

 


มีเหตุเกิดจลาจลย่อมๆ ในประเทศอาร์เจนตินา เมื่อแฟนบอลจำนวนเกือบ 1 แสนคน จากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมไว้อาลัยร่างไร้วิญญาณของ ดิเอโก้ มาราโดน่า แข้งระดับตำนานของชาติที่เสียชีวิตลงแล้วด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เมื่อช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดยจากการที่ อัลเบร์โต้ เฟร์นานเดซ ประธานาธิบดีของอาร์เจนตินา ได้มีคำสั่งให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน รวมถึงให้มีการนำโลงศพของแข้งดังมาตั้งไว้ที่ทำเนียบประธานาธิบดี คาซ่า โรซาด้า ก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าอำลานักเตะขวัญใจเป็นครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ซึ่งด้วยความที่มีแฟนบอลจำนวนมากเดินทางมารวมตัวกัน ทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายพยายามที่จะทำลายแผงกั้นเพื่อแย่งกันเข้าไปอำลานักเตะหมายเลข 10 ตลอดกาลของพวกเขา จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมฝูงชน ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง

หลังจบพิธีการอำลาที่ให้แฟนๆ สามารถเข้าไปวางดอกไม้ รวมถึงโยนเสื้อฟุตบอลไปที่บริเวณโลงศพ เจ้าหน้าที่ก็ได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนเคลื่อนย้ายไปฝังที่สุสาน จาร์ดิน เดอ ปาซ ชานเมือง บัวโนส ไอเรส

สำหรับ ดีเอโก้ มาราโดน่า ถือเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของทีมชาติอาร์เจนติน่า สามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 แต่ต้องจากโลกนี้ไปด้วยภาวะหัวใจวายในบ้านพัก ซึ่งแพทย์พยายามปั้มหัวใจช่วยแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้

ชิรูด์ พร้อมช่วย เชลซี ทุกเมื่อแม้ต้องนั่งสำรองตลอด

 



ข่าวกีฬา โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าจอมเก๋าของ เชลซี ยืนยันว่าเขาจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเมื่อได้รับโอกาสในการลงสนาม หลังจากที่เป็นคนทำประตูชัยในเกมล่าสุดให้กับสโมสร ตามรายงานจาก อาร์เอ็มซี สปอร์ต

ดาวยิงชาวฝรั่งเศสถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในครึ่งหลังและทำประตูชัยให้ สิงห์บลู เอาชนะ แรนส์ ไปได้ ผลบอล 2-1 พาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นทีมแรกของอังกฤษ

เราต้องรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เราเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ แม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นก็ตาม - ชิรูด์ กล่าวลังจบเกม

เห็นได้ชัดว่าสำหรับการเป็นนักเตะในแนวรุกเมื่อโค้ชส่งคุณลงสนาม คุณก็ต้องทำอะไรซักอย่าง

ซึ่งตอนนี้ผมให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผมจะต้องทำ เมื่อถูกเรียกให้ลงสนาม ผมก็ต้องหน้าที่ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

ข่าวโดย: https://www.sanook.com/sport/1177841/

บราก้า VS เลสเตอร์ 3-3 ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2020-21

 บราก้า VS เลสเตอร์ 3-3 ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2020-21




ผลบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 กลุ่ม G เลสเตอร์ ซิตี้ บุกเยือน เอสตาดิโอ มูนิซิปาล เดอ บราก้า ของทีม เอสซี บราก้า โดยก่อนลงสนามเลสเตอร์ เป็น จ่าฝูงของกลุ่มมี 9 คะแนนเต็มจากสามนัด ขณะที่เจ้าบ้าน บราก้า มี 6 คะแนนจาก 3 นัดเป็นรองจ่าฝูง

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ส่งคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,มาร์ค อัลไบรท์ตัน,เจมส์ จัสติน,จอนนี่ อีแวนส์,คริสเตียน ฟุคส์,ลุค โธมัส,ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้,เดนนิสปราท,ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์,เซนกิซ อุนแดร์,เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงเป็น 11 ตัวจริง

เกมเริ่มมาแค่ 5 นาที เจ้าบ้านบราก้าได้ประตูออกนำไปก่อน เมื่อแนวรับเลสเตอร์ เคลียร์บอลไม่ดีจากจังหวะยิงของ ลูริ เมเดรอส แล้วบอลกระฉอกมาเข้าทาง จากจังหวะยิงไกลของ อัล มัสราติ ที่ยิงเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม บราก้า ออกนำแล้ว 1-0

เช็คผลบอล ทุกคู่ ทุกแมทซ์ ได้เลยที่ Program Football

จากนั้นแค่ 4 นาที เลสเตอร์ ก็มาได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่เก็บบอลได้บริเวณกรอบเขตโทษแล้วจ่ายต่อออกด้านซ้าย ให้ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เติมเข้ามายิงผ่านมือ มัทเธอุส ผู้รักษาประตูของบราก้า หมดสิทธิ์ป้องกัน เลสเตอร์ ตีเสมออย่างรวดเร็ว 1-1

บราก้ามาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า หลุดแนวรับเลสเตอร์แล้วตวัดจากเส้นหลังกลับมาให้ เปาลินโญ่ ยิงเข้าไปง่าย ๆ เจ้าบ้านขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

ครึ่งหลังน.79 เลสเตอร์ ซิตี้ มาตีเสมอได้ จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน พาบอลหนีผู้เล่นบราก้า ไปถึงเส้นหลัง แล้วตบเข้ากลางให้ ลุค โธมัส เข้าชาร์จหน้าประตู “จิ้งจอกสยาม” ตีเสมอ 2-2 เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2

แต่แล้วนาทีที่ 90+1 เจ้าบ้านก็ได้จังหวะโต้กลับ กาเลโน่ กองหน้าตัวเก่งของบราก้า พาบอลลุยเข้าเขตโทษแล้วไหลออกด้านข้างให้ ฟรานแซร์จิโอ ตัวสำรองวิ่งสอดเข้ามายิงผ่านมือ ชไมเคิ่ล เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 3-2

แต่ทัพ จิ้งจอกสยาม ก็ตายยากช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 มาร์ค อัลไบรท์ตัน ก็ได้ทะลุขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวาแล้วเปิดลึกมาเสาสอง เจมี่ วาร์ดี้ รอสังหารไม่พลาด จบเกมเสมอกัน 3-3

หลังจบเกมนัดนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ มี 10 คะแนนจาก 4 นัด ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปของศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก แน่นอนแล้ว

โมลด์ 0-3 อาร์เซนอล ฉลุยเข้ารอบน็อคเอาท์ ยูโรปา ลีก

 

  • ผลฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2020/21
  • วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2020
  • โมลด์ 0-3 อาร์เซนอล
  • สนาม : เอเคอร์ สตาดิโอน

อาร์เซน่อล กรุย ทางสู่รอบน็อคเอาท์ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก เป็นที่แน่นอนแล้วเมื่อบุกเอาชนะ โมลด์ 3-0 คาถิ่น เอเคอร์ สตาดิโอน ใน นอร์เวย์ จากประตูของ นิโกลาส์ เปเป้, รีสส์ เนลสัน และ โฟลา บาโลกัน เก็บ 12 คะแนนเต็มหลังผ่านการแข่งขัน 4 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม

ประตูเบิกร่องของ เดอะกันเนอร์ส เกิดขึ้นในนาทีที่ 50 เมื่อ โจ วิลล็อค เปิดลูกเตะมุมที่ฝั่งซ้ายบอลเลยไปถึงเสาสองโดย เปเป้ เก็บตกได้จากการเคลียร์ไม่ขาดของกองหลังเจ้าถิ่นก่อนตั้งป้อมตะบันเต็มข้อด้วยซ้ายในระยะเผาขน หมดสิทธิ์ที่ อันเดรียส ลินเด นายทวาร โมลด์ จะป้องกัน



ที่มา: ผลบอล ยูโรปา ลีก 2020-21 : โมลด์ 0-3 อาร์เซนอล

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ดีเอโก้ มาราโดนา : สกู๊ปพิเศษ แด่นักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

 


ศาสดา จอมขี้โกง ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ร้าย ผู้เป็นที่รัก ผู้น่ารังเกียจ วีรบุรุษ วายร้าย

สิ่งเหล่านี้คือสถานะตวามรู้สึกขั้นสุดของบรรดาแฟนบอลที่มีต่อ "ดีเอโก้ อาร์มานโด มาราโดนา" ขั้นสุด จนถึงขนาดที่ชื่อของเขาซึ่งแม้เป็นที่จงเกลียดจงชังของสาวกลูกหนังที่ถูกปล้นชัยชนะไปซึ่งๆ หน้ายังคารวะกับความมหัศจรรย์ของเจ้าตัวบนผืนหญ้า

รวมไปถึงขั้นสุดในด้านศีลธรรมของนักกีฬาฟุตบอลที่เขาเผชิญทั้งในและนอกสนาม


ขั้นสูงสุดถึงต่ำสุดของชีวิตชายจากชนชั้นแรงงานชาว อาร์เจนไตน์ ทะยานเจิดจ้าท่ามกลางสปอตไลท์อย่างรวดเร็วโดยมีความควาดหวังของผู้คนทั้งโลกแบกไว้บนบ่าในวัยฉกรรจ์ ความหวังของคนทั้งชาติที่จะพา อาร์เจนตินา คว้าความยิ่งใหญ่ให้ได้

สถานะฮีโร่อันเป็นที่รักยิ่ง - นักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

สถานะวายร้ายจอมขี้โกง - ตัวแสบแห่งวงการที่อาศัยความแกมโกงอันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ทุกอย่างไปครอบครอง


ทั้งหลายทั้งปวง มาราโดนา มีความเป็นไปที่ซับซ้อน เขาเป็นศิลปินลูกหนังผู้มีลีลาฟ้าประทานและเป็นจอมวายร้ายตัวเอ้ในคนๆ เดียว ความเป็น ดีเอโก้ มาราโดนา ทั้งหมดถูกแสดงออกมาในช่วงเวลาเพียง 5 นาทีของวันที่ 22 มิถุนายน 1986 ในศึก ฟุตบอลโลก รอบควอเตอร์ไฟนอลระหว่าง อังกฤษ กับ อาร์เจนตินา

ใช่ การแข่งขันในตำนานแมตช์นั้น

ช่วงเวลาระหว่างนาทีที่ 50-55 มาราโดนา ทำ 2 ประตูที่ตราตรึงที่สุดในหน้าประวัติศาตร์ฟุตบอล ประตูหนึ่งทำให้เขาเป็นวีรบุรุษและอีกประตูกับสถานะวายร้าย

อ่านต่อได้ที่ https://www.sanook.com/sport/1177769/

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ราพิโน จวกปีศาจแดงน่าละอายที่เพิ่งเห็นค่าทีมหญิง

 

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1176383/

เมแกน ราพิโน ยอดแข้งหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา ออกโรงวิจารณ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กรณีที่เพิ่งริเริ่มก่อตั้งทีมฟุตบอลหญิงมาได้เพียง 2 ปี ซึ่งช้ากว่าสโมสรอื่นๆอยู่พอสมควร ทั้งที่ตัวเองเป็นถึงมหาอำนาจในวงการลูกหนัง

"ทีมฟุตบอลหญิงในอังกฤษก็ไม่ต่างจากที่อเมริกาเลย เราตามหลังอยู่พอควร เพราะขาดการลงทุน" ราพิโน บอกกับ บีบีซี

"นี่มันปี 2020 แล้วนะ ขอถามหน่อยว่าพรีเมียร์ลีกมีมากี่ปีแล้ว? แต่พวกเขากลับเพิ่งได้เห็นทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทุนก่อตั้งทีมหญิง เอาตรงๆเลยนะ ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องที่น่าละอายมาก" เธอกล่าวต่อ

ปัจจุบันทีมหญิงของปีศาจแดงกำลังนำเป็นจ่าฝูง หลังเพิ่งเอาชนะอาร์เซนอลมาได้ พร้อมกับเป็นการยัดเยียดความปราชัยให้กับปืนใหญ่เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

อาร์เจนติน่า VS ปารากวัย 1-1 ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก (คลิป)

 



ผลบอล อาร์เจนติน่า VS ปารากวัย 1-1 ฟุตบอลโล 2022ก รอบคัดเลือก

ผลบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ที่สนาม เอสตาดิโอ อัลเบร์โต้ โฮเซ่ อาร์มันโด้ ระหว่าง อาร์เจนตินา รับการมาเยือนของ ปารากวัย

เกมนี้อาร์เจนตินา ส่ง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, ลูกัส โอกัมปอส, ลิโอเนล เมสซี่ ลงสนามเป็นตัวรุกในเกมวันนี้

ส่วนปารากวัย นำทัพมาโดย ดารีโอ เลซกาโน่, มิเกล อัลมิรอน, อังเคล โรเมโร่ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง

เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งแรก ผ่านมาถึงนาทีที่ 21 ปารากวัย มาได้จุดโทษจาก มิเกล อัลมิรอน โดนนักเตะอาร์เจนตินาทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนเป็นอังเคล โรเมโร่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ ทีมเยือนออกนำไปก่อน 1-0

จากนั้นนาทีที่ 41 อาร์เจนติน่า มาตามตีเสมอ 1-1 จากนิโกลัส กอนซาเลซโหม่งลูกเตะมุมเข้าไป ก่อนจบครึ่งแรก อาร์เจนตินา เสมอกับ ปารากวัย 1-1

กลับมาในครึ่งหลัง นาทีที่ 57 ลิโอเนล เมสซี่ ซัดเข้าไปตุงตาข่ายทว่าผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ แล้วปฏิเสธลูกดังกล่าวเนื่องจากมีการฟาวล์กันก่อนหน้านี้ บริเวณกลางสนาม จบเกมทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ เสมอกัน 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน

ส่งผลให้ อาร์เจนติน่า แข่ง 3 นัด มี 7 คะแนน ส่วนทางด้าน ปารากวัย แข่ง 3 นัด มี 5 คะแน


ที่มา : https://www.sanook.com/sport/1176374/

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

บุรีรัมย์ VS ระยอง เอฟซี 5-1 ศึกไทยลีก นัดตกค้าง (คลิป)

 

การแข่งขัน ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดตกค้าง เมื่อวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ที่ ช้างอารีนา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ม้านิลมังกร” ระยอง เอฟซี

เริ่มเกมครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มาในชุดสีกรมท่าล้วน เขี่ยบอลเล่นก่อนบุกจากขวาไปซ้าย ส่วน ระยอง เอฟซี ที่มาในชุดสีแดงล้วน บุกจากซ้ายมาขวาของสนาม

นาทีที่ 7 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุมทางขวา รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลโค้งมาที่เสาแรก อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ได้โหม่งบอลพุ่งตรงกรอบประตู กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ยืนอยู่ถูกที่รับบอลเข้าซองไว้ได้

นาทีที่ 9 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ตั้งเกมบุกขึ้นมาทางซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน ไหลบอลให้ จักรพันธ์ แก้วพรม เปิดบอลย้อยเข้าไปในเขตโทษ มาร์โก เซโปวิช โหม่งสบัดบอลเข้าประตูไปที่เสาไกล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ ระยอง เอฟซี 1-0

นาทีที่ 14 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย กีดี คานยุค เปิดบอลยาวไปที่เสาสอง พรรษา เหมวิบูลย์ โหม่งบอลกดลงพื้นมาเข้าทาง เรนาโต เคลิช ได้โหม่งไปติดกองหลัง ก่อนที่บอลจะเด้งมาเข้าทาง เรนาโต เคลิช ยิงฮาร์ฟวอลเลย์บอลพุ่งไปตรงตัว กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ทว่าบอลแรงเลยแฉลบเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนี ผู้มาเยือนเป็น 2-0

นาทีที่ 31 ระยอง เอฟซี ได้ตั้งเกมบุกบ้างก่อนที่บอลจะมาถึง อาดัลกิโซ โรช่า เนโต ได้แต่งบอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงบอลเร็ว บอลพุ่งแรงไปชนเสาเด้งเข้าประตูไป  ม้านิลมังกร ไล่มาเป็น 1-2

จากนั้น ปราสาทสายฟ้า เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกใส่ได้ดีกว่า แต่เมื่อบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายยังไม่สามารถเจาะแนวรับผู้มาเยือนเข้าไปยิงประตูเพิ่มได้ ทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ ระยอง เอฟซี อยู่ที่สกอร์ 2-1

กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 47 ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกทางซ้าย วรุตน์ สัพโส เปิดบอลโค้งแรงพุ่งผ่านเสาออกหลังไป

นาทีที่ 50 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เตะมุมทางซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ พรรษา เหมวิบูลย์ ได้กระโดดขึ้นโหม่ง ทว่าบอลเบาไปหน่อย กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รับบอลไว้ได้สบาย

นาทีที่ 52 สุภโชค สารชาติ ได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากจี้เข้าไปในเขตโทษ พยายามจะจ่ายเข้ามากลางประตูให้เพื่อน ทว่าผู้เล่นทีมเยือนล้มตัวเตะสกัดบอลออกหลังไปได้ฉิวเฉียด

 นาทีที่ 55 ทีมยือนต้องมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ สุวัฒน์ จันทร์บุญภา ที่มีใบเหลืองติดตัวมาตั้งแต่ครึ่งแรก มาเสียเหลี่ยมดึง สุภโชค สารชาติ ล้มลงก่อนที่จะพาบอลเข้าเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นฟรีคิกของเจ้าถิ่น พร้อมชูใบเหลืองที่ 2 ให้ สุวัฒน์ จันทร์บุญภา กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป  

นาทีที่ 66 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลโค้งไปกลางประตู ศุภชัย ใจเด็ด ทะยานขึ้นโหม่งคนเดียวเหน่งๆ บอลหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  3-1  ระยอง เอฟซี

นาทีที่ 74 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต่อบอลในแดนของคู่ต่อสู้สุดสวย ก่อนที่จะเป็น จักรพันธ์ แก้วพรม จ่ายบอลหักข้อให้ สุภโชค สารชาติ ใช้ความเร็วแตะบอลผ่าน กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล นายด่านม้านิลมังกร แล้วยิงบอลกลิ้งหายเข้าประตูไป ปราสาทสายฟ้า หนีห่างเป็น 4-1

นาทีที่ 79 สุภโชค สารชาติ ได้บอลตรงกลางสนามก่อนจะลากขึ้นหน้าจ่ายทะลุช่องให้ จักรพันธ์ แก้วพรม หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่ จักรพันธ์ แก้วพรม จะจ่ายบอลหักกลับมาหลังให้ เควิน อินเกรโซ ยิงบอลหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีไปไกลเป็น 5-1

จากนั้นเข้าสู้ช่วงท้ายเกม ปราสาทสายฟ้า ที่มีผู้เล่นมากกว่า ก็ยังคงโหมบุกอย่างหนักหวังที่จะเอาประตูเพิ่ม แต่ก็เจาะเข้าไปยิงเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 90 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ระยอง เอฟซี ไปได้ 5-1 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า คว้า 3 คะแนนไปครอง พร้อมขยับไปมี 14 คะแนน จากการลงสนาม 11 นัด


รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด :

  1. ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู)
  2. พรรษา เหมวิบูลย์
  3. เรนาโต เคลิช
  4. อภิวัฒน์ งั่วลำหิน (เควิน อินเกรโซ น.58)
  5. ศศลักษณ์ ไหประโคน
  6. นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (C)
  7. รัตนากร ใหม่คามิ
  8. จักรพันธ์ แก้วพรม
  9. สุภโชค สารชาติ
  10. กีดี คานยุค (อัคบาร์ อิสมาตุลเลฟ น.70)
  11. มาร์โก เซโปวิช (ศุภชัย ใจเด็ด น.46)


ระยอง เอฟซี :

  1. กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ผู้รักษาประตู)
  2. วัชรินทร์ เนื่องพระแก้ว
  3. ปาร์ค แต ฮย็อง
  4. วสุศิวกิจ ภูสีฤทธิ์ (เจตน์จิณณ์ ศรีปราชญ์ น.87)
  5. กีรติ แก้วหนองแดง
  6. สุวัฒน์ จันทร์บุญภา
  7. วรุตน์ สัพโส (ฮัน ชางวู น.60)
  8. อนุชิต เงินบุคคล (C)
  9. เทพพิทักษ์ พูลจวง (เมธี สาระคำ น.77)
  10. ดานิโล เซซาริโอ
  11. อาดัลกิโซ โรช่า เนโต

ยูเวนตุส เร่ขาย โรนัลโด้ ลดภาระค่าเหนื่อยของทีม

 

สปอร์ต สื่อจากแดนสเปน ระบุว่า ยูเวนตุส กำลังหาลู่ทางในการขาย คริสเตียโน โรนัลโด้ ออกจากทีมหลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้

ปัจจุบันดาวยิงชาวโปรตุเกสวัย 35 ปี รับค่าเหนื่อยจากต้นสังกัดสูงถึง 540,000 ปอนด์ (ราว 21.7 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงเกือบเป็นสี่เท่าของที่ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ปราการหลังดาวรุ่งชาวดัตช์ได้รับค่าเหนื่อยสูงเป็นอันดับ 2 ของทีมอยู่

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1175738/

สัญญาฉบับปัจจุบันของโรนัลโด้ กำลังจะหมดลงในปี 2022 ทำให้บอร์ดบริหารของทัพเบียงโคเนรีต้องรีบหาผู้ซื้อให้ได้โดยเร็วก่อนที่จะต้องเสียเขาไปแบบฟรีๆ

โดยรายงานยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่าเงื่อนไขในการขยายสัญญาของเจ้าตัว จะทำให้สโมสรต้องเสียเงินก้อนไปอีกจำนวนมโหฬาร

ยูเวนตุสยอมทุ่มเงินถึง 99 ล้านปอนด์คว้าตัวซูเปอร์สตาร์รายนี้มาจากเรอัล มาดริด เพราะพวกเขาหวังว่านี่จะเป็นการเติมเต็มจิกซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้พวกเขาจะสามารถคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ไปไกลได้ที่สุดแค่เพียงรอบรองชนะเลิศ และรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ผลบอล โตโยต้า ไทยลีก : สุโขทัย VS เชียงราย 2-0

 ผลบอล โตโยต้า ไทยลีก : สุโขทัย VS เชียงราย 2-0




การแข่งขัน ฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 12 คู่ระหว่าง สุโขทัย เอฟซี เปิดบ้านพบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนาม ทะเลหลวง สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2563

เปิดเกมมาทั้งสองทีมสู้กันในแดนกลาง ก่อนที่ในนาทีที่ 33 ทีมเยือนได้ลุ้น เมื่อ เอกนิษฐ์ ปัญญา ลากบอลขึ้นมาทาง ขวาตัดเข้าเขตโทษ บอลทะลักมาถึง ชาช่า โคเอลโญ่ ได้ตั้งป้อมยิง แต่บอลข้ามคานออกไป

นาทีที่ 39 เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้าง เมื่อ จอห์น บาจโจ้ ได้บอลทางขวา แล้วล็อกหลบกองหลังทีมเยือนเข้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้าย แต่บอลข้ามคานออกไป

นาทีที่ 40 เจ้าถิ่นขึ้นน 1-0 จากจังหวะที่ อิบสัน เมโล่ ทำชิ่งกับ จอห์น บาจโจ้ แล้วเมโล่ หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจ่ายเข้าในเขตโทษ ให้บาจโจ้ ยิงเข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรก เจ้าถิ่น สุโขทัย ออกนำ 1-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 64 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล  ได้พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ บิล โรซิมาร์ ได้เอี้ยวตัววอลเลย์ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 76 จอห์น บาจโจ้ จ่ายให้ เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร หลุดขึ้นมาทางซ้ายถึงเส้นหลัง ก่อนจ่ายกลับมาให้ อิบสัน เมโล่ เติมขึ้นมายิง แต่บอลหลุดเสาแรกออกไป

นาทีที่ 79 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง จากการประสานงานของคู่หูต่างชาติ จอห์น บาจโจ้ แทงทะลุช่องให้ อิบสัน เมโล่ หลุดเข้าไปยิง แต่ยังติดเซฟ สรานนท์ อนุอินทร์ นายด่านทีมเยือน

นาทีที่ 83 ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้ จากจังหวะที่ ศนุกรานต์ ถิ่นจอม พาบอลขึ้นมาทางซ้าย แล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ บอลเลยมาถึง โชติภัทร พุ่มแก้ว ได้ยิง แต่บอลข้ามคานไปนิดเดียว

นาทีที่ 85 โอกาสลุ้นอีกครั้งของทีมเยือน เมื่อ โชติภัทร พุ่มแก้ว พาบอลมาทางขวา ก่อนเปิดไปถึง ศนุกรานต์ ถิ่นจอม ได้ยิงเน้นๆ แต่บอลไปชนคานอย่างจัง

นาทีที่ 87 เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0 เมื่อ จอห์น บาจโจ้ ตักบอลให้ อิบสัน เมโล่ หลุดเข้าเขตโทษ แล้วแตะหลบ สรานนท์ อนุอินทร์ นายด่านทีมเยือน ก่อนสปีดหนี บรินเนอร์ เฮนริเก้ เข้าไปยิงตุงตาข่าย

จากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม สุโขทัย เอฟซี เปิดบ้านเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 เก็บสามแต้มทะยานขึ้นที่ 5 ของตารางได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

สุโขทัย เอฟซี
  1. พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (GK)
  2. นุกูลกิจ ครุฑใหญ่
  3. ซอ มินตุน
  4. เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร
  5. ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด
  6. ศิลา ศรีกำปัง
  7. ณัฐวุธ เจริญบุตร (กานต์พิชชา ชะนะการี น.90)
  8. จุง เมียงโฮ
  9. เดชา สอาดโฉม
  10. อิบสัน เมโล่ (ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล น.89)
  11. จอห์น บาจโจ้

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
  1. สรานนท์ อนุอินทร์ (GK)
  2. ธนศักดิ์ ศรีใส
  3. บรินเนอร์ เฮนริเก้
  4. ชินภัทร ลีเอาะ
  5. อี ยองแร
  6. โชติภัทร พุ่มแก้ว (ศราวุธ อินทร์แป้น น.90)
  7. พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล
  8. ศนุกรานต์ ถิ่นจอม
  9. เอกนิษฐ์ ปัญญา (สมคิด ชำนาญศิลป์ น.72)
  10. บิล โรซิมาร์
  11. ชาช่า โคเอลโญ่ (อัครวินท์ สวัสดี น.60 )

สื่อดังแฉ บรูโน เคือง กรีนวูด ซ้อมเฉื่อยจนหลุดทัพผีเกมล่าสุด

สื่อดังแฉ บรูโน เคือง กรีนวูด ซ้อมเฉื่อยจนหลุดทัพ แมนยู เกมล่าสุด




เดอะ ไทม์ส สื่อดังของประเทศอังกฤษรายงานว่า แคมป์ผีแดงมีเหตุขัดแย้งภายในกันเล็กน้อย โดยมีชื่อของ บรูโน แฟร์นันเดส กับ เมสัน กรีนวูด เป็นคู่กรณี

ตามรายงานระบุว่า ทัพแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับจากตุรกีหลังจากบุกไปพ่ายอิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ 1-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และได้ซ้อมที่แคร์ริงตันแค่วันเดียวก่อนบุกไปเยือนเอฟเวอร์ตันในวันเสาร์และคว้าสามแต้มด้วยชัยชนะ 3-1

ซึ่งก่อนหน้าเกมบุกไปอัดท็อฟฟี่นั้น โอเล กุนนาร์ โซลชา แจ้งกับนักข่าวว่า กรีนวูด วัย 19 ปี มีอาการไม่สบายนิดหน่อย แต่จากแหล่งข่าววงในนั้นบอกว่าหัวหอกดาวรุ่งไม่มีอาการเจ็บป่วยอย่างใดในสนามซ้อม

ล่าสุด เดอะ ไทม์ส แจ้งว่า ในสนามซ้อมนั้น บรูโน แฟร์นันเดส จอมทัพตัวเก่งทีมชาติโปรตุเกสแสดงอาการไม่พอใจ เมสัน กรีนวูด อย่างชัดเจนในเรื่องของความกระตือรือร้น ดูเฉื่อยชาในจังหวะวิ่งจนไม่สามารถรับบอลจากเจ้าตัวได้

อย่างไรก็ดี ทางสโมสรยืนยันว่า ทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหาใดๆนอกเหนือจากนั้น แต่ตัวกรีนวูดก็ไม่มีชื่อและไม่ได้เดินทางไปกับทีมผีแดงชุดเยือนกูดิสัน พาร์ก อยู่ดี

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวแมนยู

ลิเวอร์พูล งานเข้า เทรนต์ พัก 4 สัปดาห์ พลาด 5 เกมสำคัญ

 


ข่าวลิเวอร์พูล : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล จะพลาดช่วยต้นสังกัดราว 4 สัปดาห์ หลังบาดเจ็บในเกมบุกไปเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ล่าสุด พอล จอยซ์ นักข่าวคนดังเปิดเผยว่า เทรนต์ต้องพักราว 4 สัปดาห์ ทำให้เจ้าตัวจะพลาดโปรแกรมสำคัญทั้งทีมชาติและสโมสร โดยเขาจะหมดสิทธิ์เล่นในเกมพบ เลสเตอร์ ซิตี้, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส รวมทั้งเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รับมือ อตาลันต้า กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งทั้ง 2 แมตช์จะแข่งในแอนฟิลด์

ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษวัย 22 ปี ต้องออกสนามหลังจากผ่านไปเพียงแค่ 60 นาทีในเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม  โดยการเจ็บครั้งนี้ของเทรนต์ ทำให้ เยอร์เกน คล็อปป์ อาจใช้งาน เนโก วิลเลียมส์ แบ็กขวาดาวรุ่งชาวเวลส์ ลงทำหน้าที่แทน รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์ และ ฟาบินโญ่ ที่สามารถลงเล่นในตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1175634/

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ผลบอล : บาเลนเซีย VS เรอัล มาดริด 4-1 - ลาลีกา สเปน

 

การแข่งขัน ฟุตบอล ลาลีกา สเปน คู่ระหว่าง บาเลนเซีย พบกับ เรอัล มาดริด ที่สนาม เอสตาดิโอ เด เมสตาย่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563

เปิดเกมมา 10 นาที ทีมเยือนได้โอกาสทักทายก่อนจาก มาร์โก อาเซนซิโอ ที่ได้กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่บอลหลุดเสาไกลออกหลังไป

นาทีที่ 23 "ราชันชุดขาว" ต่อเกมได้สวย มาร์เซโล่ ไหลคืนให้ คาริม เบนเซม่า สับไกด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ เยาเม่ โดเมเน็ค ตุงตาข่าย เรอัล มาดริด นำ 1-0

นาทีที่ 29 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ โฆเซ่ กาย่า เปิดบอลไปติดแขน ลูกัส บาสเกซ ผู้ตัดสินเป่าทันทีซึ่ง การ์ลอส โซเลร์ สังหารเข้าไปไม่พลาดในครั้งที่สองหลังครั้งแรก VAR สั่งให้ยิงใหม่ทำให้ บาเลนเซีย ตีเสมอ 1-1

ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 มักซี่ โกเมซ เปิดบอลแฉลบก่อนเป็น ราฟาแอล วาราน พยายามสกัดแต่โดนไม่ดีบอลข้ามตัว ติโบลต์ กูร์กตัวส์ เข้าประตูตัวเอง บาเลนเซีย แซงนำ 2-1 พร้อมหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลัง นาทีที่ 52 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษอีกจากจังหวะที่ มักซี่ โกเมซ โดน มาร์เซโล่ ทำฟาวล์ และเป็น การ์ลอส โซเลร์ สังหารเข้าไปไม่พลาด บาเลนเซีย หนีเป็น 3-1

นาทีที่ 60 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส ใช้มือปัดบอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินดู VAR ก่อนชี้ทันที และเป็น การ์ลอส โซเลร์ สังหารเข้าไปไม่พลาด บาเลนเซีย ทิ้ง 4-1 รวมทั้งเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้

จบเกม "ค้างคาว" บาเลนเซีย เปิดบ้านเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 4-1 เก็บสามแต้มขยับมาอยู่ที่ 9 ขณะที่ "ราชันชุดขาว" รั้งอันดับที่ 4 ของตาราง

ที่มา: บาเลนเซีย VS เรอัล มาดริด 4-1


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

บาเลนเซีย (4-2-2)

  1. เยาเม่ โดเมเน็ค
  2. ดาเนี่ยล วาส
  3. กาเบรียล เปาลิสต้า
  4. อูโก้ กียามอน
  5. โฆเซ่ กาย่า
  6. ยูนุส มูซาห์
  7. การ์ลอส โซเลร์
  8. อูรอส ราซิช
  9. เดนิส ชีรีเชฟ
  10. ลี คัง อิน
  11. มักซี่ โกเมซ

เรอัล มาดริด (4-3-3)

  1. ติโบลต์ กูร์กตัวส์
  2. ลูกัส บาสเกซ
  3. เซร์คิโอ รามอส
  4. ราฟาแอล วาราน
  5. มาร์เซโล่
  6. เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้
  7. อิสโก้
  8. ลูก้า โมดริช
  9. มาร์โก อาเซนซิโอ
  10. คาริม เบนเซม่า
  11. วินิซิอุส จูเนียร์

ผลบอลล่าสุด

โซลชา ขอบคุณลูกทีมสู้เต็มสูบรักษาเก้าอี้นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

ข่าวแมนยู : โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเขายังได้รับแรงหนุนจากบรรดาลูกทีมเต็มที่จนสามารถทำให้บุกไปเข่นเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดย โซลชา ก่อนหน้านี้เผชิญกับช่วงวิกฤตเมื่อพาทีมปราชัยมา 2 นัดต่อกันได้หายใจหายคอหลังพาทีมบุกไปเอาชนะ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน คลายสถานการณ์เก้าอี้ร้อนหลังเขากลายเป็นนายใหญ่เต็งหนึ่งบน พรีเมียร์ลีก ที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงฟอร์มฝืด

" ผมไม่สามารถชื่นชมลูกทีมได้มากเพียงพอสำหรับคาแร็คเตอร์ที่พวกเขาแสดงออกมาในเกมนี้ นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก" โซลชา กล่าวหลังจบเกมที่ กูดิสันพาร์ค "ผมชอบทุกอย่างที่ทีมได้แสดงออกมานับตั้งแต่เมื่อวานก่อนเกมแล้ว เราเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาไม่ปล่อยให้คนอื่นมาเล่นไม่แฟร์กับเรา พวกเขาทุกคนสู้สุดใจ สภาพจิตใจของทุกคนยอดเยี่ยมมาก "

" บรูโน่ เฟอร์นันเดส นั้นน่าทึ่งไปเลย เขามีบุคลิกที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับแข้งรายอื่น คุณสามารถสัมผัสถึงความมุ่งมั่นของทีมได้แม้ว่าจะเป็นช่วงท้ายเกมก็ตาม หากเราสามารถรักษาระดับทัศนคติแบบนี้ไว้ได้ในทุกๆ เกมแล้วล่ะก็ผมเชื่อว่าเราจะเป็นทีมที่ยากกับการต่อกร "


ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1175557/

ผลบอล : แมนซิตี้ VS ลิเวอร์พูล 1-1 ดึงหงส์แดงหล่นจ่าฝูง

 ผลบอล : แมนซิตี้ VS ลิเวอร์พูล 1-1 ดึงหงส์แดงหล่นจ่าฝูง






การแข่งขัน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563

เริ่มเกมมาเพียงแค่นาทีแรก ทีมเยือนได้ลุ้นทันที เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางบอลยาวให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้หลุดเดี่ยวแต่ เอแดร์ซอน ออกมาบล็อกไว้ได้ทัน

นาทีที่ 12 "หงส์แดง" มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ไปแหย่ขาสกัด ซาดิโอ มาเน่ ล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะสังหารเข้าไปเด็ดขาด ลิเวอร์พูล นำ 1-0

นาทีที่ 25 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูตีเสมอ เควิน เดอ บรอยน์ ผ่านบอลโค้งไปเสาสองถึง ราฮีม สเตอร์ลิง ได้กดด้วยขวาแต่ติดตัว อลิสซอน ก่อนที่ โฌเอล มาติป จะตามมาเตะทิ้งได้ทัน

นาทีที่ 31 เจ้าถิ่นลุยต่อ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลเข้ากลางให้ กาเบรียล เชซุส พลิกกลับหลังหลบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อย่างเหนือชั้นก่อนจิ้มบอลตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 37 แมนฯ ซิตี้ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดไปโดนแขนของ โจ โกเมซ ผู้ตัดสินดู VAR ก่อนชี้ทันที อย่างไรก็ตาม เควิน เดอ บรอยน์ กลับยิงหลุดเสาออกไป หมดครึ่งยังเสมอกัน 1-1

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล เกือบได้ทันที โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สับไกด้วยซ้ายบอลแฉลบแนวรับทำให้ เอแดร์ซอน ต้องทุบทิ้งก่อนไปเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า จับแล้วยิงแต่บอลเบาไป เอแดร์ซอน ล้มตัวรับไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 55 เจ้าบ้านน่าจะได้เหมือนกัน เฟร์ราน ตอร์เรส บรรจงวางบอลเข้าเขตโทษให้ กาเบรียล เชซุส วิ่งสอดเข้ามาเทกตัวโขกเหน่งๆ แต่บอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 แบ่งกันทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้ "หงส์แดง" หล่นจากจ่าฝูงมาอยู่อันดับที่ 3



รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) :
  1. เอแดร์ซอน โมราเอส
  2. ไคล์ วอล์คเกอร์
  3. รูเบน ดิอาส
  4. อายเมอริก ลาป๊อร์ก
  5. ชูเอา กันเซโล่
  6. เควิน เดอ บรอยน์
  7. โรดรี้
  8. อิลคาย กุนโดกัน
  9. ราฮีม สเตอร์ลิง
  10. กาเบรียล เชซุส
  11. เฟร์ราน ตอร์เรส (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.61)

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : 
  1. อลิสซอน เบ็คเกอร์
  2. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.63)
  3. โฌเอล มาติป
  4. โจ โกเมซ
  5. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
  6. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
  7. จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม
  8. ดีโอโก้ โชต้า
  9. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
  10. ซาดิโอ มาเน่
  11. โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.59)
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เชลซี VS เชฟฯ ยูไนเต็ด 4-1 : ผลบอลพรีเมียร์ลีก 2020-2021

 


ผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง เชลซี VS เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

เริ่มเกมมาแค่ 4 นาที เจ้าบ้านเกือบได้ประตูนำ รีซ เจมส์ เปิดไปเสาแรกให้ แทมมี่ อบราฮัม ไขว้ยิงบอลเลยไปเสาสองถึง เบน ชิลเวลล์ กดด้วยซ้ายจ่อๆ แต่ แอรอน แรมส์เดล นายด่านทีมเยือนเซฟได้เหลือเชื่อ

นาทีที่ 9 ทีมเยือนมาได้ลูกเตะมุมก่อนเล่นสั้น จอร์จ บัลด็อค เปิดเรียดไปในเขตโทษ ซานเดอร์ เบิร์ก ยิงด้วยซ้าย เดวิด แม็คโกลดริก ยิงเปลี่ยนทางเข้าไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0

นาทีที่ 23 เจ้าถิ่นลุยหนัก ฮาคิม ซิเย็ค วางบอลให้ มาเตโอ โควาซิช หลุดเข้าเขตโทษก่อนเปิดหักเข้ากลางถึง แทมมี่ อบราฮัม วอลเลย์เสียบเสาสองเข้าไป เชลซี ตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 35 เจ้าบ้านมาได้ลูกเตะมุม มาเตโอ โควาซิช เล่นสั้นไหลบอลมาถึง ฮาคิม ซิเย็ค บรรจงปั่นโค้งไปเสาสองให้ เบน ชิลเวลล์ ชาร์จจ่อๆ ตุงตาข่ายไม่เหลือ เชลซี แซงนำ 2-1 พร้อมหมดครึ่งแรก

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 77 "สิงห์บลูส์" มาได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ฮาคิม ซิเย็ค เปิดโค้งไปหน้าประตู ติอาโก้ ซิลวา วิ่งโขกเปลี่ยนทางเสียบเสาสองเข้าไป เชลซี หนีเป็น 3-1

ท้ายเกมนาทีที่ 81 จากจังหวะแย่งบอลกลางสนาม แม็กซ์ โลว์ เตะสกัดคืนหลังพลาดไปเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดสวนตัว แอรอน แรมส์เดล ตุงตาข่าย เชลซี ทิ้งห่าง 4-1

จบเกม เชลซี เปิดรังไล่ถล่ม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 4-1 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 มี 15 คะแนนเท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 เกม


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชลซี (4-2-3-1) :

  1. เอดูอาร์ เมนดี้
  2. รีซ เจมส์
  3. ติอาโก้ ซิลวา
  4. คูร์ท ซูม่า
  5. เบน ชิลเวลล์
  6. มาเตโอ โควาซิช (จอร์จินโญ่ น.71)
  7. เอ็นโกโล่ ก็องเต้
  8. เมสัน เม้าน์ท
  9. ฮาคิม ซิเย็ค
  10. แทมมี่ อบราฮัม
  11. ติโม แวร์เนอร์ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.87)


เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) :

  1. แอรอน แรมส์เดล
  2. คริส บาแชม
  3. จอห์น อีแกน
  4. เอ็นดา สตีเว่นส์
  5. จอร์จ บัลด็อค
  6. ซานเดอร์ เบิร์ก
  7. โอลิเวอร์ นอร์วู้ด (เบน ออสบอร์น น.62)
  8. จอห์น ลุนด์สแตรม
  9. แม็กซ์ โลว์
  10. ริยาน บริวส์เตอร์ (โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ น.63)
  11. เดวิด แม็คโกลดริก
อัปเดตผลบอลสดๆ เรียลไทม์ ทุกคู่ได้เลยที่ : ผลบอลสด

ดอร์ทมุนด์ 2-3 บาเยิร์น มิวนิค : ผลบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี

 ดอร์ทมุนด์ 2-3 บาเยิร์น มิวนิค : ผลบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี





การแข่งขันฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี คู่ระหว่าง ดอร์ทมุนด์ พบกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

เริ่มเกมมาเพียงแค่นาทีแรก ทีมเยือนเกือบได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ ลูกัส แอร์กน็องเดซ วางบอลเข้าเขตโทษแนวรับเจ้าถิ่นสกัดมาเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ยิงด้วยขวาแต่บอลเข้าข้างตาข่าย

นาทีที่ 14 "เสือใต้" เกือบได้อีกครั้ง เยโรม บัวเต็ง เปิดบอลโค้งไปที่เสาสองให้ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ได้ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ เต็มหัวแต่ โรมัน เบือร์กี้ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดไว้ได้

นาทีที่ 45 เจ้าถิ่นที่บุกน้อยกว่ามาได้จังหวะสวนกลับ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ หลุดมาทางซ้ายก่อนเปิดไปในเขตโทษ มาร์โค รอยส์ วิ่งมาแปเสยเพดานเข้าไป ดอร์ทมุนด์ ออกนำ 1-0

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 45+3 ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษก่อนเล่นลูกสั้นไหลให้ ดาวิด อลาบา ปั่นด้วยซ้ายเสียบเสาเข้าไปเด็ดขาด บาเยิร์น มิวนิค ตีเสมอ 1-1 พร้อมหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลังนาทีที่ 48 บาเยิร์น มิวนิค แซงนำ 2-1 ลูกัส แอร์กน็องเดซ เปิดบอลไปหน้าประตู โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ วิ่งมาโฉบโหม่งเปลี่ยนทางเสียบเสาสองเข้าไป

นาทีที่ 80 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไหลออกซ้ายให้ เลรอย ซาเน่ กระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านมือ โรมัน เบือร์กี้ เสียบเสาเข้าไป บาเยิร์น มิวนิค หนีเป็น 3-1

สองนาทีต่อมา เจ้าถิ่นไม่ยอมง่ายๆ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ไหลบอลยาวให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หลุดเดี่ยวเข้าไปล็อกหลบ มานูเอล นอยเออร์ ก่อนซัดตุงตาข่าย ดอร์ทมุนด์ ไล่มาเป็น 2-3

จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกเบียดเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 3-2 เก็บสามแต้มสำคัญ ทำให้ "เสือใต้" ผงาดนำจ่าฝูง ขณะที่ "เสือเหลือง" หล่นไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : 
  1. โรมัน เบือร์กี้
  2. โธมัส เมอนิเย่ร์
  3. มานูเอล อคานจี
  4. มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์
  5. ราฟาแอล เกร์เรยโร่
  6. อักเซล วิตเซล
  7. โธมัส เดอลานีย์ (จู๊ด เบลลิ่งแฮม น.60)
  8. เจดอน ซานโช่ (ธอร์ก็อง อาซาร์ น.69)
  9. มาร์โค รอยส์
  10. จิโอวานนี่ เรย์น่า (ยูเลี่ยน บรันด์ท น.69)
  11. เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) :
  1. มานูเอล นอยเออร์
  2. บรูน่า ซาร์
  3. เยโรม บัวเต็ง (ฆาบี มาร์ติเนซ น.69)
  4. ดาวิด อลาบา
  5. ลูกัส แอร์กน็องเดซ
  6. โยชัว คิมมิช (โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ น.37)
  7. ลีออน โกเร็ตซ์ก้า
  8. โธมัส มุลเลอร์
  9. คิงส์เล่ย์  โกมัน (เลรอย ซาเน่ น.69)
  10. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
  11. แซร์ช นาบรี้
ติดตาม อัปเดตผลบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ผลบอล วันนี้

ผลบอล ลาลีกา สเปน : บาร์เซโลน่า 5-2 เรอัล เบติส

 ผลฟุตบอล ลาลีกา สเปน : บาร์เซโลน่า 5-2 เรอัล เบติส



ผลฟุตบอลลาลีกา สเปน 2020/21 บาร์เซโลน่า อันดับ 13 เปิดสนามคัมป์ นู รับการมาเยือนของ เรอัล เบติส ทีมอันดับ 7 ของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-3-3 อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์ และ อันซู ฟาติ เป็นสามประสานในแดนหน้า ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-3-3 เช่นกัน คริสเตียน เตโย, ฆัวกิน ซานเชซ และ อันโตนิโอ ซานาเบรีย ลงล่าตาข่าย

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพต่างดาวเป็นฝ่ายเอาชนะไป 5-2 ได้ประตูจาก อุสมาน เดมเบเล นาที 22, อองตวน กรีซมันน์ นาที 49, ลิโอเนล เมสซี ที่ลงมาในช่วงต้นครึ่งหลัง สังหารจุดโทษนาที 62 ก่อนมายิงอีกลูกในนาที 82 และ เปดรี้ นาที 90 ส่วนทีมเยือนได้คืนจาก อันโตนิโอ ซานาเบรีย นาที 45+3 และตัวสำรอง ลอเรน มอรอน นาที 74

โดยเกมนี้ทีมต้องเหลือ 10 คนด้วย เนื่องจาก อาอิสซา แมนดี กองหลังของทีมโดนใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามไปในนาที 61

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ บาร์เซโลน่า มีเพิ่มเป็น 11 คะแนน จาก 7 นัด ด้าน เรอัล เบติส มี 12 คะแนนเท่าเดิม จาก 9 นัด

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1175368/

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เอซี นางพญาริงเกิร์ลแห่งวงการ MMA แดนลุงแซม (ภาพ)

 


พาไปรู้จักกับ อาเรียนนี เซเลสต์ หรือ เอซี ริงเกิร์ลสาวสุดเซ็กซี่วัยย่าง 35 ปี ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่ "ยืนหนึ่ง" ของวงการ โดยมีแฟนคลับติดตามในอินสตาแกรม ariannyceleste มากกว่า 3.2 ล้านคน

สำหรับ อาเรียนนี มีชื่อจริงว่า เพเนโลเป โลเปซ มาร์เกวซ เธอเข้าสู่วงการริงเกิร์ลแห่งศึก UFC เมื่อปี 2006 พร้อมทั้งได้รับตำแหน่ง ริง เกิร์ล ออฟ เดอะ เยียร์ ทันที ก่อนที่เธอจะกวาดรางวัลสาวริงเกิร์ลแห่งปีได้ถึง 6 สมัย ซึ่งเธอยังเป็นสาวข้างสังเวียนคนแรกที่โกยรายได้มากถึง 1 ล้านเหรียญ ในเวลาเพียงแค่ 1 ปีอีกด้วย

นอกจากนี้สาวมะกันที่มีเชื้อสายฟิลิปปินส์และเม็กซิโกผู้นี้ ยังได้รับการโหวตจากนิตยสาร Maxim และ Sports Illustrated ว่าเป็นริงเกิร์ลที่เซ็กซี่สุดๆ ทำให้เธอกลายเป็นนางแบบที่ได้รับความสนใจมากเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยเคยถ่ายแบบแนวเซ็กซี่กับ FHM , Maxim หรือแม้กระทั่ง Playboy มาแล้ว

ดูรูปภาพทั้งหมด : https://www.sanook.com/sport/1175344/

ตารางบอล พรีเมียร์ลีก : เอฟเวอร์ตัน VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ตารางบอล พรีเมียร์ลีก : เอฟเวอร์ตัน VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด




ความพร้อมของทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน

ลูกาส์ ดีญ พ้นจากโทษแบนกลับมามีชื่อช่วยทีมได้ในเกมนี้แต่ คาร์โล อันเชลอตติ จะยังไม่สามารถใช้งาน ริชาร์ลิซอน ที่ได้รับใบแดงมาจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ได้

ฮาเมส โรดริเกวซ คีย์แมนในแดนกลาง พลาดการลงเล่นในช่วงสุดสัปดาห์จากปัญหาอาการบาดเจ็บโดยยังต้องรอลุ้นเช็กฟิตจนถึงนาทีสุดท้ายสำหรับเกมนี้

เซมัส โคลแมน ที่มีอาการเดี้ยงก่อนหน้านี้มีชื่อกับทีมชาติไอร์แลนด์ ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเขาจะพร้อมสำหรับการดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม อันเดร โกเมส และและ เบ็น ก็อดฟรีย์ มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์


คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-3-3
  • ผู้รักษาประตู : พิคฟอร์ด
  • กองหลัง : โคลแมน, มินา, คีน, ดีญ
  • กองกลาง : ดูกูเร, อัลลัน, เดลฟ์
  • กองหน้า : โรดริเกวซ, คาลเวิร์ต-เลวิน, อิโวบี


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อองโตนี มาร์กซิยาล เพิ่งรับใช้โทษแบน 3 นัดติดต่อกันเสร็จสิ้นเรียบร้อยและสามารถกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้ในเกมนี้ ขณะที่ อเล็กซ์ เตลเลส ยังคงต้องรอไฟเขียวจากการติดเชื้อโควิด-19 และคาดว่าจะยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้

วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ พลาดการลงเล่นในเกมเมื่อกลางสัปดาห์จากปัญอาการบาดเจ็บที่หลังและยังคงต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้ง ขณะที่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด และ ปอล ป็อกบา คาดว่าน่าจะสามารกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง : 4-2-3-1
  • ผู้รักษาประตู : เด เคอา
  • กองหลัง : วาน-บิสซาก้า, ลินเดเลิฟ, แม็คไกวร์, ชอว์
  • กองกลาง : แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด
  • กองกลางตัวรุก : กรีนวูด, บรูโน, แรชฟอร์ด
  • กองหน้า : มาร์กซิยาล

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เอฟเวอร์ตัน - ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
  • 1 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก - นิวคาสเซิล 2-1 เอฟเวอร์ตัน
  • 25 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก - เซาแธมป์ตัน 2-0 เอฟเวอร์ตัน
  • 17 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 2-2 ลิเวอร์พูล
  • 30 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 4-2 ไบรท์ตัน
  • 1 ตุลาคม คาราบาว คัพ - เอฟเวอร์ตัน 4-1 เวสต์แฮม

แมนฯ ยูไนเต็ด - ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
  • 5 พฤศจิกายน แชมเปี้ยนส์ลีก - บาซัคเซฮีร์ 2-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
  • 1 พฤศจิกายน พรีเมียร์ลีก - แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 อาร์เซนอล
  • 29 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก - แมนฯ ยูไนเต็ด 5-0 แอร์เบ ไลป์ซิก
  • 24 ตุลาคม พรีเมียร์ลีก - แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี
  • 21 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ลีก - เปแอสเช 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

เฮดทูเฮด - เอฟเวอร์ตัน ชนะ 1 เสมอ 2 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2
  • 1 มีนาคม 2020 พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
  • 15 ธันวาคม 2019 พรีเมียร์ลีก - แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เอฟเวอร์ตัน
  • 21เมษายน 2019 พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 4-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
  • 28 ตุลาคม 2018 พรีเมียร์ลีก - แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เอฟเวอร์ตัน
  • 2 มกราคม 2018 พรีเมียร์ลีก - เอฟเวอร์ตัน 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

เซาธ์แฮมป์ตัน VS นิวคาสเซิล 2-0 : พรีเมียร์ลีก 2020-21

 


เซาธ์แฮมป์ตัน VS นิวคาสเซิล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020/21 เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 5 เปิดรังรับมือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อันดับ 11 ซึ่งแมตช์นี้หากทัพนักบุญคว้าชัยได้จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที ขณะที่ขุนพลสาลิกาดงหากบุกมาซิวชัยได้มีโอกาสลุ้นขึ้นถึงท็อปโฟร์

ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล เกมนี้ไม่มี แดนนี่ อิงส์ ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมที่บาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง เช อดัมส์ เป็นหน้าเป้า สจวร์ต อาร์มสตรอง และ ธีโอ วัลคอตต์ สนับสนุน ขณะที่ฝั่ง สตีฟ บรูซ ยังเน้นเกมรับเป็นหลัก แนวรุกวาง คัลลัม วิลสัน และ อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง เป็นทีเด็ด

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 7 นาที เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ธีโอ วัลคอตต์ พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้ากลาง และเป็น เช อดัมส์ วอลเลย์ด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง รูปเกมของเจ้าถิ่นยังเหนือกว่าอย่างชัดเจน พับสนามบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนาทีที่ 82 ก็ได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ สจวร์ต อาร์มสตรอง ตัดบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนพาบอลกระชากเข้าไปยิงตุงตาข่าย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เซาธ์แฮมป์ตัน เอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไป 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 16 คะแนน แซงลิเวอร์พูลขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรที่นั่งจ่าฝูงในลีกสูงสุด อังกฤษ เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี ซึ่งครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 1988

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เผยสถิติ บรูโน ทำบอลเสีย 34 ครั้งในเกมล่าสุด

 



เรียกว่าเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกแพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 1-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สาม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของ บรูโน แฟร์นันเดส นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับปีศาจแดง

โดยเกมดังกล่าวจอมทัพทีมชาติโปรตุเกสอยู่ในสนามครบ 90 นาที แต่มีสถิติจ่ายบอลสำเร็จเพียง 72% และเสียถึง 34 ครั้ง เฉลี่ยทำเสีย 1 ครั้งในทุกๆ 3 นาที ซึ่งต่ำสุดในทีมพอๆกับ อ็องโตนี มาร์กซิยาล เลยทีเดียว

นอกจากนี้เขายังล้มเหลวในแง่ของการสร้างสรรค์โอกาส เมื่อทำไม่ได้เลยตลอดทั้งเกม โดยผ่านบอลยาวสำเร็จเพียงแค่ 7 จาก 14 ครั้ง และครอสบอลไม่สำเร็จเลยจากความพยายาม 6 ครั้ง

ล่าสุด สื่ออังกฤษนำสถิตินี้ไปเปรียบเทียบกับ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ที่ลงเป็นตัวจริงเหมือนกันแต่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปก่อน มิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จ่ายบอลสำเร็จถึง 93% และเสียบอลเพียง 8 ครั้งเท่านั้น



ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1174962/

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

บ่อนผู้ดีหั่นราคา "โปเช็ตติโน" เต็งหนึ่งกุนซือผีแดง

 


เมาริซิโอ โปเช็ตติโน โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ ถูกหั่นราคาลงอีกรอบกับการเป็นกุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โอเล กุนนาร์ โซลชา ถูกมองว่ามีโอกาสสูงที่จะตกเก้าอี้เฮดโค้ชปีศาจแดงอีกครั้ง หลังจากกอบกู้คืนมาได้จากผลงานในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะรวดสองเกมในรอบแบ่งกลุ่มเหนือ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง กับ แอร์เบ ไลป์ซิก

อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเพียง 7 คะแนนจาก 6 เกมแรกพรีเมียร์ลีก เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปีเทียบเท่าผลงานของ เดวิด มอยส์ ในปี 2013 นอกจากนี้ เกมล่าสุดในถ้วยบิ๊กเอียร์ยังบุกไปพ่าย อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ ถึงตุรกี 1-2 ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น

ดังนั้น รายชื่อของบรรดาโค้ชใหม่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงถูกคาดการณ์กันแบบหนาหูอีกครั้ง โดยบ่อนถูกกฎหมายของอังกฤษให้เต็งหนึ่งอย่าง โปเช็ตติโน ถูกปรับลดราคาจ่ายลงมาเรื่อยๆ จนตอนนี้อยู่ที่ 4/7 (แทง 7 จ่าย 4 ไม่รวมทุน) ตามด้วยเต็งสอง มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี โค้ชว่างงานเช่นกัน มาที่ 6/1 (แทง 1 จ่าย 6 ไม่รวมทุน)

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1174915/

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เรอัล มาดริด VS อินเตอร์ มิลาน 3-2 : คลิปไฮไลท์ UCL

 



การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดที่ 3 ที่ สนาม เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ระหว่าง เรอัล มาดริด ลงสนามพบ อินเตอร์ มิลาน

เรอัล มาดริด ที่มีเพียงแต้มเดียวหลังผ่านสองนัด เกมนี้ไม่มี เอแดร์ มิลิเตา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ ราฟาเอล วาราน ลงจับคู่ เซร์คิโอ รามอส แนวรุก เอเด็น อาซาร์ ได้ลงสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่องเล่นร่วมกับ คาริม เบนซมา และ มาร์โก อเซนซิโอ

ทางฝั่งอินเตอร์ มิลาน ของ อันโตนิโอ คอนเต้ เกมนี้ไม่มี โรเมลู ลูกากู ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อ ขณะที่ อัชราฟ ฮาคิมี ได้ออกสตาร์ทตัวจริงดวลต้นสังกัดเก่า คู่กองหน้าปรับมาใช้ อิวาน เปริซิช ได้ลงสนามคู่ เลาตาโร มาร์ติเนซ

ผลปรากฏว่า เริ่มเกมทั้งสองทีมแลกกันสนุก โอกาสทองเป็นของ งูใหญ่ ในนาทีที่ 10 จากจังหวะโหม่งของ นิโคโล่ บาเรลล่า ส่งบอลชนคาน

แต่เป็น ราชันชุดขาว ที่ออกนำในนาที 25 อาชราฟ ฮาคีมี่ ส่งบอลคืนหลังไม่ดีเข้าทาง คาริม เบนเซม่า ที่หลุดไปแตะหลบ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช แล้วยิงเข้าประตูไป

เรอัล มาดริก นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 33 จากเตะมุมทางซ้าย โทนี่ โครส สาดโค้งเข้าหัว เซร์คิโอ รามอส โขกกดลงพื้นเสียบตาข่าย

กระนั้นสองนาทีต่อมา อินเตอร์ ตีไข่แตกตามมาเป็น 1-2 นิโคโล่ บาเรลล่า เบิ้ลจังหวะเดียวไปให้กับ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ สอดมายิงด้วยขวาไม่เหลือซาก

ครึ่งหลังนาที 68 อินเตอร์ มิลาน ตีเสมอ 2-2 จากจังวะวางมาให้ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ โขกชงไปถึง อีวาน เปริซิช รอบอลตกพื้นแล้วยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไป

อย่างไรก็ตาม โลส บลังโกส ออกนำ 3-2 ในนาที 80 จากสองนักเตะสำรองชาวบราซิล วินิซิอุส จูเนียร์ ตบจากซ้ายหลุดมาเสาไกลถึง โรดรีโก้ ที่ยิงเสียบตาข่าย

จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ อินเตอร์ มิลาน เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนนรั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ อินเตอร์ ยังไม่ชนะใครมี 2 คะแนนรั้งท้ายของกลุ่ม

แมนซิตี้ VS โอลิมเปียกอส 3-0 ไฮไลท์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (คลิป)

 


การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดที่ 3 เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปิดสนามอิธิฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ โอลิมเปียกอส



ฝั่งเรือใบสีฟ้า เจ้าบ้านเลือกใช้แผน 4-3-3 วางริยาด มาห์เรซ, เฟร์ราน ตอร์เรส และ ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นสามประสานในแดนหน้า

ทางด้านโอลิมเปียกอส ผู้มาเยือนจัดทีมในระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน โดยมี ลาซาร์ รันเดโรวิช, ยูสเซฟ เอล-อราบี และ มาติเยอ วัลบูเอนา เป็นสามประสานในแดนหน้า

ผลปรากฏว่า เริ่มเกมมาได้ 12 นาที เรือใบสีฟ้า ออกนำ 1-0 เมื่อทาง เควิน เดอ บรอยน์ เล่นชิ่งหนึ่งสองมาให้กับ เฟร์ราน ตอร์เรส หลุดไปยิงด้วยขวาไม่พลาด

นาทีที่ 16 แมนฯ ซิตี้ อยากได้จุดโทษหลังจาก รียาด มาห์เรซ โดนสกัดล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินให้เล่นต่อไป ส่งผลให้นักเตะไม่พอใจอย่างมาก

จากนั้นในนาทีที่ 32 เจ้บ้านได้เฮเก้อเมื่อทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่งบอลเข้าประตู แต่ไม่ได้เพราะว่ามีธงล้ำหน้ายกมาจากผู้ช่วยผู้ตัดสินแล้ว

โอลิมเปียกอส พยายามสู้และมีโอกาสในนาที 55 จากจังหวะยิงของ มาติเยอ วัลบูเอน่า แนวรุกทีมเยือนแต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

เจ้าบ้านนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 81 กาเบรียล เชซุส รับบอลมาจาก เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนจะเข้าเขตโทษทางขวาแล้วตัดสินใจยิงยัดเสียบตาข่าย

ท้ายเกมนาทีที่ 90 เรือใบสีฟ้า ได้ประตูปิดกล่องจาก ชูเอา กานเซโล่ จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ โอลิมเปียกอส 3-0 คว้าชัยสามเกมรวด ทำให้เก็บ 9 คะแนนเต็ม รั้งจ่าฝูงกลุ่มซี

อตาลันตา VS ลิเวอร์พูล 0-5 - ไฮไลท์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (คลิป)

 




  • ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รองแบ่งกลุ่ม 2020/21
  • คืนวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2020
  • อตาลันต้า 0-5 ลิเวอร์พูล
  • สนาม : เกวิสส์ สเตเดี้ยม
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก 2020-21 - ลีดส์ VS เลสเตอร์ 1-4 (คลิป)

 


ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1174450/


ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนแข่งรั้งอันดับ 12 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 8

เกมนี้หาก “ยูงทอง” คว้าชัยจะขึ้นไปรั้งท็อปไฟว์ทันที เช่นเดียวกับ “จิ้งจอกสยาม” หากบุกมาชนะจะแซงขึ้นรั้งรองจ่าฝูงตามหลัง “หงส์แดง” แค่แต้มเดียวทันที

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า นายใหญ่ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังไม่มี คาลวิล ฟิลลิปส์ ห้องเครื่องตัวเก่งของทีมที่ยังเจ็บ ขณะที่เกมรุกใช้ ปาโบล เอร์นานเดซ ปั้นเกมร่วมกับ เอลแดร์ คอสต้า และแจ็ค แฮร์ริสัน โดยทิ้ง พาทริค แบมฟอร์ด เป็นหน้าเป้า

ด้าน เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส ส่ง เจมี่ วาร์ดี้ ล่าตาข่ายโดยมีตัวปั้นเกมอย่าง เดนนิส ปราต และฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ รวมทั้ง ยูริ ตีเลม็องส์ สนับสนุน

ผลปรากฏว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่สบายแข้ง 4-1 ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงเรียบร้อย

โดยทีมเยือนได้ประตูจาก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ นาทีที่ 3, ยูริ ตีเลม็องส์ นาทีที่ 21 กับ 90 จากจุดโทษ และเจมี่ วาร์ดี้ นาทีที่ 76

ส่วนเจ้าถิ่นตีไข่แตกได้จาก สจ๊วร์ต ดัลลาส นาทีที่ 48

ทำให้ “จิ้งจอกสยาม” มี 15 คะแนนจาก 7 นัดอยู่ที่ 2 ฝั่ง “ยูงทอง” มี 10 คะแนนรั้งอันดับ 12

ที่มา: 

ไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ - ฟูแล่ม VS เวสต์บรอมวิช 2-0

 



ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการพบกันของสองทีมท้ายตารางที่ยังไม่ชนะทีมใด ระหว่างเจ้าบ้าน ฟูแล่ม ทีมอันดับ 19 พบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 17

สกอตต์ พาร์เกอร์ เกมล่าสุดพ่ายคาบ้านให้ คริสตัล พาเลซ 1-2 แมตช์นี้ใช้ 3 ประสานแดนหน้าเป็น บ็อบบี้ รีด, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และอเดโมล่า ลุคแมน

ส่วนทางฝั่ง สลาเวน บิลิช นายใหญ่ของ “แบ็กกี้ส์” เกมล่าสุดต้งเป็นฝ่ายไล่ตีเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 แมตช์นี้ยังยึดแนวรุกชุดเดิมมี คาร์แลน แกรนท์ หน้าเป้า โดยใช้ มาเตอุส เปเรยร่า ปั้นเกมร่วมกับ ฟิลิป โครวิโนวิช และ เกรดี้ เดียนกาน่า

ผลปรากฏว่า เริ่มเกมมาได้ 2 นาที เดอะ แบ็กกี้ส์ หวิดเฮเมื่อทาง คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ เติมสูงไปยิงไกลบอลพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย

เล่นไปเล่นมาเป็นทาง ฟูแล่ม ที่ออกนำก่อน 1-0 ในนาที 26 แอนโธนี่ โรบินสัน เปิดจากซ้ายไปเสาไกล อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช โขกชงเข้ากลางถึง บ็อบบี้ รีด โขกอีกทอดผ่าน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่ยืนคุมเส้นเข้าประตูไป

เท่านั้นไม่พอ เจ้าสัวน้อย หนีห่าง 2-0 ในนาที 30 บ็อบบี้ รีดไหลจากขวามาให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช แตะคืน โอลา ไอน่า สอดมายิงด้วยซ้ายบอลพุ่งสียบสามเหลี่ยมเสาไกลแบบสุดสวย

เวสต์บรอมวิช มีลุ้นตีไข่แตกในนาที 36 เมื่อทาง คาร์แลน แกรนท์ ลากมาเองก่อนสับไกด้วยซ้ายหลุดกรอบนิดเดียว

ครึ่งหลังเล่นไปถึงนาทีที่ 80 เจ้าบ้านมีลุ้นจากจังหวะที่ ทอม แคร์นี่ย์ ยกข้ามประตูไปติดตัวคุมเส้นออกมาเข้าทาง บ็อบบี้ รีด หวดสวนติดแขน เซมี่ อาจายี่ ออกมา

ฟูแล่ม พยายามประท้วงเอาจุดโทษ และพอบอลตายผู้ตัดสินรอสัญญาณจาก วีเออาร์ ที่กำลังตรวจสอบก่อนจะไม่ให้จุดโทษเพราะมองว่ากองหลังทีมเยือนไม่ได้กางแขนออกมา

จบเกม ฟูแล่ม เอาชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0 คว้าชัยเกมแรกในลีกฤดูกาลนี้ไปครองสำเร็จ

ทำให้ “เจ้าสัวน้อย” มี 4 คะแนนจาก 7 นัดขยับขึ้นมารั้งอันดับ 17 ส่วน “เดอะ แบ๊กกีส์” มี 3 คะแนนรั้งอันดับ 18

ที่มา: https://www.sanook.com/sport/1174441/

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พีพีทีวี ยิงถ่ายทอดสด! ฟุตบอลคู่บิ๊กแมตช์ เสาร์นี้

 



ที่มา : Sanook.com/sport/1174416/

พีพีทีวี ยิงถ่ายทอดสด! ฟุตบอลคู่บิ๊กแมตช์ เสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน นี้


พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ตอกย้ำความเป็น เวิลด์คลาส สปอร์ต เจ้าแห่งการถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอคืนวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. นี้ ให้กลายเป็นสังเวียนแห่งความมันส์ ภายใต้แคมเปญ บิ๊กแมตช์ เดย์ กับการถ่ายทอดสดเกมระดับบิ๊กแมตช์จาก 2 ลีกชั้นนำ 3 แมตช์ต่อเนื่อง ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ บุนเดสลีกา

  • เริ่มตั้งแต่ 19.30 น. เอฟเวอร์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด 
  • เวลา 21.30 น. ไลป์ซิก พบ ไฟร์บวร์ก
  • ปิดท้าย เวลา 00.30 น. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พบ บาเยิร์น มิวนิค

ซึ่งในวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. นี้ จัดเป็นวันแห่งความมันส์บนหน้าจอฟรีทีวี เพื่อแฟนฟุตบอลชาวไทย หลัง พีพีทีวี ประกาศให้เป็น บิ๊กแมตช์ เดย์ ด้วยการถ่ายทอดสดเกมใหญ่สุดเดือดที่มีผลต่อการลุ้นจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ บุนเดสลีกา เยอรมัน แบบยิงสดต่อเนื่อง 3 แมตช์รวด

ประเดิมบิ๊กแมตช์แรกตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เวลา 19.30 น. กับภารกิจเค้นฟอร์มเก่งทวงคืนจ่าฝูงของ เอฟเวอร์ตัน

ภายหลังเปิดตัวร้อนแรงในฤดูกาลนี้ แต่กลับปราชัยใน 2 นัดที่ผ่านมา จนร่วงจากตำแหน่งผู้นำในที่สุด แถมสัปดาห์นี้พวกเขายังต้องเปิดบ้านทำศึกหนักกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกยักษ์ใหญ่ที่ฟอร์มยังดูไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก

และเพิ่งแพ้มาในเกมล่าสุดเช่นกัน โดย 3 แต้มสำคัญในแมตช์นี้จะส่งให้เอฟเวอร์ตัน กลับขึ้นไปทวงตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างน้อยก็ชั่วคราว

ข่าวกีฬา : ฮาคิม ซิเยค ยันปรับตัวกับเชลซีได้ดี หลังโชว์ฟอร์มเก่ง



ที่มา: Sanook.com/sport/1174401/

ฮาคิม ซิเยค ยันปรับตัวกับเชลซีได้ดี หลังโชว์ฟอร์มเก่ง


ฮาคิม ซิเยค ปีกตัวใหม่ของ ทีมเชลซี หลังประเดิมลงสนามตัวจริงในนักแรกในศึกพรีเมียร์ลีก และยังโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมที่บุกไปชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-0 พร้อมทำไป 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์

โดยที่ ฮาคิม ซิเยค กล่าวถึงเกมดังกล่าว “มันเป็นสัปดาห์ที่ดีมาก ๆ สำหรับผมและหวังว่าเราจะสานผลงานนี้ต่อไปได้ครับ

โดยเฉพาะหลังโปรแกรมบอลยุโรป การบุกมาที่เบิร์นลี่ย์ ผมคิดว่าพวกเราเล่นกันได้ดีมาก เราเริ่มต้นได้สวยและมอบปัญหาให้กับพวกเขา พวกเขามีโอกาสทองตอนต้นเกมแต่หลังจากนั้นพวกเราครองเกมเอาไว้ได้หมด

ชีวิตกับเชลซีคือดีมาก ผมอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่ ผมรู้สึกดีและรู้สึกสบายใจมาก ทุกอย่างโอเคดีมากเลยครับ” ซิเยค กล่าว

สำหรับโปรแกรมแข่งนัดต่อไปของ เชลซี มีคิวรับการมาเยือนของ แรนส์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนลีก 2020-2021 ในคืนวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน นี้ เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย