วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : เก็บให้หมด!เป๊ปลั่นเป้าหมายเพียงทำลายทุกสถิติในลีก


ข่าวกีฬา : เก็บให้หมด!เป๊ปลั่นเป้าหมายเพียงทำลายทุกสถิติในลีก


ผู้จัดการโจเซป กวาร์ดิโอล่า สุดยอดนายใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประกาศก้องให้โลกรู้เป้าหมายต่อไปของเขาคือการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการลูกหนังในเมืองผู้ดีหลังล่าสุดไล่ถลุง เวสต์แฮม ไปอย่างสบายเกือก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชี้เมื่อคว้าแชมป์แล้วต้องหาแรงกระตุ้นใหม่นั่นก็คือการทำลายทุกสถิติที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ให้จงได้



    โดยโจเซป กวาร์ดิโอล่า ยอดผู้จัดการทีมดังสมองเพชรของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึงพึงเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2017-18 ได้มุ่งมั่นที่จะนำ "เรือใบสีฟ้า" เริ่มสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการลูกหนังในเมืองผู้ดี หลังเกมล่าสุดนั้นไล่ถลุง เวสต์แฮม ยูไนเต็ดด้วยผลบอลสด 4-1 เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมานั้นเอง

    ทีมแมนฯ ซิตี้ ซึ่งพวกเขานั้นกลายเป็นทีมที่ยิง 100 ประตูได้รวดเร็วที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีใน 1 ซีซั่นนับมาตั้งแต่ฤดูกาล 1931-32  การที่ทำสถิติชนะ 30 เกมเทียบเท่ากับ เชลซี ที่ทำได้เมื่อซีซั่นที่ผ่านมานั้น และยังทำสถิติได้ชนะเกมเยือน 15 แมตช์เท่ากับทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" (ซีซั่น 2004-05) อีกด้วย

    โดยกวาร์ดิโอล่า ซึ่งยังคงมีลุ้นทำลายสถิติเก็บคะแนนได้มากสุดในฤดูกาลเดียวเป็นของทีม เชลซี ที่ทำได้ 95 แต้มเมื่อซีซั่น 2004-05 ในสมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เข้ามากุมบังเหียนปีแรก หลังจากที่ตอนนี้พวกเขาได้เก็บไปแล้ว 93 คะแนนและเหลือโปรแกรมอีกเพียง 3 แมตช์

  -----------------------------------
  "เรามีโอกาสที่จะเป็นสดมสรที่ดีที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ด้วยการเก็บคะแนนให้มากที่สุด เราจะพยายามทำแบบนั้นให้ได้ในวันอาทิตย์หน้า หรือในวันที่ 6 พ.ค. เข้าพบกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ คุณจะต้องพยายามเล่นเพื่อบางสิ่งเสมอด้วย และทันทีที่เราคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยเป้าหมายต่อไปก็คือการได้คะแนนให้ได้เยอะๆ เรามีโอกาสทำลายสถิติมากมาย แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องเล่นให้ดีที่สุด และมันก็เป็นเป้าหมายที่ดีสำหรับการต่อสู้" ยอดผู้จัดการกวาร์ดิโอล่า ได้ระบุ

------------------------------------------


วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ฟังอีกครั้ง!! ลีเวอร์พลูขายซาลาห์เท่าไหร่กันแน่?



ข่าวกีฬา : ฟังอีกครั้ง!! ลีเวอร์พลูขายซาลาห์เท่าไหร่กันแน่?



งานนี้มีหูผึ่ง! "ราชันชุดขาว" และอีกหลายทีมทั่วยุโรป ควรจะต้องตั้งใจฟังกันอีกครั้ง "หงส์แดง" ชัดเจนแล้วกรณีอนาคตของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แข้งทองอียิปต์ ถึงจะเอาเงิน 200 ล้านปอนด์มากองตรงหน้า ก็ไม่มีทางขาย!



    ทีมลิเวอร์พูล ได้แสดงท่าทีชัดเจนแล้วเกี่ยวกับอนาคตของยอกแข้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวฉกาจที่ยิงไปแล้วถึง 43 ประตูในฤดูกาลนี้ โดยยกให้เจ้าตัวเป็นดาวเตะที่เป็นกำลังสำคัญสำหรับยุคใหม่ของสโมสร และก็จะปฏิเสธอย่างแข็งขันไม่ว่า เรอัล มาดริด จะเข้ามาพยายามยื่นข้อเสนอมูลค่ามหาศาลมายั่วยวนใจกี่ครั้งกี่คราวก็ตามที

    เดลี่ เมล ได้สื่อดังเมืองผู้ดี รายงานมาว่า ซาลาห์ ยังคงเหลือสัญญาอีก 4 ปี และพร้อมรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 90,000 ปอนด์ หรือประมาณ 4.05 ล้านบาท ตามที่ได้เซ็นไว้เมื่อตอนย้ายมาจาก อาแอส โรม่า เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ว่า "หงส์แดง" ก็กำลังพิจารณาเพิ่มค่าแรงให้อยู่ในเวลานี้ แถมยังมีความสัมพันธ์อันดีมากๆกับ รามี่ อับบาส เอเยนต์ของเจ้าตัว เขาด้วยอีกต่างหาก

    "ราชันชุดขาว" สนใจเจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) มาตั้ง
แต่ว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อทาง ซีเนดีน ซีดาน มีโค้ชคนดัง ได้พูดถึง ซาลาห์ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ณ เวลานั้น ค่าตัวใกล้เคียง 100 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท แต่เวลานี้พุ่งไปเป็นเฉียด 200 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9,000 ล้านบาท ไปเรียบร้อยแล้ว

    ยักษ์ใหญ่ของ ลา ลีกา สเปน ได้มีแผนการยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ในซีซั่นหน้า แต่ว่าความจริงที่ว่าดาวเตะทีมชาติอียิปต์ วัย 25 ปี ซึ่งไม่มีเงื่อนไขค่าฉีกสัญญานั้น ทั้งส่งผลทำให้ความพยายามคว้าเจ้าตัวมาครอบครองจึงเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนไปโดยปริยายเลยทีเดียว


วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : มาแรงจริง! ซาลาห์ขึ้นแซงเมสซี่เป็นเต็ง2คว้าบัลลงดอร์


ข่าวกีฬา : มาแรงจริง! ซาลาห์ขึ้นแซงเมสซี่เป็นเต็ง2คว้าบัลลงดอร์


เป็นไปได้บ่อนเมืองผู้ดี ดัน โม ซาลาห์ ปีก ลิเวอร์พูล ให้ขึ้นเป็นเต็ง 2 ที่จะคว้า บัลลง ดอร์ แทน ลิโอเนล เมสซี่ แทนแล้ว หลังโชว์ฟอร์มเทพช่วยให้ "หงส์แดง"ต้นสังกัด ถล่ม โรม่า จ่อโอกาสเข้าชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก



     บริษัทที่รับพนันที่ถูกกฎหมายหลายแห่งเลยในประเทศอังกฤษ ได้พร้อมใจกันหั่นราคาที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกตัวเก่งของทีม ลิเวอร์พูล จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ 2018 หลังจากที่กำลังเริ่มโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดอยู่ในเวลานี้

    ยอดแข้งซาลาห์ ได้ทำผลงานสุดยอดมากจัดยิงคนเดียว 2 ประตูและยังจ่ายไปอีก 2 ลูก จึงช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรม่า คู่แข่งจากอิตาลีด้วยผลบอลสด 5-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อย่างไม่ยากเย้น โดยรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ซัดไปแล้วถึง 43 ประตูในฤดูกาลนี้

    ก่อนหน้านี้นั้น ปีกอียิปต์ มีอัตราต่อรองที่จะได้ บัลลง ดอร์ อยู่ที่ 10/1 หรือแทง 1 จ่าย 10 ไม่รวมต้นทุน แต่หลังจากได้โชว์ฟอร์มเทพในเกมชนะยอดทีมตั้งรับ โรม่า ทำให้ "วิลเลี่ยมฮิลล์" ก็ต้องหั่นราคาลงมาเหลือแค่ 6/4 หรือแทง 4 จ่าย 6 ไม่รวมทุน และแซง ลิโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้า บาร์เซโลน่า ขึ้นไปเป็นเต็งสองนั้นเอง ขณะที่เต็งหนึ่งยังคงเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะ เรอัล มาดริด เหมือนเดิม

ข่าวกีฬา : อาร์เซน่อลมั่นใจสอยเอ็นริเก้คุมทัพปาดหน้าเชลซี


ข่าวกีฬา : อาร์เซน่อลมั่นใจสอยเอ็นริเก้คุมทัพหวังตัดหน้าเชลซี



มาแรงแซงโค้งซะแล้วหรือยังไง "ไอ้ปืนใหญ่" ตกเป็นข่าวมั่นใจสุดขีดปาดหน้า "สิงห์บลูส์" กระชากตัว หลุยส์ เอ็นริเก้ มาเป็นกุนซือคนใหม่ได้แน่นอน เหตุเจ้าตัวมีสายสัมพันธ์อันดีกับ ราอูล ซานเยอี หนึ่งในคีย์แมนแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม นั่นเอง






    อาร์เซน่อล มั่นอกมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะปาดหน้า เชลซี คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน และคว้าตัว หลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตสุดยอดโค้ชของ บาร์เซโลน่า มานั่งแท่นผู้จัดการทีมคนใหม่เพื่อสืบต่อจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ ตรงตามรายงานข่าวจาก เดลี่ มิร์เรอร์ สื่อดังเมืองผู้ดี เมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมานั้นเอง






    ความสัมพันธ์ระหว่าง ราอูล ซานเยอี หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอล "เดอะ กันเนอร์ส" เมื่อครั้งร่วมงานกับ เอ็นริเก้ ในถิ่น คัมป์ นู ในตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลมาก่อนนั้น คาดว่าน่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ "สิงห์บลูส์" ต้องพลาดหวังได้ตัว เอ็นริเก้ มาเป็นกุนซือแทน อันโตนิโอ คอนเต้ ไปในที่สุด


    อย่างไรก็ตามที ค่าเหนื่อยที่ทางยอดผู้จะดการ เอ็นริเก้ เรียกร้องมากว่าปีละ 15 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 675 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้างในการเจรจากันอยู่บ้าง แต่ว่าทาง ซานเยอี เชื่อว่าเป็นเพียงปัญหาที่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้อย่างแน่นอนเลย


    ทั้งนี้ "ไอ้ปืนใหญ่" น่าจะต้องการโค้ชที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่า เพราะไม่ต้องการจะสุ่มเสี่ยงกับการใช้บริการโค้ชรุ่นใหม่ปลอดประสบการณ์ ขณะที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ แอตเลติโก มาดริด ที่ตกเป็นข่าวกับหลายทีมนั้น ไม่สนใจจะมารับงานกับ อาร์เซน่อล หรือ เชลซี เพราะต้องการจะอยู่คุมทีมเก่าต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : นัดแรกรอบรอง ชปล. กับ เรื่องน่ารู้ก่อนหงส์แดงเปิดบ้านต้อนรับโรม่า


ข่าวกีฬานัดแรกรอบรอง ชปล. กับ เรื่องน่ารู้ก่อนหงส์แดงเปิดบ้านต้อนรับโรม่า








ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับ การแข่งขันที่หลายคนนั้นตั้งตารอ กับการแข่งขัน ชปล. ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ยอดทีมจากอังกฤษ"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทีมอีตาลีอย่าง"หมาป่ากรุงโรม" โรม่านั้นเอง
วันนี้เรารวบรวม 5 เรื่องน่าสนใจก่อนเกมมาให้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย !!


1.หงส์แดงเหนือกว่าในถ้วยยุโรป

   นับจากสถิติในการพบกันในถ้วยยุโรปของทั้ง 2 ทีม โดยลิเวอร์พูลมีผลงานที่ดีกว่าอย่างชัดเจนเลย โดยทั้งคู่ พบกันมา 5 ครั้ง และเป็น "หงส์แดง" ที่นำชัยชนะได้ถึง 3 ครั้ง เสมอ 1 นั้น คือเสมอกัน 1-1 ก่อนลิเวอร์พูลจะชนะจุดโทษและคว้าแชมป์ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ 1984 ) และได้แพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น


1984 - โรม่า 1 - 1 ลิเวอร์พูล (ชนะจุดโทษ 4-2)


    - 30 พ.ค. 1984 - โรม่า 1 - 1 ลิเวอร์พูล ศึกยูโรเปี้ยน คัพ ก่อนที่ ลิเวอร์พูล ชนะจุดโทษ 4-2
 
    - 15 ก.พ. 2001 - โรม่า 0 - 2 ลิเวอร์พูล ศึกยูฟ่า คัพ
 
    - 22 ก.พ. 2001 - ลิเวอร์พูล 0 - 1 โรม่า ศึก ยูฟ่า คัพ
 
    - 5 ธ.ค. 2001 - โรม่า 0 - 0 ลิเวอร์พูล ศึก ชปล.
 
    - 19 พ.ค. 2002 - ลิเวอร์พูล 2 -0 โรม่า ศึก ชปล.


2.เต็ง 2 เจอ เต็ง 4




   หลังจากผลการจับสลากได้ประกบคู่รอบรองชนะเลิศ ไปเมื่อวันศุกร์ที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลถูกดันขึ้นมาเป็นถึงหัวเต็งระดับ 2 ของรายการนี้ทันทีต่อจากยอดทีมอย่างเรอัล มาดริด โดยมีบาเยิร์น มิวนิค เป็นเต็ง 3 ตามด้วยเต็ง 4 ของรายการอย่างโรม่า ซึ่งการที่จะเจอกันของหงส์แดงและหมาป่า เป็นการพบกันของเต็ง 2 และเต็ง 4 ซึ่งถ้าหากดูจากทีม และทรรศนะต่างๆแล้วจากสื่อหลายๆสำนัก  รวมถึงอัตราต่อรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของบริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของอังกฤษก็จะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลเป็นต่ออยู่พอสมควร แต่ลูกฟุตบอลลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้ หมาป่าจากกรุงโรมจะดุพอกำราบหงส์หรือไม่ ต้องรอดูกัน !!



3.ซาลาห์กับการเจอทีมเก่า




    เพิ่งได้คว้ารางวัล เป็นแข้งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ มาสดๆสำหรับดาวเตะชาวอียิปต์ที่มีผลงานโดดเด่นเหลือเกินนับตั้งแต่ได้ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูล โดยในฤดูกาลนี้ถล่มประตูไปแล้วถึง 41 ประตูในทุกรายการ 31 ประตูในศึกพรีเมียร์ลีก 9 ประตูในศึกชปล และ 1ประตูในเอฟเอคัพ ซึ่งดูจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาสามารถช่วยทีมได้เป็นอย่างดีเลยและเป็นกำลังสำคัญที่จะพาทีมทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วย

    แต่การที่เข้าตัวซาลาห์ต้องมาเจอกับทีมเก่าของเขาอย่างทีมโรม่าที่ค่อนข้างจะรู้จักเจ้าตัวมาเป็นอย่างดี อีกทั้งผู้เล่นชุดปัจจุบันนั้นหลายๆคนของโรม่า ก็คุ้นเคยกับตัวซาลาห์เป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วการที่มาเจอกับทีมที่รู้จุดอ่อน จุดแข็งของเขาเป็นอย่าง จึงทำให้เจ้าตัวคงต้องทำงานหนักกว่าเดิม ต้องมาดูกันว่า ซาลาห์จะเอาตัวรอดอย่างไร เพราะถ้าหากเขาเล่นไม่ออกละก็ ลิเวอร์พูลคงเจองานหนักมากอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้โรม่าจะคุ้นเคยกับซาลาห์เป็นอย่างดีแล้ว แต่อย่าลืมว่า ซาลาห์คนที่เคยอยู่โรม่า หากเทียบกับตอนนี้แล้ว เขาพัฒนาฝีเท้ามามากแล้วเหมือนกันนะ



4.หงส์แข็งแกร่งจริงแต่อย่าประมาทหมาป่าเด็ดขาด




   ต้องยอมรับว่าผลงานของลิเวอร์พูลใน ชปล. ฤดูกาลนี้ นั้นมีความยอดเยี่ยมแบบสุดๆ หลังยังไม่แพ้ใครเลยในรายการนี้ แถมยังยิงประตูมากมายเรียกว่าถล่มทลาย และรอบก่อนรองชนะเลิศก็เอาชนะยอดทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งไปและกลับ ได้ด้วยสกอร์รวมถึงผลบอลสด 5-1 แต่อย่างไรก็ตาม หมาป่ากรุงโรม ถึงจะดูไม่น่ากลัวเลยเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ แต่ว่าพวกเขาก็เอาชนะทีมใหญ่ได้มาตลอดทาง ตั้งแต่ในรอบแบ่งกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับแอตเลติโก้ มาดริดด้วย และเชลซี ซึ่งหลายๆคนคงมองว่าโรม่าน่าจะตกแน่ๆ แต่ว่ากลายเป็นว่า พวกเขาเข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม แถมยังพลิกล็อคสุดๆ คือรอบก่อนรองชนะเลิศที่พวกเขาน็อคบาร์เซโลน่า ที่เต็งหนึ่งของรายการ ตกรอบไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้น โรม่าจึงเป็นทีมที่หงส์แดงจะประมาทไม่ได้เด็ดขาดเลยทีเดียว


5.เช็คความพร้อมล่าสุด 



ความพร้อมของทีมลิเวอร์พูล : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้พ้นโทษแบนพร้อมประจำการแล้ว โดยสำหรับที่บาดเจ็บได้แก่ เนธาเนียล ไคลน์, เอ็มเร่ ชาน กับ อดัม ลัลลาน่า และ โฌแอล มาติป ที่ยังต้องพักรักษาตัวกันต่อไป ในส่วนของสามประสานแดนหน้า มีอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมลงยิงตาข่าย ได้อย่างสบายๆแน่นอน



วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ซาลาห์ ผงาดคว้าแข้งยอดเยี่ยมพีเอฟเอ สมใจแฟนหงส์



ข่าวกีฬา : ซาลาห์ ผงาดคว้าแข้งยอดเยี่ยมพีเอฟเอ สมใจแฟนหงส์



 สุดยอด!! โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขึ้นแท่นเป็นยอดแข้งจากหงส์แดงสานต่อจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่ได้ระเบิดประตูไปเมื่อสมัยยังอยู่ในฤดูกาล 2013-14 โดยหลังจากคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของทางสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ หรือพีเอฟเอ โดยประจำซีซั่นนี้ไปครองได้สำเร็จ




    โดยยอดดาวยิงทีมชาติอียิปต์ ที่ได้เอาชนะทั้งยอดแข่งหลายคนได้แก่ เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, ลีรอย ซาเน่, แฮร์รี่ เคน และรวมถึง ดาบิด เด เคอา ซึ่งเป็นเหล่า 6 นักเตะที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของตัวสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษประจำฤดูกาลนี้นั้นเอง



    ด้วยฟอร์มอันร้ายกาจแม้เพิ่งจะย้ายมาร่วมทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แค่ซีซั่นแรก แต่ก็ซัดไปแล้ว 31 ประตูพร้อมขึ้นนำเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก แถมตอนนี้ยังยิงรวมทุกรายการไปแล้ว 41 ประตู จาก 46 เกม นับแต่ย้ายมาจาก "หมาป่ากรุงโรม" โรม่า ด้วยค่าตัวราว 37 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว 


   นอกจากนี้แล้ว ตัวยอดแข้งวัย 25 ปีรายนี้ก็ยังคงเป็นผู้เล่นยอดเยียมคนที่ 7 ของ ลิเวอร์พูล ด้วยที่คว้ารางวัลนี้ได้ต่อจาก หลุยส์ ซัวเรซ ปี2013-14, สตีเว่น เจอร์ราร์ด ปี2005-06, จอห์น บาร์นส์ ปี1987-88, เอียน รัช ปี1983-84, เคนนี่ ดัลกลิช ปี1982-83 และเทอร์รี่ แม็คเดอร์ม็อตต์ ปี1979-80 และยังเป็นแข้งแอฟริกันคนที่สองต่อจาก ริยาด มาห์เรซ ยอดปีกชาวแอลจีเรีย ที่พึงได้รับรางวัลเมื่อปี 2015-16 ที่ผ่านมา



วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : โคตรหัวเสีย! โมราต้าหงุดหงิดหลังโดนเปลียนตัว


ข่าวกีฬา : โคตรหัวเสีย! โมราต้าหงุดหงิดหลังโดนเปลียนตัว



อัลบาโร่ โมราต้า หัวหอก เชลซี โมโหสุดขีดตอนถูกเปลี่ยนตัวในเกมที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-1 แต่เจ้าตัวก็ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อย




    อัลบาโร่ โมราต้า ยอดกองหน้าดาวยิงชาวสแปนิชของ เชลซี ได้ออกอาการหงุดหงิดสุดๆ หลังโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในเกมลีก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ตัวต้นสังกัดบุกไปเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ด้วยผลบอลสด 2-1 ถึงสนาม เทิร์ฟ มัวร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมานี่เอง

    โมราต้า นั้นไม่สามารถส่งบอลเข้าไปนอนในก้นตาข่ายได้เลยทั้งที่มีโอกาสสวยๆ มากอยู่บ้าง จนสุดท้ายแล้ว อันโตนิโอ คอนเต้ ยอดผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนได้ตัดสินใจเปลี่ยนเขาออกจากสนามในนาทีที่ 71 โดยที่เอาตัว เอแด็น อาซาร์ ถูกส่งลงไปเล่นแทนเวลาต่อ

    ทั้งนี้แล้ว ในตอนที่เดินออกจากสนามมานั้น อดีตแข้งของทีมใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ออกอาการหัวเสียแบบสุดๆ จนถึงขนาดตวาดใส่คนที่อยู่บนอัฒจันทร์ ก่อนที่จะขว้างของลงไปกับพื้นตอนอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรอง จนทำให้ตัว เชส ฟาเบรกาส กองกลางเพื่อนร่วมชาติได้เข้ามาช่วยปลอบ


    หลังจากจบการแข่งขันไปแล้วนั้น แข้งวัย 25 ปี ก็ออกมาขอโทษกับพฤติกรรมของตัวเองผ่านทาง ทวิตเตอร์ เครือข่ายsสังคมออนไลน์ชื่อดังทันที "นี่เป็น 3 แต้มที่สำคัญสำหรับเรา การชนะถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อลงเล่นเกมวันอาทิตย์นี้ (เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศกับ เซาธ์แฮมป์ตัน) ผมอยากขอโทษกับปฏิกิริยาของผมในตอนที่ผมถูกเปลี่ยนตัวมาอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรอง เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเล่นได้แย่ ผมก็จะโมโหตัวเองมากๆ"


วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา: หวั่นใจสะแล้ว! คอนเต้รับกลัวแมนซิตี้ครองเจ้าลีคผู้ดี



ข่าวกีฬา: หวั่นใจสะแล้ว! คอนเต้รับกลัวแมนซิตี้ครองเจ้าลีคผู้ดี



อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ เชลซี ร่วมแสดงความยินดีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกประจำซีซั่นนี้ พร้อมรับหวาดกลัว "เรือใบสีฟ้า" จะครอบความเป็นเจ้าลูกหนังลีกอังกฤษ เนื่องจากมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และกล้าลงทุนเพื่อสานต่อความสำเร็จ




 อันโตนิโอ คอนเต้ ยอดผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของทีม เชลซี สโมสรดังยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับตนนั้นหวาดหวั่นใจว่า ยอดทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะครองความเป็นเจ้าลูกหนังเมืองผู้ดีไปอีกนานหลายปีเลยทีเดียว หลังเพิ่งผงาดคว้าแชมป์ลีกประจำฤดูกาล 2017-18 พร้อมกับทั้งโชว์ฟอร์มการเล่นที่สุดยอด

    "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์ลีกอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์เด็ดด้วยการแพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-1 คาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดย คอนเต้ ร่วมยินดีที่ แมนฯ ซิตี้ ประสบความสำเร็จแต่ขณะเดียวกันก็กลัวว่าจะไม่มีใครคว่ำทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้


  นายใหญ่เลือดมะกะโรนี กล่าวว่า "พวกเขาครอบครองแชมป์ในฤดูกาลนี้ และผมคิดว่ามันถูกต้องแล้วที่ต้องการคำชื่นชม ลีกนี้ไม่ใช่ง่ายๆ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้แชมป์ แต่แนวทางที่พวกเขาคว้าแชมป์มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากๆ พวกเขาทำงานได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้ ทั้งในและนอกสนาม"

    "แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่สามารถครอบครองความยิ่งใหญ่ในลีกอย่างต่อเนื่อง และคว้าแชมป์ ไม่ใช่แค่ในอังกฤษเท่านั้น แต่ยังรวมทั้งการสู้เพื่อแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นไปได้ที่พวกเขาจะทำได้แบบนี้ในช่วงเวลานี้ พวกเขาเป็นสโมสรที่แข็งแกร่งมากๆ พกวเขามีขุมกำลังที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และมีนักเตะชั้นยอด พวกเขาพร้อมลงทุนเพื่อพัฒนาทีม มีหลายๆ อย่างมันอยู่ถูกที่ถูกเวลา" คอนเต้ ระบุ

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา:กล้าก็มาเลย! แมนยูขอเพียง 43ลป. พร้อมปล่อยมาร์กซิยาล


ข่าวกีฬา:กล้าก็มาเลย! แมนยูขอเพียง 43ลป. พร้อมปล่อยมาร์กซิยาล


สื่อของทางอิตาลี ตีข่าวว่า ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมจะยกเครื่องครั้งใหญ่ โดยการยินดีไม่มีปัญหาหากสโมสรไหนก็ตามที่กล้าทุ่มเงินจำนวนนึง 43 ล้านปอนด์ และเป็นค่าตัวของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ดาวยิงเลือดน้ำหอม โดยงานนี้ทาง "ผีแดง" ได้ยินดีปล่อยตัวเพราะนักเตะเหลือสัญญาแค่ปีเดียว ดีกว่าจะปล่อยให้ราคาถูกหรือเสียไปฟรีๆ




    ยอดทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรในศึกใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมขาย เจ้าตัวอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยอดกองหน้าของฝรั่งเศส  ถ้าหากได้รับข้อเสนอจำนวน 43 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1,935 ล้านบาท มาจากการการเปิดเผยของ กัลโช่แมร์คาโต้ สื่อดังในประเทศอิตาลี


    ทัพ "ผีแดง" เตรียมยกเครื่องครั้งใหญ่หลังทำผลงานไม่ได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ในฤดูกาล 2017-18 โดยได้มีรายงานว่า โชซ่ มูรินโญ่ ยอดผู้จัดการทีม พร้อมที่จะปล่อยตัวนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการสร้างทีมของเขาออกไปให้เร็วที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของเจ้าตัว มาร์กซิยาล ติดอยู่ด้วย


    ในขณะเดียวกันทาง มาร์กซิยาล ก็พร้อมที่จากอำลาออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เช่นกัน เนื่องจากเขาไม่ค่อยได้รับอย่างมีโอกาสลงเล่นตัวจริง และด้วยเหตุนี้ทำให้มีหลายสโมสรจับจ้องสถานการณ์ของนักเตะอย่างใกล้ชิดกันทั้ง "ม้าลาย" ยูเวนตุส, "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน และนวมไปถึงทีมใหญ่อย่าง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ก็เช่นกัน


    ทั้งนี้ ตัวกองหน้าเลือดเฟร้นช์ วัย 22 ปีเอง ก็ได้ลงเล่นตัวจริงเพียง 16 เกมให้ "ผีแดง" ในซีซั่นนี้ เหลือสัญญาอีกปีสุดท้ายในฤดูกาลหน้า นั่นจึงเป็นคงเป็นเหตุให้ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เล็งจะขายนักเตะออกไปเพื่อหลีกเลียงการเสียเขาในราคาที่ต่ำเกินเหตุหรือแบบฟรีเอเย่นต์ในภายหลังนั้นเอง


วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ม้าลายเกือบสร้างปาฏิหาริย์! นำ3-0ก่อนโดนจุดโทษ โด้ซัดพาชุดขาวเข้ารอบ 4ทีม



ข่าวกีฬา : ม้าลายเกือบสร้างปาฏิหาริย์! นำ3-0ก่อนโดนจุดโทษ โด้ซัดพาชุดขาวเข้ารอบ 4ทีม




 แชมป์เก่า 2สมัยติดอย่าง "ราชันชุดขาว" ก็มีเสียววูบหวิดเกือบตกรอบคารังเลย หลังจาก ยูเวนตุส หวิดสร้างปาฏิหาริย์ได้เหมือนโรม่านำเมื่อคือ ได้ถึง 3-0 ก่อนเจ้าถิ่นมาจะมาได้จุดโทษช่วงทดเจ็บทำเอา บุฟฟ่อน ตบะแตกหัวร้อนโดนไล่ออก และเป็น โรนัลโด้ ได้ซัดดับฝันม้าลายให้ทีมพ่ายแบบมีสกอร์ 1-3 ทะลุเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกไปได้อีกสมัยด้วยประตูรวมสุดหืดด้วยผลบอลสด 4-3 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ8ทีมนัดที่สอง เมื่อคืนสดๆวันพุธที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมานั้นเอง 


สนาม : เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (มาดริด, สเปน)

    ยอดทีมเรอัล มาดริด แชมป์เก่าสองสมัยหลังสุด ยอดทีมจากลา ลีกา สเปน ที่ได้เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ตอนรับการมาเยือนของ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยนัดที่ 2 หลังจากนัดแรกราชันชุดขาวได้บุกไปถล่มขาดลอย ถึง 3-0 ที่บ้านของยูเว่นั้นเอง

    ทางยอดผู้จัดการ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ของยอดทีม เรอัล มาดริด ไม่มีแข้ง เซร์คิโอ รามอส ให้ปราการหลังกัปตันทีมเนื่องจาก ติดโทษแบนไป 1 นัด หลังจากสะสมใบเหลืองจนครบตามโควต้า เขาส่ง เฆซุส บาเยโฆ่ จึงทำให้กองหลังดาวรุ่งลงสนามเคียงข้าง ราฟาแอล วาราน โดยได้มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นผู้นำดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ ลีก และได้ทาง แกเร็ธ เบล ยืนกองหน้าคู่กันเลยทีเดียว

    ส่วน มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือของยูเว่ขาด เปาโล ดีบาล่า กับ โรดรีโก้ เบนตานชูร์ ต่างก็ติดโทษแบน เขาส่ง ซามี่ เคดิร่า, มิราเล็ม ปานิช, แบลส มาตุยดี้ นำทัพแดนกลาง


    เปิดฉากมาได้ยังไม่ถึง 2 นาที ก็กลายเป็น ยูเวนตุส ที่ได้ประตูขึ้นนำมาอย่างรวดเร็ว 1-0 ดั๊กลาส คอสต้า แย่งบอลได้มาก่อนไหลออกขวาให้กับ เคดิร่า หยอดไปเสาสองให้กับ มานด์ซูคิช โขกโล่งๆเข้าไปง่ายๆไม่เหลือ





เกมรุกของ "ม้าลาย" เริ่มได้ใจบุกขึ้นมาเป็นระลอก นาที 7 คอสต้า กระชากมาถึงเส้นหลังครอสเข้าระยะ 6 หลา แต่บอลไปโดน นาบาส พุ่งออกมาตัดก่อนรับหลุดมาเข้าทาง อิกวาอิน ตามซ้ำไปติดบล็อก

    สองนาทีถัดมานี้ ทางเจ้าถิ่นได้ลุ้นจังหวะแรกบ้างจาก  เบล เลี้ยงแหวกเข้าไปแนวรับของทีมเยือนเข้าไปยิงเสาแรกแต่บอลไปโดน บุฟฟ่อน เซฟออกมา แม้ว่าเบลจะตามไปตอกส้นด้วยซ้ายแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างได้ลุ้นนิดหน่อย

    นาที 14 ชุดขาวเองก็พลาดไล่ตีเสมอ หลัง โรนัลโด้ ที่เลี้ยงจี้สับขาหลอกก่อนอัดด้วยขวาไปติดเซฟของตัว บุฟฟ่อน แม้ว่าบอลจะมาเข้าทาง ตัวอีสโก้ ตามซ้ำเข้าไปแล้วแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปสะก่อน

    เจ้าถิ่นเริ่มครองบอลได้ต่อเนื่อง นาที 30 ได้ลุ้นอีกหนจาก มาร์เชโล่ ที่วิ่งมาวอลเลย์ตามน้ำด้วยซ้ายบอลพุ่งเหินคานไปแบบหวาดเสียว

    แชมป์เก่าโหมบดหนักเรื่อยๆ อีกสามนาทีถัดมา โรนัลโด้ แทงบอลทะลุช่องให้ อีสโก้ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนยิงไปติดแขนซ้ายของบุฟฟ่อน

    นาที 37 เจ้าถิ่นบุกเพลินเจอทีเด็ดของ "ม้าลาย" โต้ขึ้นมาทางขวาเหมือนเคย ลิคสไตน์เนอร์ แบ็กจอมบุกที่ลงมาแทน เด ชีโย่ ครอสไปสุดแม่นที่เสาสอง มานด์ซูคิช เจ้าเดิมเทกตัวเหนือกว่าการ์บาฆาลก่อนโขกบอลเสียบมุมเข้าไป ยูเวนตุส บุกมานำ 2-0 เป็นประตูที่ 4 ของเขาใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเป็นลูกที่สองของดาวยิงทีมชาติโครเอเชียในเกมนี้

    ในช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่นก็เกือบได้ประตูไข่แตก หลังที่ วาราน เทกตัวโขกจากลูกฟรีคิกแต่ว่าบอลไปโดนปลายนิ้ว บุฟฟ่อน เองก่อนจะชนคานไปแบบน่าเสียดาย จนจบครึ่งแรก "ม้าลาย" บุกมานำ "ราชันชุดขาว" 2-0

    ครึ่งหลังทาง ซีเนดีน ซีดาน ยอดกุนซือของเรอัล มาดริดแก้เกมได้เปลี่ยนผู้เล่น 2 คนรวดในนาที 46 ลูกัส บาซเกซ และ มาร์โก อาเซนซิโอ ลงสนามมา โดยได้เปลี่ยนเอา กาเซมีโร่ และ แกเร็ธ เบล ออกจากสนาม ตามลำดับนั้นเอง

    ในนาที 61 ดั๊กลาส คอสต้า ก็ได้โยนบอลจากปีกขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ทางเจ้า เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารของราชันชุดขาวรับบอลหลุดมือไปแบบ แบลส มาตุยดี้ ให้จัดการยิงเท้าซ้ายจ่อๆ เข้าประตู ยูเวนตุสนำได้ห่าง 3-0 นับว่าเป็นลูกแรกของเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้

    เจ้าถิ่นน่าได้ประตูนาที 77 จากลูกยิงของ อีสโก้ แต่บอลไปแฉลบนักเตะยูเว่ ถากเสาออกไปอย่างหวุดหวิด




    โดยท้ายเกมได้บังเกิดดราม่า เมื่อมีทีมเยือนมาเสียจุดโทษให้ชุดขาว หลัง เบนาเตีย ก็วิ่งมาอัด ลูกัส บาสเกซ ด้านหลัง จึนเกิดผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ ซึ่งบุฟฟ่อนเองหัวร้อนไม่พอใจวิ่งเข้าไปต่อว่าก่อนโดนไล่ออกจากสนาม และเป็นทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดเข้าไปไม่เหลือให้ทีมตีไข่แตกเป็นทำประตูสำคัญได้สำเร็จ ก่อนที่จะจบเกมแม้ เรอัล มาดริด จะพ่าย ยูเวนตุส 1-3 แต่ว่าสกอร์รวมสองนัด ผ่านเข้าไปจึงเล่นในรอบตัดเชือกด้วยประตูรวม 4-3 นั้นเอง


วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : บาซ่าตกรอบ! โรม่าพลิกกด 3ลูก อเวย์โกลเข้ารอบตัดเชือกในรอบ34ปี



ข่าวกีฬา : บาซ่าตกรอบ! โรม่าพลิกกด 3ลูก อเวย์โกลเข้ารอบตัดเชือกในรอบ34ปี


เหลือเชื่อ! "หมาป่ากรุงโรม" โกงความตายจากเกมแรกที่บุกไปพ่ายที่คัมป์นู 1-4 ก่อนโหมรุกอย่างคลั่งรัวอดีตแชมป์รายการนี้ 5 สมัยอย่าง บาร์เซโลน่า 3-0 รวมผลสองนัด เสมอกัน 4-4 แต่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกด้วยกฎประตูทีมเยือน ซึ่งเป็นหนแรกในรอบ 34 ปี




(รวมสองนัดเสมอ 4-4 โรม่า เข้ารอบรองฯตามกฎประตูทีมเยือน)

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก (โรม, อิตาลี)

    โรม่า เป็นทีมดังแห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่ได้เปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ต้อนรับการมาเยือนของยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลา ลีกา สเปน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 หลังจากเกมแรกนั้น บาร์ซ่า ได้ชนะขาดลอย 4-1 ที่คัมป์ นูเมื่อสัปดารห์ที่ผ่านมา

    ยูเซปิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ กุนซือของโรม่าได้ รัดย่า นาอิงโกลัน ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวหลักหายเจ็บต้นขา ลงเป็นในสนามเคียงข้าง เควิน สตรอทมัน

    ส่วน ทางกุนซือเออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์ซ่าได้ส่ง ลีโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า ลงล่าตาข่ายร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ ยอดดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย

    ในเกมครึ่งแรก เวลาผ่านไปเพียงแค่ 6 นาที โรม่า นำด้วยผลบอลสด 1-0 อย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้าแล่บ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ กองกลาง กัปตันทีมได้โยนบอลยาวสวมงามจากวงกลมกลางสนามอย่างแม่นยำให้ เอดิน เชโก้ ดึงบอลลงด้วยเท้าขวา ก่อนดีดด้วยเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย นับเป็นประตูที่ 6 ในการเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 10 ของเขาในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

    ในนาที 25 เอดิน เชโก้ ที่เป็นกองหน้าเจ้าถิ่น สบโอกาสตะบันเท้าขวาไประยะ  20 หลา ที่เป็นบอลข้ามคาน

    กองเชียร์ที่เป็นเจ้าถิ่นที่เกือบจะได้เฮ ในนาที 36 อเลซานโดร ฟลอเรนซี่ จึงได้โยนจากปีกขวาไปที่เสาไกล เอดิน ทางเชโก้ พร้อมขึ้นโหม่งเผาขนไปติดทาง มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น ยอดนายทวารของบาร์ซ่า ปัดบอลออกนอกเส้นหลังไปอย่างน่าหวุดหวิดเลยทีเดียว

    จบครึ่งแรก โรม่านำ 1-0

    ครึ่งหลัง ในนาที 56 เคราร์ด ปีเก้ นั้นได้โดนใบเหลือง หลังจากไปดึง ตัวเชโก้ ล้มลงในกรอบเขตโทษ เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง ซึ่งผู้ตัดสินชาวฝรั่งเศสได้เป่าให้เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ยิงจุดโทษเท้าขวาเข้าตุงตาข่าย จากโรม่าขึ้นนำห่าง 2-0 ทั้งยังเป็นลูกแรกของเขาในการเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 8 ในซีซั่นนี้ด้วย

    นาที 68 ทางทีมหมาป่าแห่งกรุงโรมได้บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทาง เฟเดริโก้ ฟาซิโอ โยนจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปที่เสาสอง ดานิเอเล่ เด รอสซี่ โขก 6 หลา ไม่มันเข้ากรอบ

    นาที 74 ทางบาร์ซ่า ได้บอลบ้าง อันเดรส อิเนียสต้า ยอดกัปตันของทีมผ่านบอลให้ ลีโอเนล เมสซี่ ยิงเท้าซ้ายระยะ 20 หลาไปเข้าซองของ อลิสซอน

    ห้านาทีต่อมาทาง โรม่า เองก็เกือบได้ประตูเพิ่ม ฟลอเรนซี่ โยนจากปีกขวาไปที่เสาสอง สเตฟาน เอล ชาราวี โดยตัวสำรองยิงเท้าซ้ายจ่อๆ ทว่า มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น ก็ปัดบอลไปได้อย่างยอดเยี่ยม

   และแล้วในนาที 82 โรม่า ก็ได้ขึ้นนำห่าง 3-0 เกนกิซ อึนแดร์ จนเปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาไปเข้าหัว คอสตาส มาโนลาส โหม่งที่เสาแรกตุงตาข่ายเลยทีเดียว





    จบเกมไป โรม่า ต้อนรับ บาร์เซโลน่าด้วยสกอ 3-0 และเมื่อรวมผล 2 นัด ทั้งสองทีมเสมอกัน 4-4 และเป็น โรม่า ชนะด้วยกฏประตูทีมเยือน ผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ส่วน บาร์ซ่า กระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างเหลือเชื่อ





 
วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ทีมผมมันไม่ธรรมดา!เป๊บเร้าแมนซิตี้จะโชว์ฟอร์มพลิกชนะลิเวอร์พลู



ข่าวกีฬา : ทีมผมมันไม่ธรรมดา!เป๊บเร้าแมนซิตี้จะโชว์ฟอร์มพลิกชนะลิเวอร์พลู



ทีมของผมน่ะ ไม่ธรรมดาหรอก! ทางเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือ "เรือใบสีฟ้า" ได้เริ่มปลุกเร้าแข้งให้โชว์ฟอร์มได้สุดยอดออกมาให้ได้เพื่อพลิกแมทซ์นรก เขี่ย ยอดทีมหงส์แดงดีกรี แชมป์ 5 สมัย ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้จงได้เลย บอกต้องมองโลกแง่บวกไว้ ยังมีอีก 90 นาทีอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ

      โจเซป กวาร์ดิโอล่า ยอดผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าที่แชมพรีเมียร์ลีกได้กระตุ้นลูกทีมต้องเล่นอย่างสมบูรณ์แบบเลยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ ในนัด 2 ที่จะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับมือ ลิเวอร์พูล วันอังคารที่ 10 เมษายนคืนนี้ หลังจากที่พลาดท่าบุกไปแพ้นัดแรก 0-3 ที่
สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันพุธที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา โดยยังคงเชื่อมั่นเสมอในทีม"ไม่ธรรมดา" ของตัวเอง




-----------------------------

    นายใหญ่ "เรือใบสีฟ้า" ที่เพิ่งพาทีมแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้านด้วยผลบอลสด 2-3 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์" เมื่อวันเสาร์ที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ไปด้วยอีกนัด กล่าวว่า "หนทางเดียวที่จะเล่นฟุตบอลได้ดีก็คือมองในแง่บวก เพื่อที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ คุณต้องทำให้มันเป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ, สร้างโอกาสให้ได้มากๆ และพลาดโอกาสให้น้อยๆ เข้าไว้ เมื่อเราฉวยโอกาสได้แล้ว เราจะต้องป้องกันให้ดีๆ ด้วย"

    "เรามีเวลา 90 นาที และอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ทั้งหมดที่เราต้องทำคือพยายาม เรามี 90 นาทีบวกช่วงต่อเวลาพิเศษ และเราเคยแสดงให้เห็นในปีนี้มาแล้ว แม้กระทั่งเกมล่าสุดว่าเราสามารถสร้างโอกาสได้อย่างมากมายในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้าย"

    เมื่อได้ถูกถามว่าสภาพจิตใจของลูกทีมเป็นอย่างไรบ้างแล้ว หลังจากแพ้ไป 2 นัดติดต่อกันในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กวาร์ดิโอล่า ได้ตอบว่า "ผมไม่รู้ แต่ถ้าหากเรารับมือในแง่จิตวิทยาไม่ได้ มันก็จะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับอนาคต มันคือการทดนั้นเอง
สอบ ฟุตบอลก็เหมือนชีวิตนั้นแหละ ซึ่งก็คือความท้าทาย ทีมของผมนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้วล่ะ"



----------------------------------
วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ทำใจไว้แล้ว คอนเต้ รับสภาพสิงห์บลูมีสิทธิ์หลุดท็อปโฟร์



ข่าวกีฬา :  ทำใจไว้แล้ว คอนเต้ รับสภาพสิงห์บลูมีสิทธิ์หลุดท็อปโฟร์


อันโตนิโอ คอนเต้ ยอดกุนซือเชลซี ดูเหมือนว่าจะรับสภาพกับโอกาสหลุดนอกวงโคจรท็อปโฟร์ หลังเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ดด้วยผลบอลสด 1-1 เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งชี้ทีมสร้างโอกาสได้มากมายแต่ก็เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ ทำให้ต้องเจ็บปวดไปแบบนี้




อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยอมรับสภาพกับโอกาสนำทีมติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ หลังทำได้เพียงเสมอ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา

    แม้ว่าเจ้าบ้านจะได้ครองเกมมากถึง 65 เปอร์เซนต์ พร้อมกับโอกาสยิงประตูมากมายถึง 23 ครั้ง แต่ตรงกรอบเพียง 6 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้แล้ว อัลบาโร่ โมราต้า ทำให้สามารถส่งบอกเข้าไปซุกก้นตาข่าย 2 ครั้งแต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากยังเป็นลูกล้ำหน้า รวมทั้งจังหวะที่ วิลเลี่ยน เองก็พลาดทำประตูแบบไม่น่าพลาดด้วย


คอนเต้ แสดงความเห็นหลังจบเกมว่า "ผมคิดว่าเกมนี้เราสามารถมองเห็นฤดูกาลของเราได้ทันทีว่าซีซั่นนี้ของเราเป็นยังไง เราสามารถโอกาสได้มากมาย แต่เราสามารถเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นเป็นประตูได้ เราขาดความเฉียบคม มันน่าผิดหวงมากๆ เพราะเราครองเกมตลอด และสร้างโอกาสได้มากมายที่จะทำประตู"

    "แต่เมื่อคุณยิงประตูไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะชนะ เกมนี้อธิบายทุกอย่างสำหรับฤดูกาลของเราได้เป็นอย่างดี เรามีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่หลายครั้งที่เราเล่นได้ดีและแพ้ หรือเสมอ รวมทั้งยังมีอีกหลายครั้งที่เราโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม แต่ไม่ชนะ"




    "(อัลบาโร่) โมราต้า ยิงได้ 2 ประตูแต่ล้ำหน้า เขาไม่ได้ขาดความมั่นใจ และเราสร้าโอกาสได้มากพอทั้งจาก (เอแด็น) อาซาร์, วิลเลี่ยน และ โมราต้า ในการทำประตู แต่ผมขอย้ำอีกครั้ง เกมนี้มันอธิบายทุกอย่างสำหรับฤดูกาลของเรา"  




   "นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และเราต้องมีการพัฒนาให้มากยิ่งกว่านี้ เมื่อคุณอยู่ในอันดับแบบนี้บนตารางลีก มันหมายความว่าคุณมีปัญหาแล้ว สุดท้ายเราต้องพูดคุยเกี่ยวกับผลเสมอ และไม่ชนะ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เราผิดหวัง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เราต้องอยู่ในอันดับนี้เพราะเราทิ้งโอกาสดีๆ ที่จะได้ 3 คะแนนไป"



    "นี่คือเรื่องจริง เราต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เราต้องชนะในเกมนี้ แทนที่เราจะมาพูดถึงผลเสมอ คุณจำเป็นต้องยิงประตูที่สอง, สาม และสี่ ให้ได้ ท็อปโฟร์ ? ท็อปโฟร์ ? (หัวเราะ) ผมไม่รู้หรอกนะ ผมไม่รู้จริงๆ เราคงจะต้องพยายามทำผลงานของเราให้ดีที่สุดเสมอ เราอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ว่าผมไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นได้เสมอ" คอนเต้ กล่าว






วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ใครมันจะคิด! คล็อปป์รับลิเวอร์พลู ชนะ แมนซิตี้ ผลเกินคาด


ข่าวกีฬา : ใครมันจะคิด! คล็อปป์รับลิเวอร์พลู ชนะ แมนซิตี้ ผลเกินคาด 


ผู้จัดการ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือของทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับตนไม่คาดฝันเลยกับการเห็นทีมเปิดบ้านอัดทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยผลบอลสด 3-0 แต่รับลูกทีมเล่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในช่วงครึ่งหลัง พร้อมแย้ม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงคนเก่ง เจ็บไม่หนักเดียวก็หาย




    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับว่า ตัวเขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าทีมจะได้ชัยชนะสวยหรูแบบนี้ หลังจากที่ "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ พิชิต แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองวชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา

    ทีมลิเวอร์พูล ได้ทั้งสามประตูในช่วงครึ่งแรกมาจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในนาทีที่ 12 ตามมาด้วย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ในนาทีที่ 21 และปิดท้ายด้วย ซาดิโอ มาเน่ ในนาทีที่ 31 ก่อนที่จะเล่นแบบประคองตัวในครึ่งหลัง และเก็บชัยด้วยสกอร์ 3-0 ซึ่งก็ถือความได้เปรียบอย่างมหาศาลก่อนออกไปเตะเกมเลกสองที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม บ้าน แมนซิ ในวันอังคารที่ 10 เมษายนนี้ อาทิตหน้านั้นเอง 




"ผลการแข่งขันที่ออกมามันไม่ใช่สิ่งที่เราคาดคิดมาก่อน แต่เราจำเป็นต้องเล่นบอลกันให้มากกว่านี้ในช่วงครึ่งหลัง พวกเขามีโอกาสไม่มากก็จริง แต่เราเล่นกับบอลไม่ค่อยได้ ส่วนครึ่งแรกมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุดๆ เลย เกมฟุตบอลมันต้องเป็นแบบนี้แหละ"

    "เราทราบดีถึงความยอดเยี่ยมของ ซิตี้ แต่เราก็รู้ศักยภาพของทีมเราเช่นกัน ถ้าเราคอนโทรลเกมได้ดีกว่านี้ และไม่เสียบอลง่ายๆ ในลีกเราคงจะเข้าใกล้พวกเขาได้มากกว่านี้ เรารับมือการผ่านบอลของพวกเขาได้ดี แต่ผมอยากเห็นทีมเราเล่นกับบอลให้ดีกว่านี้ ผมไม่ได้โกรธนะ"

    "วันนี้เราเสียผู้เล่นไปหนึ่งคนจากปัญหาบาดเจ็บ (ซาลาห์) ส่วนกัปตันทีม (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน) ก็ได้รับใบเหลือง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่รู้สึกไม่ค่อยดีนัก โม บอกกับผมแล้วว่า เขารู้สึกดีอยู่ แต่เรื่องนี้เราจำเป็นต้องเช็คดูอักที" ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 50 ปี กล่าว 




วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : ลิเวอร์พูล vs แมนซิตี้ UCLรอบ 8 ทีม สดPPTVคืนนี้


ข่าวกีฬา : ลิเวอร์พูล  vs แมนซิตี้ UCLรอบ 8 ทีม สดPPTVคืนนี้


PPTV HD ถ่ายทอดสดคู่เดือด "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำเคลื่อนพลปิดสกอร์ เกมรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ชวดลงสนามเนื่องจากบาดเจ็บหายไม่ทัน ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก) คืนวันพุธที่ 4 เม.ย. คืนนี้ ถ่ายทอดสด : ทาง PPTV HD และ beIN SPORTS 1, เวลาเดิม : 01.45 น.




สนาม : แอนฟิลด์
    "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมผ่านด่านปอร์โต้มาได้แบบสบายๆ ในรอบที่แล้ว


    ด้านความพร้อมของเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่บุกไปเฉือนชนะคริสตัล พาเลซ 2-1

    ซึ่งเช่นเดียวกับ โจ โกเมซ กองหลังดาวรุ่งที่พึงได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหลังจากการลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ รวมทั้ง โฌแอล มาติป เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ก็ได้เจ็บต้นขา ต้องไปเข้ารับการผ่าตัด และยังต้องรอเช็กฟิต เอ็มเร่ ชาน มิดฟิลด์คนนี้ที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บที่หลังอยู่ด้วย
    ในรายของ เดยัน ลอฟเรน กองหลังโครแอตที่เป็นตัวสำรองในเกมล่าสุด หลังหายจากอาการบาดเจ็บ น่าจะได้ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้

 
 "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ พาทีมปราบ เอฟซี บาเซิ่ลมาได้ แบบสบายๆ เช่นกัน



    ในรอบที่แล้วนั้น สภาพทีมนี้ เป๊ปยังต้องรอทดสอบความฟิตอยู่สำหรับพวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนทั้ง ฟาเบียง เดลฟ์ (ไม่สมบูรณ์) และ เบนฌาแม็ง เมนดี้ (เข่า) ส่วน จอห์น สโตน ที่พลาดเกมลีกล่าสุด ที่บุกไปปราบเอฟเวอร์ตัน 3-1 เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือน จะกลับมาลงช่วยทีมในเกมนี้ได้

    ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เป๊ป ออกมายืนยันแล้ว  เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ที่มีอาการบาดเจ็บเข่าจะไม่มีชื่อร่วมทีมนัดนี้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง
    ทีมลิเวอร์พูลมี  ลอริส คาริอุส, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ เฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่

    ทีมแมน ซิตี้มี เอแดร์ซอน โมราเอส,ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส และ ลีรอย ซาเน่



ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ



- ยังถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองทีมในถ้วยยุโรปนี้ด้วย แต่ถ้าหากเป็นในเกมที่อังกฤษเจอกัน 178 หนแล้ว ซึ่งทาง ลิเวอร์พูล ชนะ 87, เสมอ 46 และ แพ้ 45
- นี่เป็นครั้งที่ 17 ที่ทั้งสองทีมจากอังกฤษมาเจอกันในถ้วยยุโรป

- ลิเวอร์พูล ยังชนะ 9 จาก 13 หนก่อนหน้านี้ที่เตะในศึกยูโรเปี้ยน คัพ โดยรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่หน
ล่าสุดนี้เจอกับทีมเชลซี ในปี 2009 แพ้ด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-7 แต่ว่าตอนปี 2008 เคยเจอกับทีมจากอังกฤษอย่างอาร์เซน่อล พวกเขาเอาชนะด้วยสกอร์รวมผลบอลสด 5-3

- ลิเวอร์พูลเคยเล่นรอบน็อกเอาต์ 2 นัดแล้วเจอกับทีมจากอังกฤษ โดยมีสถิติชนะ 5, และแพ้ 3 ซึ่งหนล่าสุดคือชนะปีศาจแดงในยูโรปา ลีก ไปแล้วในรอบ 16 ทีม ปี 2015/16 ด้วยผลสกอร์รวม 2 นัด 3-1

- ในยูโรเปี้ยน คัพ นั้นหงส์แดงเคยเจอกับทีมจากอังกฤษมาแล้ว 6 ครั้ง เริ่มที่ฟอเรสต์  1 ครั้ง, เชลซี  4 ครั้ง และ อาร์เซน่อลอีก 1 ครั้ง

- สถิติที่ได้เจอกับทีมจากอังกฤษในยุโรปคือ ชนะ 5, เสมอ 8, แพ้ 5 ส่วนถ้าหากเล่นในบ้านคือ ชนะ 5, เสมอ 3 และ แพ้อีก 1 ซึ่งก็คือแพ้ต่อเชลซี ปี 2009 นั้นเอง

- ทีมลิเวอร์พูลไม่แพ้ใน 14 เกมหลังสุดเลยที่บ้านศึกยูโรเปี้ยน โดยเป็นการเอาชนะ 9, เสมอ 5 นับแต่แพ้เรอัล มาดริด ไปเมื่อ 22 ตุลาคม 2014 และที่สำคัญก่อนจะมาเสมอกับเซบีย่า ที่แอนฟิลด์ ก่อนหน้านั้นแล้ว 6 เกมยุโรปที่บ้านพวกเขาชนะรวดเลยทีเดียว

- ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่ถือเป็นเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ครั้งที่สองของพวกเขา

- ในอดีตนั้นเรือใบเคยเจอกับทีมจากอังกฤษหนึ่งครั้งเป็นศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ มาแล้วในปี 1971 รอบรองชนะเลิศ แต่ทาง ซิตี้แพ้ให้เชลซีทั้งสองเกม 0-1

- 5 เกมแรกสำหรับถ้วยนี้ ซิตี้ได้ชนะรวด ก่อนมาแพ้ชัคตาร์ โดเนตส์ค 1-2 เพราะว่าตัวเองเข้ารอบไปแล้ว ซึ่งในเกมเยือนรอบแรก พวกเขาได้ชนะเฟเยนูร์ด 4-0 และ ชนะนาโปลี 4-2 ส่วนรอบ 16 ทีม ก็ยังชนะบาเซิ่ล 4-0 ด้วยเช่นกัน

- ซิตี้ตอนนี้จะชนะแค่ 4 จาก 11 เกมหลังยูโรเปี้ยน ซึ่ง เสมอ 3 และ แพ้ 4

- ช่วงที่เขาได้อยู่เยอรมัน เป๊ป กับ คล็อปป์ นั้นเจอกันบ่อยในระหว่างปี 2013-15 โดยตัวเป๊ปชนะ 4 ส่วนคล็อปป์ชนะ 3 หนในทุกรายการเลยทีเดียว

- ลิเวอร์พูลไม่แพ้ 17 เกมเหย้าเมื่อเจอกับเรือใบนับทุกรายการ

- หงส์แดงไม่แพ้ใน 12 เกมหลังสุดยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

- หงส์แดงเองไม่เสียประตูเลย 5 จาก 6 เกมหลังสุดของรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

- มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ลูกเลยทีเดียว ใน 5 จาก 6 เกมหลังสุดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของทางซิตี้

- ส่วนการทำทีมในอังกฤษนั้น ทางลิเวอร์พูลของคล็อปป์เองก็ชนะเกมเหย้าทั้งสองหนที่เจอกับซิตี้ และเสมอ 1 กับ แพ้ 1 ตอนไปเยือนนั้นเอง

- โม ซาลาห์เอง ก็ยิงไปแล้ว 29 ลูก ในพรีเมียร์ และ 37 ลูก รวมทุกรายการ โดยเขา ยิง 16 เม็ด จาก 14 เกมหลังไปแล้วให้หงส์แดง

- ฟอร์มของหงส์แดงตอนนี้ชนะไปแค่ 7 จาก 12 เกม โดยแพ้ไป 3 ส่วนทางซิตี้ยิงไป 58 ลูก นอกจากเกมเยือน แล้วเสียแค่ 20 เม็ด


ข่าวกีฬา : ทำลายสถิติอีกแล้ว โด้ ยิง 10 นัดติด ถ้วย UCL



ข่าวกีฬา : ทำลายสถิติอีกแล้ว โด้ ยิง 10 นัดติด ถ้วย UCL 



เอาอีกแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ เรอัล มาดริด ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองอีกแล้ว เมื่อล่าสุดได้ทำสถิติยิง 10 เกมติดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ขึ้นแซงหน้าสถิติเดิมที่เป็นของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ลงไปได้




    คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดยอดกองหน้าชาวโปรตุกีสของทีม เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่ใน ลา ลีกา สเปน ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำประตูได้ถึง 10 เกมติดต่อกัน หลังทำ 2 ประตู  แล้วช่วยต้นสังกัดบุกไปเอาชนะ ยูเวนตุสด้วยผลบอลสด 3-0 ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา


  สำหรับสถิติยิง 10 นัดติดของ โรนัลโด้ นั้น นับตั้งแต่เกมรอบชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ที่เจ้าตัวทำ 2 ตุงช่วยทีมอัด ยูเว่ 4-1 จากนั้นในฤดูกาลนี้ก็ทำประตูใส่ อาโปแอล (2 เกม), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (2 เกม), ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (2 เกม) ต่อด้วยทั้งสองเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ดวลกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และล่าสุดในเกมนี้กับ ยูเว่



  ทั้งนี้ โดยสถิติเดิมคง 9 เกมติดเป็นของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งอดีตหัวหอกทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเอง 


วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561

ข่าวกีฬา : 5 ประเด็น ก่อนไปชม "ยูเวนตุส" เปิดบ้านต้อนรับ "เรอัลมาดริด"



ข่าวกีฬา : 5 ประเด็น ก่อนไปชม "ยูเวนตุส" เปิดบ้านต้อนรับ "เรอัลมาดริด" 





เตรียมตัวเปิดฉากแล้วสำหรับ ศึกคู่บิ๊กแมตช์ในค่ำคืนนี้ รอบ 8 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เปิดนัดแรก ที่จะฟาดแข้งคืนนี้พร้อมคือยัง เวลา 01.45 น. โดย ทีมยูเวนตุส จะได้เริ่มก่อนเปิดสนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน ของ แชมป์เก่า2ปีติด อย่าง เรอัล มาดริด

วันนี้เราได้รวบรวม 5 ประเด็นน่าสนใจก่อนเกมมา จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1.ม้าลายไม่เคยพลาดท่าให้กับชุดขาวในรอบน็อกเอาท์





สื่อชื่อดังอย่างสำนักอ็อปต้า ได้มีการเผยว่า ยูเวนตุส ไม่เคยแพ้ให้กับ เรอัลมาดริด เลยแม้แต่ครั้งเดียว ในการพบกันในรอบน็อกเอาท์ ไป-กลับถึง 4 ครั้งเลยทีเดียว ทั้งไม่รวมรอบแบ่งกลุ่มและนัดชิงชนะเลิศ และสามารถก็ได้ผ่านเข้ารอบไปได้ทุกครั้ง ต้องมาลุ้นกันว่าเจ้าม้าลาย จะทำได้เหมือนเดิมอีกหรือไม่

2.เปาโล ดีบาล่า กลับมาแกร่งกว่าเดิม




  โดยหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บตรงบริเวณกล้ามเนื้อโคนขาขวา (Hamstring)และต้องยังต้องพักร่วมเดือน จึงทำให้พลาดในการแข่งขัน ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม ในนัดแรกที่พบกับทีมสเปอร์ส แต่เมื่อเจ้าตัวหายเจ็บกลับมาก็ได้คืนสู่ฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง โดยในนัด 2 ที่พบทีมสเปอร์ส ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ม้าลาย เอาชนะเจ้าไก่เดือยทองไปได้อย่างมัน และคว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมได้สำเร็จ โดยในฤดูกาลนี้ ยิงให้กับยูเว่ไปแล้วถึง 22 ประตู รวมทุกรายการเลยทีเดียว



3.โรนัลโด้ชอบยิงยูเว่






คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้นำเป็นดาวซัลโว ในศึก ชปล.นี้ โดย ณ ขณะนี้ เขายิงไปแล้วถึง 12 ประตู แต่ข่าวร้ายคือ เจ้าตัวชอบยิงทีมยูเวนตุสแบบสุดๆ หลังจาก 5 นัดหลังสุดที่พบกัน โด้ ยิง ม้าลาย ไปแล้วถึง 7 ประตู ก็เรียกได้ว่า ทำสกอร์ได้ทุกครั้งเลยที่เจ้าตัวได้พบกัน


4.จุดหมายเดียวกันจากแรงจูงใจที่แตกต่าง




 โดยทั้งสองทีมต้องทุ่มเทอย่างมากในรายการนี้่ ทั้งนี้ต่างมีแรงจูงใจอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาครอบครองให้ได้ในปีนี้ ฝั่งของราชันชุดขาวเองนั้น ฤดูกาลนี้ออกสตาร์ตในลีกได้ไม่ดีนัก ถึงทีมจะมาเร่งเครื่องตอนหลังแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า คงจะยากมากๆแล้ว เมื่อตามหลังบาร์เซโลน่า จ่าฝูงอยู่ถึง 13 แต้มเลยทีเดียว แถมยังไปตกรอบ โกปา เดล เรย์ไปเรียบร้อย หลังพลาดท่าอย่างน่าผิดหวัง ให้กับ เลกาเนส ทำให้ในฤดูกาลนี้ ทีมราชันชุดขาวเหลือลุ้นแชมป์รายการนี้เดียวเท่านั้น และพวกเขาจึงทุ่มสุดตัวอย่างแน่นอน




     ขณะที่ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ก็หวังอย่างมากในถ้วยนี้ โดยเฉพาะ จานลุยจิ บุฟฟอน ที่คว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการ ขาดก็แต่ แชมเปี้ยนส์ลีก เนี่ยแหละ เพราะฉะนั้น ยูเว่ก็คงสู้ไม่ถอยเช่นกัน



5.รีแมตช์นัดชิง 2017




ย้อนกลับไปเมื่อ วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2560 "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คว้าแชมป์สมัยที่ 12 สำเร็จพร้อมสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ หลัง ถล่ม "ม้าลาย" ยูเวนตุส ที่เหลือแค่ 10 ตัวช่วงท้ายเกม 4-1 และนัดนั้น ก็เป็น โรนัลโด้ ที่ซัดไป 2 เม็ด มาลุ้นกันว่า การกลับมาเจอกันอีกครั้ง ยูเว่จะล้างตาได้สำเร็จหรือไม่


ติดตามผลบอล ตารางแข่ง ทุกคู่ ได้ที่  : http://sport.sanook.com/program/