วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วิคราะห์บอล : หลังฟาลกัลคุมทีมผีแดงจาก 2 นัดที่ผ่านมารวมทั้งบีร็อดไม่แคร์แม้ไร้เงาซัวเรส



รูรั่วที่ทีมผีแดงรอให้ ฟาน กัล อุด


วิเคราะห์ผลบอล : ซึ่งหลังจากที่  จบเกมปรี-ซีซั่นที่อเมริกาไป 2 เกม ซึ่งเป็น 2 เกมแรกภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือคนใหม่ ซึ่งจากชัยชนะที่ประจักษ์แก่สายตาทั้งกองเชียร์และกองแช่งของทีม ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า มันแอบทำให้พวกเราหวังกันเล็กๆ อยู่เหมือนกัน แต่ปัญหามากมายก็ขยับเข้ามาใกล้เป็นเงาตามตัว

ซึ่งความผิดหวังจากเมื่อซีซั่นที่แล้วนั้น ทำให้การเข้ามาของ ฟาน กัล จะทำให้แฟนๆ “ปีศาจแดง” ต้องการเห็นแนวทางใหม่ๆ ความหวังใหม่ๆ ความคาดหวังที่ตามหลังมา จากความสำเร็จทั้งหมดที่นายทัพคนใหม่เคยคว้ามา จะกลายเป็นความกดดันที่สุมอยู่เบื้องหน้าห้องทำงานผู้จัดการทีมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

โดยที่ผ่านมานั้น ฟาน กัล เคยคุมทีมคว้าแชมป์ 

1.ลา ลีกา
2.บุนเดสลีกาและ 
3.เอเรดิวิซี่ มาแล้ว 

รวมถึงที่ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดที่พาทีมชาติฮอลแลนด์จบได้ถึงอันดับ 3 ในศึก ฟุตบอลโลก ยิ่งทำให้การเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมของเฮดโค้ชชาวดัตช์ คาดหวังถึงการกลับการเกรียงไกรอีกครั้งหลังต้องเจอความพังไม่เป็นท่าตามมาหลอกหลอนจากการคุมทีมของ เดวิด มอยส์


หลังจากที่ มอยส์ ได้ทำรอยด่างรอยใหญ่เอาไว้ทำให้ความคาดหวังของแฟนผีที่จะเห็น ฟาน กัล ปลุกผีขึ้นมาอีกครั้งยิ่งเพิ่มทวีคูณ

ซึ่งเพียงแค่ 2 เกมที่ได้นำลูกทีม “อสูรแดง” ลงสนาม ก็สร้างความตื่นตาให้กับกองเชียร์ทุกคนได้เห็น กองแช่งทุกคนต้องตะลึงกับทั้งการชนะ แอลเอ แกแล็กซี่ด้วยผลบอล ถึง 7-0 และขึ้นนำทีม โรม่า 3-0 ในครึ่งแรก ก่อนจะโดนไล่คืนมาในครึ่งหลัง 

แต่อย่าลืมว่านี่แค่เกมอุ่นเครื่อง ยังไม่มีใครเอาจริงกับการเจอทีมของ ฟาน กัล ยังต้องตามกันต่อไปเกมอีก 2 นัดที่เหลือที่จะลงเล่นในอเมริกากับ อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด คราวนี้คงจะได้เห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นมาบ้างก่อนที่ฤดูกาลจะเปิดว่าทีมของ “แอลวีจี” จะมีระบบแบบไหน การเล่นยังไง ปรัชญาอะไรที่ใช้ก้าวสู่ความสำเร็จ


กลับมาเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้จะไม่ให้แฟนผีคาดหวังนะเหรอ...จะบ้ารึไง

แต่ว่าอีกปัญหาหนึ่งที่ไม่ต้องรอและเห็นได้อย่างชัดเจนมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วคือแนวรับของทีม ที่เวลานี้อยู่ในขั้นวิกฤติยิ่งกว่าซีซั่นก่อนมาก เมื่อปีก่อนที่ มอยส์ คุมทีม แนวรับต้องหวุนเวียนผลัดเปลี่ยนสลับหน้ากันมายืนในแผงหลังกันจนไม่รู้ว่าใครกันแน่นที่เป็นนักเตะตัวจริง เพราะต่างเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เรื่อย จนไม่เคยอยู่ให้เลือกใช้แบบพร้อมหน้าเลย

พอมาถึงซีซั่นนี้ที่ เนมาย่า วิดิช ได้หมดสัญญาย้ายทีมไปอยู่กับทีม “งูใหญ่” เช่นเดียว ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ก็ไปอยู่กับทีม ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส เช่นกัน ส่วน ปาทริช เอวร่า ก็ย้ายไปอยู่กับทีม ยูเวนตุส อีก 

ซึ่งนั่นทำให้เวลานี้กองหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นมีเพียง 
1.ฟิล โจนส์
2.คริส สมอลลิ่ง
3.จอนนี่ อีแวนส์
4.ลุค ชอว์ และ 
5.ราฟาเอล ดา ซิลวา เท่านั้นที่เป็นนักเตะจากทีมชุดใหญ่ 

แถมล่าสุดเมื่อแบ็กขาวชาวบราซิเลี่ยนก็ยังมาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอีกแน่นอนว่าทำให้เกมรับของทีมมีปัญหาแน่นอน เพราะการขาดนักเตะมากขนาดนี้ ประกอบกับการที่แผนการเล่นของ ฟาน กัล มักใช้เซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ 3 คนและวิงแบ็กอีก 2 คน ยิ่งทำให้ทรัพยากรที่มียิ่งกลายเป็นจำกัดมากกว่าเดิม



แฟนผียังไม่สามารถที่จะฝากความหวังกับ อีแวนส์ กับ สมอลลิ่ง ได้แน่นอน

ซึ่งแน่นอนว่าบรรดานักเตะที่ออกจากทีมไปอย่าง 1.วิดิช, 2.เอวร่า หรือ 3.เฟอร์ดินานด์ ไม่ใช่นักเตะวัยขบเผาะ แต่เป็นนักเตะที่อายุมากและเลยจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้งมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนถ้าทีมขาดพวกเขาคนใดคนหนึ่งไป แต่นี่กลับขาดไปถึง 3 คนพร้อมกัน แถมยังเติมเพียงแค่ ลุค ชอว์ มาร่วมทีมในตำแหน่งแบ็กซ้ายแค่คนเดียวเท่านั้น ยิ่งทำให้สร้างความกังวลให้กับบรรดากองเชียร์ไม่น้อยว่ากองหลัง จะรับภาระตอนที่ฤดูกาล พรีเมียร์ลีก รูดม่านเปิดไหวหรือไม่

โดยที่เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมาบรรดาดาวรุ่งหลายคนทำผลงานได้ดี แต่มันยังเป็นแค่เกมระดับปรี-ซีซั่นที่เอาเข้าจริงแล้วก็มีไว้เพียงเรียกความฟิตเท่านั้น ไม่อาจเอามาพิสูจน์อะไรเป็นสาระสำคัญได้ 

ดังนั้นจึงไม่ใช่ข้อยืนยันเลยว่าบรรดาแนวรับจากทีมสำรองเหล่านั้น จะสามารถขึ้นมาอุดช่องว่างทดแทนรุ่นพี่ที่ขาดหายไปจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ได้ หรือจะสามารถพาตัวเองขึ้นมาประจำการเป็นแนวรับในทีมชุดใหญ่ได้หรือไม่ นอกเสียจากว่าจะพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ ให้ ฟาน กัล เห็นเท่านั้น





หรือว่าเราจะฝาความหวังกับ 2 ดาวรุ่ง หรือ อาจารย์ยัง ที่เคยหลอกแฟนผีให้ดีใจเก้อมาแล้ว

แต่นั่นเองอาจจะไม่ทันก็ได้ เพราะว่าฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้นในเวลาอีกไม่ถึงเดือน การเดินเข้าตลาดซื้อ-ขาย ก็อาจเป็นอีกคำตอบหนึ่งในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับแนวรับของทีมในตอนนี้ แต่ว่าปัญหาใหญ่กลับไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นชื่อเสียของ “ปีศาจแดง” ที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แถมยังไม่ได้เล่นในเวทียุโรปฤดูกาลนี้ ยิ่งทำให้ความเป็นไปได้ในการดึงกองหลังชั้นดีมาร่วมทีมได้ยิ่งเป็นไปได้ยาก ข้อได้เปรียบเดียวคือเจ้านายใหญ่ของเรา กับคอนเน็คชั่นเก่าๆ รวมถึงความสัมพันธ์กับบรรดานักเตะทีมชาติฮอลแลนด์ น่าจะช่วยชักจูงให้มีนักเตะมาร่วมทีมเราบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องรอดูกันต่อไป 

ซึ่งมั่นใจว่าภายหลังเกมอุ่นเครื่องที่อเมริกาแล้ว หลายๆ อย่างจะแน่ชัดขึ้น

แต่ว่าจากการทำงานในตลาดซื้อ-ขายนักเตะของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยว่าเขาจะทำได้ตามที่ ฟาน กัล ออกใบสั่งไปหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อตลาดจะปิดตัวลงในวันที่ 31 สิงหาคม กลัวเหลือเกินว่าจะเป็นแบบเมื่อฤดูกาลก่อนที่ได้แต่ เฟลไลนี่ มาแบบแพงเกินจริงและทำประโยชน์อะไรไม่ได้เท่านั้น ปัญหาของทีมจะถูกเติมเต็มในรูปแบบไหน สาวก “ปีศาจแดง” อย่างเราๆ ท่านๆ ได้แต่รอดูและเอาใจช่วยเท่านั้นนะครับ



บีร็อดชิวๆ ชี้หงส์ยิงสลุด แม้ไร้เงาซัวเรซ



บีร็อดกล่าวอย่าง มั่นใจว่าทัพทีม "หงส์แดง" จะยิงประตูเป็นกอบเป็นกำเหมือนเดิม แม้จะไม่มี ซัวเรซ อยู่กับทีมแล้วก็ตาม พร้อมชม 1.มาร์โควิช, 2.สเตอร์ลิ่ง ฟอร์มแจ๋วเกมเฉือน "กอส" 1-0

เมื่อเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความมั่นใจว่า ลูกทีมของเขาจะไม่มีปัญหาเรื่องความคมในแนวรุกอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ อดีตดาวยิงประจำสโมสรที่เพิ่งย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์หรือ 4,125 ล้านบาท เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

หลังจากที่กุนซือวัย 41 ปีที่พาทัพ "หงส์แดง" ยิงได้ถึง 101 ประตูในเกมลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเป็น ซัวเรซ ที่ยิงไปถึง 31 ลูก กล่าวว่า "ผมเห็นว่านักเตะเราคนอื่นๆ ก็ยิงได้ตั้ง 70 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน หลุยส์ ซัวเรซ ไม่ได้เป็นนักเตะของ ลิเวอร์พูลแล้ว ฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องพูดถึงหรือหยิบยก ซัวเรซ มาพูดอีก ผมจะเป็นกังวลนักเตะเท่าที่ผมกังวล ฤดูกาลก่อนเราแสดงให้เห็นว่าเราก็สามารถทำประตูในช่วงที่ไม่มี หลุยส์ ได้ ฉะนั้นผมจะไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น"

ซึ่งในขณะเดียวกัน "บีร็อด" ยังได้ยกย่องนักเตะใหม่อย่าง 1.ลาซาร์ มาร์โควิช และ 2.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกดาวรุ่งของทีมที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ยังเกมที่พวกเขาสามารถเฉือนชนะ โอลิมเปียกอส 1-0 ในศึก อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2014 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยในรายของดาวโรจน์ชาวอังกฤษ เป็นผู้ทำประตูชัยในนาทีที่ 5 ได้อีกด้วย

สำหรับ มาร์โควิช เล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเมื่อเขาจะพุ่งตัวไปข้างหน้า และผมหวังว่าหลังจากนี้เมื่อเขากลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูนณ์เช่นเดิม เขาจะไปได้สวยแน่นอน เรามีความเร็วที่ดี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น่ากลัวตลอดเวลา เขาเป็นผู้เล่นที่ดูสนุก ผมคิดว่าทั้งคู่รวมถึง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ จะประสานงานกันได้อย่างน่าทึ่ง นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือตบท้าย



ริโอเผยข้อความว่า กิ๊กส์เคยกล่อมให้อยู่ผีต่อ


ริโอ เปิดเผยว่า "น้ากิ๊กส์" เคยอ้อนให้อยู่ "ผีแดง" ต่อ โดยจะให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับซีซั่นใหม่ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามารับงาน

เมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังสูงวัยของ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ความจริงแล้ว ไรอัน กิ๊กส์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เคยรับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยขอร้องให้ตนเองอยู่กับทีมต่อ และมีส่วนร่วมในการสร้างทีมใหม่สำหรับซีซั่น 2014/15 แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อสโมสรเซ็นสัญญากับ หลุยส์ ฟาน กัล ยอดฝีมือชาวดัตช์ เมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา

ริโอ ได้เล่าย้อนความหลังให้ฟังถึงครั้งที่ปีกชาวเวลส์ทำหน้าที่กุมบังเหียน "ปีศาจแดง" ว่า "ตอนที่ กิ๊กซี่ ทำหน้าที่และดูเหมือนจะได้งานต่อในซีซั่นถัดไป เขาบอกผมชัดเจนเลยว่า ผมต้องอยู่ต่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนของเขา แต่ในเกมฟุตบอลทุกอย่างเปลี่ยนเร็วมาก เราเองก็ต้องเดินหน้าต่อไป แม้การเคลื่อนที่ทำให้หลงเหลือเพียงฝุ่น เราก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน"

แต่ว่าอย่างไรก็ดี แนวรับวัย 35 ปียืนยันว่า มีความสุขแล้วที่ได้เซ็นสัญญากับ "คิวพีอาร์" โดยกล่าวว่า "ผมยินดีที่ได้อยู่ที่นี่ ยินดีที่ แฮร์รี่ (เร้ดแนปป์) ให้โอกาสผมได้เล่นต่อไปใน พรีเมียร์ลีก ผมจะทำให้เห็นว่าผมเอาชนะทุกอย่างได้ ความจริงผมได้รับข้อเสนอจากทีมทั่วโลกและทีมอื่นใน พรีเมียร์ลีก แต่ผมอยากทำงานกับ แฮร์รี่ อีก ผมเคยเริ่มเล่นกับเขาที่ เวสต์แฮม ตอนยังอายุน้อย ถ้าได้แขวนสตั๊ดโดยที่มีเขาเป็นโค้ชมันคงจบแบบสุดสวยเหมือนเทพนิยายเลย"



สมอลลิ่งคุยฟุ้งว่าเล่นเข้าระบบของฟานกัลได้ดี


ก็ว่ากันไป เมื่อ สมอลลิ่ง โคตรมั่นใจ เล่นเข้ากับระบบ 5-3-2 ของ "ฟาน กัล" ได้ดี พร้อมเผยว่า พยายามจะสร้างความประทับใจให้กับกุนซือคนใหม่อย่างเต็มที่

เมื่อ คริส สมอลลิ่ง ที่เป็นปราการหลังทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความมั่นใจว่า สามารถเล่นได้เข้ากับแผนของ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือคนใหม่ของทีมได้เป็นอย่างดี หลังเทรนเนอร์ชาวดัตช์ แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าจะใช้ระบบ 5-3-2 เช่นเดียวกับที่เขาใช้กับทีมชาติ ฮอลแลนด์ ในระยะหลังของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014

ทั้งนี้ แนว รับวัย 24 ปี ที่เพิ่งลงเล่นแมตช์ อุ่นเครื่องที่เอาชนะ โรม่า ไป 3-2 เปิดเผยว่าระบบของ ฟาน กัล นั้นเหมาะกับเขาเป็นอย่างดี โดยกล่าวว่า "เมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบใหม่ นั่นหมายความว่าคุณต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น การสื่อสารก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่เราทำได้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมา"

โดยที่เซ็นเตอร์แบ็กของ "ปีศาจแดง" ยังกล่าวชื่นชมผู้จัดการทีมคนใหม่อีกว่า "เขาเป็นคนที่ใส่รายละเอียดมาก เขามีทั้งตัวอย่างให้ดู ในวิธีการเล่น วิธีการที่เราจะตั้งระบบการเล่น วิธีการกิน วิธีการที่เราพักผ่อน เขาเป็นคนจัดการทุกอย่าง เป็นคนที่น่าเคารพมาก เราทุกคนพยายามจะสร้างความประทับใจให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นในการฝึกซ้อมหรือในโรงแรม เราสามารถเรียนรู้จากเขาได้มากทีเดียว"

ทั้งนี้เนื่องจาก อดีตเฮดโค้ชทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เพิ่งพา "แมนฯ ยูไนเต็ด" ชนะ โรม่า 3-2 ในวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่พอใจกับผมงานของทีมเท่าไหร่นัก 

เนื่องจากลูกทีมนั้นเสียการครองบอลมากเกินไป โดย ฟาน กัล ยังใส่ใจรายละเอียดของทีมอีกมาก เช่น มีกฎว่าผู้เล่นจะต้องพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น ในการสื่อสารกันทั้งในและนอกสนาม รวมถึงแผนทัวร์ที่ได้รับการแก้ไข โรงแรมที่พวกเขาพักอยู่นั้นต้องอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับฝึกซ้อม และเวลา 22.30 ผู้ช่วยโค้ชทุกคนจะต้องมาหารือกับเขา เกี่ยวกับความคืบหน้าของผู้เล่น


เจ๊รับปืนยอมที่จะเสี่ยงคว้าแชมเบอร์ส



เมื่ออาร์แซน เวนเกอร์ รับคำเองเสี่ยงแต่ต้องลอง หลัง "ปืนใหญ่" คว้าตัว คัลลัม แชมเบอร์ส จาก "นักบุญ" แบบแพงสุดกู่ถึง 900 ล้านบาท เชื่อทำให้การแข่งขันของ 3 ตำแหน่งในทีมมีมากขึ้น
หลังจากที่อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเลือดน้ำหอมของ อาร์เซน่อล หนึ่งในทีมบิ๊กโฟร์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับต้นสังกัดมีความเสี่ยงกับการคว้าตัว คัลลัม แชมเบอร์ส กองหลังดาวรุ่งของ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมเพื่อนร่วมลีก ด้วยค่าตัวสูงถึง 20 ล้านยูโรหรือ 900 ล้านบาท หลังแนวรับรายนี้ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์เท่าใดนัก

โดยเทรนเนอร์เฟร้นช์แมนของทัพทีม "เดอะ กันเนอร์ส" ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เขาสามารถเล่นในตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ก, แบ็กขวา และกองกลางตัวกลางได้ ผมหวังว่าเขาจะทำให้เรามีการแข่งขันเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ตำแหน่งที่พูดถึงมา เขาไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าใดนัก แต่นักเตะอังกฤษในตลาดซื้อ-ขายก็แพงมากจริงๆ และสุดท้ายผมก็พร้อมที่จะเสี่ยง หากเขาเป็นนักเตะเพื่ออนาคตข้างหน้า"

ทั้งนี้ดาวเตะอย่าง แชมเบอร์ส เป็นผลผลิตของทีมเยาวชนทัพ "นักบุญ" รายที่ 3 ที่ตบเท้าร่วมถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อจาก ธีโอ วัลค็อตต์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน พร้อมมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า มอร์แกนชไนเดอร์แล็ง กองกลางอีกรายของ "เดอะ เซนต์" ก็กำลังเป็นที่ต้องการตัวของทีมดังจากกรุงลอนดอนเช่นกัน

1 ความคิดเห็น: