ประมาทไปหน่อย ชุดขาวพลิกพ่ายเอสปันญอล 0 - 1
ทีมเรอัล มาดริด ติดประมาท เปลี่ยน จากทีมที่ถล่มอลาเบส 4-0 เมื่อสุดสัปดาห์ 5 ตำแหน่งจนออกอาการป้อแป้ต่อเกมกันไม่ติด
ที่มา: soccersuck.com
สุดท้ายโดนทีเด็ด เคราร์ด โมเรโน่ พังประตูทดเวลาบาดเจ็บ 90 +3 ผลบอลสด ช่วยทำให้เอสปันญอล เปิดบ้านชนะ 1 - 0 แพ้นัดนี้ ทีมราชันยังคงอยู่อันดับ 3 แต่เปิดโอกาสให้ ทีมบาเลนเซียกลับมามีลุ้นไล่จี้ทวงตำแหน่งคืนแบบเต็มตัวแล้ว
ฟุตบอลลา ลีกา
สนาม อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม
อังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
กรรมการ โฆเซ่ ซานเชซ
ทีมเอสปันญอล 1 : 0 ทีมเรอัล มาดริด
สนาม อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม
อังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
กรรมการ โฆเซ่ ซานเชซ
ทีมเอสปันญอล 1 : 0 ทีมเรอัล มาดริด
ในเกมนี้ แกเร็ธ เบลถูกดันขึ้นไปยืนตำแหน่งหน้าเป้า มาร์กอส ญอเลนเต้ ได้เล่นเป็นตัวจริงแทนที่ คาเซมิโร่ เช่นเดียว กับ มาร์โค อเซนซิโอ , อิสโก้ และ เซร์คิโอ รามอส ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงในนัดนี้
ทีมเอสปันญอล ได้ส่งปาโบล ปิอัตติ เป็นตัวจริง แต่ เอสเตบาน กราเนโร่ มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง ในแนวรุก เคราร์ด โมเรโน่ ยืนเป็นหน้าเป้าแต่เลโอ บัปติสเตา มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง
นาทีที่ 5 เรอัล มาดริดครองบอลดีกว่าตั้งแต่เริ่ม ก็ตามฟอร์ม และ ชื่อชั้น เมื่อ ทีมเรอัล มาดริด เป็นฝ่ายที่ได้ครองบอลมากกว่า และยังไม่ได้โหมลุยหนัก เกมจึงยังดูเชิงกันที่ตรงกลางสนามซะเป็นส่วนใหญ่
นาทีที่ 7 เบลโขกบอลจ่อๆ ติดเซฟโลเปซ ถือเป็นโอกาสแรกของเกมมาไว้มาก จากเกมตรงริมเส้นขวา ที่อิสโก้ ไหลบอล ให้กับ ฮาริมี่ ครอสบอลจังหวะแรกไปแฉลบแนวรับ ทีมเอสปันญอล บอล ม้วนมาหน้าปากประตูให้กับเบล พุ่งเข้าโฉบเผาขนที่เสาแรก แต่ต้องชม ดิเอโก้ โลเปซ ที่ปฏิกิริยาไวมากสามารถปัดบอลได้ทัน
นาทีที่ 14 วารานโขกอีกครั้งก็ยังไม่ดีพอ ทำให้มาดริด มีได้ลุ้นทำประตูอีกครั้งจากลูกเตะมุม บอลครอสโด่งมาถึงวารานขึ้นโขกลงพื้นตามสูตร น้ำหนักได้แต่ทิศทางพลาดเป้าหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียวเอง
นาทีที่ 18 เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากลูกยิงข้ามคาน ทีมเอสปันญอล ได้เรียกเสียง ฮือฮา จากแฟนบอลตัวเองได้บ้าง จากลูกครอส ริมเส้นซ้าย ที่เปิดเข้าในเขตโทษให้เซร์คิโอ การ์เซีย ได้ฮาล์ฟวอลเล่ย์ ยิงจังหวะแรกทันที แต่บอลโด่งหลุดกรอบไปเยอะเลย
นาทีที่ 25 ทีมเอสปันญอลรับบอลได้เหนียวมาก ทำให้ทีมเยือนยังคงเป็นฝ่ายที่เดินเกมรุกได้ดีกว่า ขณะที่ ทีมเอสปันญอลเน้นเกมรับเหนียวแน่นชนิด แกเร็ธ เบล ที่วันนี้ถูกจับให้ยืนเป็นหน้าเป้าแทบเลือนหายไปจากเกม
นาทีที่ 26 วารานพลาด เคราร์ดยิงโล่งๆ หลุดกรอบ โอกาสทองของ ทีมเอสปันญอล เมื่อลูกเปิดจากหลังของวารานไปโดนคาร์ลอส ซานเชซ โหม่งตัด ได้จากกลางสนามเลย กลายเป็นเกมสวนกลับที่ทำให้ เคราร์ด ได้หลุดเดี่ยวๆ ยิงโล่งๆ คนเดียวเฉี่ยวเสาไกลออกหลังไปชนิดน่าจะทำได้ดีกว่านี้
นาทีที่ 30 ทีมเจ้าถิ่นยิงบอลเข้าตุงประตู แต่ว่าก็ล้ำหน้า ทีมเอสปันญอล ส่งบอลไปตุงตาข่ายสำเร็จ เริ่มจากลูกขลุกขลิก ผู้เล่น ทีมเรอัล มาดริด เคลียร์บอลไม่ขาด บอล มาตกใส่ทางปืนคาร์ลอส ซานเชซ ซัดไกลสวนกลับทันที
และก็เป็นเคราร์ดที่ยืนอยู่บนไลน์เดียวกับแผงหลังทีมมาดริดได้จับบอลงแล้วจบสกอร์ ตรงนี้เองที่ไลน์แมนมองว่าล้ำหน้า
นาทีที่ 40 ทีมมาดริดบุกมากกว่าก็จริง แต่ว่าโอกาสมีน้อย ซึ่งทีมเยือนนั้นยังเป็นฝ่ายที่เดินเกมรุกมองหาสกอร์แรกของเกมอย่างต่อเนื่อง แต่ทำได้ดีที่สุดก็แค่ป้วนเปี้ยนไปมาหน้าบ้านเจ้าถิ่นเท่านั้น โอกาสจบสกอร์จะแจ้งจริงๆ ยังไม่เกิดขึ้น
เข้าช่วง HALF TIME
นาทีที่ 48 ครึ่งหลัง ทีมเอสปันญอล คึกคักมาก หลังจากที่ออกสตาร์ตครึ่งหลัง ทีมเอสปันญอล คึกครื้นกว่า เริ่มจากลูกต่อบอลสุดสวยในเขตโทษ แต่ว่าสุดท้ายล้ำหน้าไปนิดเดียว และ ตามติดด้วยจังหวะยิงมุมแคบของ เซร์คิโอ การ์เซีย ยังเป็นนาบาส ที่ช่วยเซฟบอลไว้ได้
นาทีที่ 49 เคราร์ดเกือบทำประตูได้อีกครั้ง จังหวะถัดมาจากลูกเตะมุม ทีมเอสปันญอล มีลุ้นอีกครั้งจากลูกโหม่งย้อยๆ ของเคราร์ด บอลทำท่าจะตกใต้คาน แต่ว่าก็ยังเป็นนาบาสที่ไม่ประมาทปัดบอลทิ้งออกไปก่อน
นาทีที่ 52 ฮาคิมี่ควบกลางสนาม แต่จบสกอร์ไม่ดีพอ ซึ่งฮาคิมี่ ตัดบอลได้ที่กลางสนามก่อนใช้สปีดควบเดี่ยวลุยเข้าหาประตู ทีมเอสปันญอลแล้วตัดสินใจยิงทันที ลูกยิงจังหวะนี้ไม่ได้สร้างอันตรายให้กับโลเปซเลย
นาทีที่ 56 คาราร์ดได้วอลเล่ย์ แต่ว่าบอลเบาไปนิด ซึ่งเอสปันญอลได้มาลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงจังหวะแรกในเขตโทษของเคาร์ด แต่ว่าบอลก็ยังขาดน้ำหนักไปจึงยังไม่เป็นสกอร์ขึ้นนำ
นาทีที่ 63 เบลยิงหลุดกรอบไปไกลมากเลย มาดริดต่อบอลเข้าไปในเขตโทษได้ดี แต่จังหวะสุดท้ายเป็นเบลที่ทำเสียของเมื่อยิงข้ามคานหลุดออกไปไกลมาก
นาทีที่ 67 เบลสักไก่ยิงได้ลุ้นเล็กๆ เบลเกือบทำประตูได้จากลูกเตะุมุมถูกเปิดระดับลำตัวเข้ามาวัดในเขตโทษ และ ก็เป็นเบลที่ลักไก่ใช้ข้างเข้าด้านนอกดีดบอลทำประตูทันที แต่ว่าโลเปซไม่หลงเหลี่ยมรับกินสบาย
นาทีที่ 69 ซีดานแก้เกมรุก เบนซ์แทนที่อิสโก้ ยิงไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยน ซีดานส่งตัวเบนเซม่าแทนที่ิอิสโก้ที่วันนี้ โชว์ฟอร์มไม่ออก
นาทีที่ 75 เกมรุกมาดริดช็อตไปดื้อๆ ทีมเยือนต่อเกมรุกไม่ติดแล้วเมื่อไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าถิ่นได้ แถมยังกดดันได้ไม่ดีเหมือนเดิมอีกด้วย
นาทีที่ 77 นาบาสซูเปอร์เซฟ โอกาสทองของ ทีมเอสปันญอล อีกครั้ง คนเดิม เคราร์ด ที่เทคตัวโขกเข้ามุมได้ดีแล้ว แต่ว่าก็ดันเป็น นาบาสที่เหินตามมาเซฟบอลไว้ได้อีก
นาทีที่ 80 ได้ถอดเบลออกส่งเซบาญอสแทนที่ แต่ว่าเกมไม่ดีขึ้น ซีดานแก้เกมอีกถอดเอาเบลออกแล้วส่งเซบาญอสมาไปเพิ่มความสด
นาทีที่ 88 เคราร์ดปั่นหลุดเสาไปแค่นิดเดียว เคราร์ด มีโอกาสลุ้นทำประตูให้เจ้าถิ่นอีกครั้งจากลูกล็อคหลบกองหลังมาดริดก่อนปั่นด้วยซ้ายหลุดเสาไกลไปนิดเดียว
นาทีที่ 90 +3 เคราร์ดทำสำเร็จจนได้ เอสปันญอล1-0 ในที่สุด ความพยายามของทีมเจ้าถิ่น และ ตัวเคราร์ดเองก็มาสัมฤทธิ์ผล ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
หลังจากที่เขาเปิดบอลออกทางขวาให้เซร์คิโอ การ์เซีย ก่อนจะวิ่งไปรอให้การ์เซียจ่ายบอลคืนมาให้แล้วหวดตูมเดียวหายชนิดนาบาสพุ่งยังไงก็ไม่ทัน
ผลบอล ครบ 120 นาที เคราร์ด โมเรโน่ ผู้ทำประตู เป็นฮีโร่ส่ง ทีมเอสปันญอล พลิกล็อคโค่น ทีมเรอัล มาดริด 1-0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น