วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข่าวฟุตบอลศึกพรีเมียร์ลีกและโปรแกรมบอลพรุ่งนี้

จับปลาหลายมือ?





ทางด้านฟุตบอลในโซนยุโรป หลักๆ ก็มี 3 รายการสำหรับทีมใหญ่ ก็คือ

  1. ศึกบอลลีก
  2. ศึกบอลถ้วย
  3. ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


แต่ก็มีบางประเทศอย่าง 1.ฝรั่งเศส และ 2.อังกฤษ ที่มี 4 รายการ เริ่มซีซั่นมาได้ 3 เดือนแรก 4 บิ๊กโฟร์ อย่าง


  • ทีมอาร์เซน่อล
  • ทีมเชลซี
  • ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 
  • ทีมลิเวอร์พูล 


ซึ่งก็ไม่ค่อยจะทำผลงานดีสักเท่าไหร่นักในทุกๆ รายการ เว้นก็แต่ ทีมเชลซี ไว้หนึ่งทีม

และโดยเฉพาะในเวทียุโรป ที่ทั้ง ทีมเรือใบ และ ทีมหงส์แดง แชมป์และรองแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ต่างทำให้แฟนบอลพันธุ์แท้ของทั้ง 2 ทีมนั้นกำลังปวดกระเพาะอาหารอยู่ เนื่องจากสถานการณ์รอบแบ่งกลุ่มไม่สู้ดีนัก




เริ่มกันที่ทีมลิเวอร์พูลหลังจากได้ผ่านเข้ามาเล่นชปล ในปีนี้ ก็พลอยทำให้ผลงานทั้งในลีกและบอลถ้วยตกลงไปพอๆ กัน

และเนื่องจากในปีนี้ ทางศึกพรีเมียร์ลีก ได้แบ่งมาให้ฟรีทีวีดูด้วย ก็เลยมีบางสัปดาห์ผมได้ดูฟอร์มทีมจากอังกฤษ ซึ่งก็บอกเลยว่า ป้อแป้ สุดฤทธิ์ ถามว่าพวกเขามีศักยภาพที่จะชนะทุกๆ ทีมในกลุ่มตัวเองหรือไม่ แน่นอนว่า 100 เปอร์เซนต์คือมีแน่ๆ สำหรับโอกาสที่จะชนะ

แต่ว่าคำถามตรงหน้าคือ พวกเขาพร้อมหรือไม่ กับการเก็บ 3 คะแนนใน 6 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม พูดได้เลยว่าไม่พร้อมอย่างแรง

และอันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็คิดเหมือนกัน ซึ่งผมได้นั่งคิดนอนคิดเกี่ยวกับผลงานในแชมเปี้ยนส์ ลีก ของทีมจากอังกฤษ ซึ่งปัญหามันน่าจะเริ่มมาจากจุดๆ เดียวกัน

ซึ่งนั่นก็คือโปรแกรมบอลเตะที่เกริ่นไปในข้างต้น ซึ่งผมมองว่านี่เป็นปัญหาหลัก ที่ทำให้ทีมจากอังกฤษ ไปได้ไม่ถึงฝัน ด้วยการที่พวกเขามีรายการให้เล่นมากกว่าประเทศอื่นหนึ่งรายการ บวกกับยุคสมัยนี้ที่ไม่มีการทิ้งถ้วยไหนๆ เหมือนเป็นเทรนด์ใหม่ ที่ขนาด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้เคยพลีชีพด้วยการส่งเยาวชนลงทั้งทีมเพื่อทิ้งบอลถ้วยจนชาวบ้านชาวช่องด่ามาแล้ว ถึงขั้นบ้าจี้ทำตามอยู่หลายปี ด้วยการเอาจริงในบอลถ้วยตามกระแสของ ทีมแมนฯ ซิตี้ และ ทีมเชลซี ที่มีขนาดทีมใหญ่ สามารถเปลี่ยนผู้เล่นทั้งชุดก็ยังดูเป็นชุดใหญ่ได้มาแล้ว

ก็เหนื่อยสิครับงานนี้ และสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นไม่ได้ดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายการไหนๆ จนทำให้ทีมเกือบพัง แฟนบอลในไทยเกือบปิดเฟซบุ๊คกันแทบไม่ทัน

สังเกตไหมครับว่าศึก แคปิตอล วัน คัพ Big4 แดนผู้ดีเล่นเอาจริงเหมือนกัน แม้จะมีหมุนเอาสำรองลงบางตำแหน่ง และมีถึง 2 ทีมที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ซึ่งผมนั้นก็ขอยกตัวอย่างสโมสร ทีมลิเวอร์พูล ที่กุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ประกาศซื้อตัวเพื่อเอาไว้สับเปลี่ยนผู้เล่น ยามลงแข่งในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เจ้ากรรมดันโชคไม่ค่อยดี จับสลากมาอยู่กับ ทีมเรอัล มาดริด แชมป์เก่า แถมมีทีมสุดอันตรายและประมาทไม่ได้อย่าง บาเซิ่ล อยู่ด้วย ทำให้งานมันดูยากขึ้นเหมือนกัน

โดยที่หลายๆ ฝ่ายอาจจะมองว่าพวกเขา โชคไม่ดีที่ต้องไปอยู่กับทีมที่เหนือกว่าทั้ง ทีมเรอัล มาดริด แชมป์ปีที่แล้ว และแชมป์ 10 สมัย แต่ถ้าเจาะรายละเอียดลึกๆ แล้วพวกเขาไม่ได้แพ้แล้วเล่นดีนี่สิ

และผลบอล 0 - 3 ในถิ่น แอนฟิลด์ ก็ทำให้ใครๆ ก็ต่างโจมตีว่ามาตรฐานระหว่าง ทีมเรอัล มาดริด และ ทีมลิเวอร์พูล มันต่างกันมาก

ซึ่งมันก็จริงอยู่ที่ว่า ทีมราชันชุดขาว มีแนวรุกระดับโหดถึงขั้นทำเด็กร้องไห้ได้ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเป็น ทีมหงส์แดง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ช่วงที่พวกเขาชนะติดต่อกัน 11 นัด เอาฟอร์มแบบนั้นมาเตะเกมดังกล่าว ทีมเรอัล มาดริด อาจจ๋อยกลับบ้านก็ได้



สู้ได้ดีกว่านัดแรก แม้จะแพ้ชุดขาวไป 0 - 1

ซึ่งมันก็ไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้ รวมถึงผลงานรายการอื่นของ ทีมลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้ดีเสียด้วยสิ มันเลยทำให้พ่ายพังพาบอย่างที่เห็นผลบอล 0-3 ทั้งๆ ที่มองกันว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงเกมดังกล่าว ถือว่าเป็นชุดที่ดีที่สุดของทีมเลยก็ว่าได้ จะขาดก็แต่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เท่านั้น

และบางคนบอกยังดีที่มันยังไม่ใช่เกมชี้เป็นชี้ตาย ถึง ทีมหงส์แดง แพ้เกมนี้ ก็ยังมีอีก 3 นัดให้แก้ตัว แต่เจ้ากรรมจุดเปลี่ยนมันมาตั้งแต่นัดที่บุกไปพ่าย ทีมบาเซิ่ล 0 - 1 แล้วล่ะ เพราะแน่นอนว่าตามหน้าเสื่อ พวกเขาต้องลุ้นกับยอดทีมจากสวิส เพื่อแย่งตั๋วรอบน็อคเอาต์อีกใบ

แต่ว่าสถานการณ์ คราวนี้มันยิ่งลำบางขึ้นอีกขั้น โชคดีที่ ทีมบาเซิ่ล ดันแพ้ ลูโดโกเร็ตส์ ในเกมที่ 3 ทำให้พวกเขามีแต้มเท่ากันที่ 3 คะแนน ยังได้ลุ้นยาวๆ ใน 3 เกมสุดท้าย แต่การที่จะต้องไปเยือน ถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว เกม 4 คิดในแง่ร้ายไว้ก่อนว่าพวกเขาจะไม่ได้แต้มกลับไป และ ทีมบาเซิ่ล จะชนะ ทีมลูโดโกเร็ตส์ ได้ไม่ยาก

ซึ่งนั่นมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ที่พวกเขาแพ้ ทีมเรอัล มาดริด 0-1 และ ทีมบาเซิ่ล อัดไป 4-0 นำพวกเขา 3 แต้ม เหลืออีก 2 นัด


และในอาทิตย์นี้ พวกเขานั้นต้องไปเจอกับ ทีม เชลซี อีก นั้นทำให้ ตัวบีร็อด ต้องพักตัวหลักมันซะเลย


และนี่ก็กลายเป็นว่า ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก กลายเป็นถ้วยเล็กๆไปแล้วสินะ แล้วหันไปเอาจริงในลีกกับ แคปิตอล วัน คัพ ใช่ป่ะครับ??

อย่าทำเป็นเล่นนะครับ ในทีมสำรองที่มี

  1. โคโล่ ตูเร่
  2. ลูคัส
  3. โจ อัลเลน
  4. เอ็มเร่ ชาน
  5. อดัม ลัลลาน่า
  6. ลาซาร์ มาร์โควิช 
  7. ฟาบิโอ บอรินี่ 


แต่ว่ากลับแพ้ ทีมชุดขาว เพียง 0 - 1 !!!!

ซึ่งวิเคราะห์บอลเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกเลยครับ ตัวผมมั่นใจว่า เพราะรูปเกมบอกได้เลยว่า สู้ไม่ได้ ชัดเจน แต่มองในแง่ดีคือการได้กองหลังที่ยังดูไว้ใจได้อย่าง ตูเร่ ผู้พี่ คอยแก้ขัดเวลาเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ หมายถึงเอาลงเล่นบอลถ้วย อีกคนที่ต้องซูฮกและสามารถหักหน้านักวิจารณ์หลายๆ คนได้ คือฟอร์มของ ซิมง มิโญเล่ต์ ด้วยการที่เพื่อนร่วมทัพหน้าเขา 10 คนปั้นให้ขนาดนี้ ต่อไปความมั่นใจคงมาเต็มเปี่ยม




เกมในนัดนี้พี่เจิดเป็นได้แค่ผู้ชมข้างสนามเท่านั้น


และนอกจากนี้ ตัวของบีร็อด ยังสติแตกถึงขั้นดรอป เจอร์ราร์ด ไว้ข้างสนาม ทั้งๆ ที่เจ้าตัวประกาศอำลาทีมชาติเพื่อจะมาเล่น ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก แม้สถิติเฉลี่ยออกมาจะดูเหมือนว่าทีมไม่มี กัปตันเจิด จะดูผลงานดีกว่าตอนมีอยู่ก็เถอะ มันก็เป็นตรรกะบางอย่างเท่านั้น แต่รูปเกมในสนามสิสำคัญ มี เจิด ก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว ถูกมั๊ย แฟนหงส์

แล้วคำถามหลังจากนี้คือ

  • ประการแรก ทีมลิเวอร์พูล เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป. 
  • ประการที่สอง ซึ่งการที่ไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ คนเดียว ทำให้ทีมเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ. 
  • ประการที่สาม การที่เอานักเตะตัวหลักที่ฟอร์มไม่ดีไปพัก จะได้ผลในเกมกับ ทีมเชลซี หรือไม่. 
  • ประการที่สี่ ในเกมนัดชี้ชะตากับ ทีมบาเซิ่ล ในนัดสุดท้ายผลจะออกมาเป็นอย่างไร. 
  • ประการที่ห้า ทีมลิเวอร์พูล นั้นจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายหรือไม่. 
  • ประการที่หก แล้วแชมป์ลีกล่ะ. 
  • ประการที่เจ็ด ทีมนั้นจะยังสามารถเบียดขึ้นไปลุ้นได้อยู่หรือเปล่า.
  • ประการที่สุดท้าย และใครที่จะเข้ามาอุดรอยที่ ซัวเรซ ได้. 


ซึ่งคำถามตามมาเยอะมากๆ

ในทุกสิ่งทุกอย่างจะได้คำตอบในไฮไลท์ฟุตบอลเร็ววันนี้ครับ หากพวกเขายังจับปลาหลายๆ มืออยู่ เน้นทุกถ้วย ไม่ว่าจะ

  • ศึกเกมลีก
  • ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก
  • ศึกแคปิตอล วัน คัพ 
  • ศึกเอฟเอ คัพ 

ซึ่งกำลังจะเตะปีหน้า นั่นจะทำให้พวกเขาพังแน่นอน เพราะหลายๆ ทีมก็พังมาแล้ว จะมาหวังให้เป็นเหมือน ทีมปีศาจแดง ในปี 99 มันก็คนละยุคสมัยกัน ฟุตบอลยุคนี้ทำแบบนั้นได้ยากแล้ว แต่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะทิ้งอะไรสักอย่างไป อาจจะทำให้บางอย่างที่เขาถืออยู่ ได้ของที่ล้ำค่ามาก็เป็นได้

โดยจะต้องมาพบเกมกับ ทีมเชลซี วันเสาร์นี้ น่าจะทำให้เห็นอะไรได้หลายอย่างแล้ว สำหรับแนวทางต่อไปของ ร็อดเจอร์ส

และท้ายนี้ ส่วนตัวผมยังเชื่อว่า มาริโอ บาโลเตลลี่ ยังใช้ประโยชน์ได้อยู่ครับ พี่แกเป็นนักเตะประเภทต้องโอ๋ อย่าไปจวกไปสับเขา แล้วเดี๋ยวจะเล่นดีเอง

และเหตุผลของการดรอป เจอร์ราร์ด มองในแง่ดี อาจจะทำให้เจ้าตัวแผลงฤทธิ์ในเกมวันเสาร์ กู้หน้าจากที่เคยลื่นทำถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก หลุดมือเมื่อปีที่แล้วก็เป็นได้

ซึ่งหากจะมาปิดโอกาสการประสบความสำเร็จของ ทีมลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ต้องบอกเลยว่าอย่าเพิ่งนะครับ เพราะอย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นทีมที่อันตราย แม้ช่วงนี้จะขาลง แต่ลงก็ต้องมีขึ้น อยู่ที่ว่าเขาจะเลือกปล่อยและจับอะไร แต่ถ้าจับไว้หมดล่ะก็

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น