วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2563

อาร์เซนอล VS แมนยู 2-0: ผลบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20






อาร์เซนอล เปิดบ้านอัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 โดยมาได้สองประตูในครึ่งแรกจาก นิโคลาส เปเป้ ในนาทีที่ 8 และ โซคราติส นาทีที่ 42 คว้า 3 คะแนนแรกในฐานะกุนซือได้สำเร็จสำหรับ มิเกล อาร์เตต้า พาทีมขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 10 มี 27 คะแนนจากการลงเล่น 21 เกม

เริ่มเกมในครึ่งแรก เจ้าบ้านดูจะครองบอลบุกได้ค่อนข้างชัดเจนกว่า ส่วนผู้มาเยือนถอยลงมาตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับตามที่พวกเขาถนัด

ในนาทีที่ 8 เจ้าถิ่นออกนำเร็วจากจังหวะต่อบอลเข้าเขตโทษ โคลาซินาซ หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนตบกลับเข้ากลาง บอลแฉลบไปเข้าทาง เปเป้ ยิงเข้าไปไม่เหลือ ให้ทีมขึ้นนำ 1-0

จากนั้นดู พลพรรคปืนใหญ่ จะเล่นด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น พวกเขาครองบอลบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องและมีโอกาสได้ลุ้นประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงของ เปเป้ ที่บอลพุ่งไปชนเสาอย่างจัง

แต่แล้วก่อนหมดครึ่งเวลาแรกไม่กี่นาที เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะเตะมุม ลากาแซ็ตต์ ขึ้นโหม่งที่เสาแรก เด เคอา ปัดบอลแฉลบกองหลังไปเข้าทางปืน โซคราติส ที่ยืนรออยู่ตรงนั้น ซัดเข้าไปง่าย ๆ ในนาทีที่ 42

และจบครึ่งเวลาแรกแรกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปด้วยสกอร์ 2-0

เริ่มเกมในครึ่งหลัง ดูเหมือน ปีศาจแดง จะพยายามเร่งเกมบุกมากขึ้นเพื่อหวังเอาประตูคืนให้ได้โดยเร็ว ส่วนเจ้าถิ่นถอยลงมาตั้งรับและเน้นเกมโต้กลับมากขึ้น

ตลอดเกมในช่วงครึ่งหลัง ทีมเยือนครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่า แต่แทบไม่มีจังหวะได้ลุ้นประตูมากเท่าใดนัก ส่วนเจ้าบ้านเองก็มีจังหวะได้สวนกลับ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพอ

กระทั่งจบเกม อาร์เซนอล เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 และถือเป็นชัยชนะเกมแรกของ มิเกล อาร์เตต้า ในฐานะกุนซือปืนใหญ่ ในนัดนี้

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

อาร์เซนอล  : แบร์นด์ เลโน่ - เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ดาวิด ลุยซ์, เซอัด โคลาซินัช (บูกาโย่ ซาก้า น.69) - ลูกัส ตอร์เรยร่า, กรานิต ชาคา - นิโกล่าส์ เปเป้ (รีสส์ เนลเซ่น น.62) , เมซุต โอซิล, ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์  (มัตเตโอ เกนดูซี่ น.82)

แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - เฟร็ด, เนมานย่า มาติช (ฆวน มาต้า น.81) - แดเนียล เจมส์ (เมสัน กรีนวู้ด น.58), เจสซี่ ลินการ์ด (อันเดรียส เปเรยร่า น.58), มาร์คัส แรชฟอร์ด - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น