วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บอล แกรี่ เชื่อว่าสตาร์ผีจะช่วยดึงดูดโด้กลับบ้านและข่าวฟุตบอลอื่นๆอีกมากมาย



รุ่นพี่แกรี่ เชื่อว่าสตาร์ผีจะช่วยดึงดูดโด้กลับบ้าน



เมื่อทางเนวิลล์ผู้พี่ ได้เชื่อการที่ทีม "ปีศาจแดง" ดึงสตาร์ดังอย่าง ดิ มาเรีย หรือ ฟัลเกา เข้ามาในทีม จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ โด้ กลับสู่ถิ่น "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" เป็นไปได้มากยิ่งขึ้น

หลังจากที่แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขาวทีมชาติอังกฤษ และอดีตกัปตันทีมของสโมสรทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เชื่อว่าโอกาสที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวเก่งของทีม เรอัล มาดริด จะย้ายกลับมายังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีความเป็นไปได้มากขึ้นแล้ว หลังจากที่ทัพทีม "ปีศาจแดง" เสริมนักเตะชั้นดีอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย และ ราดาเมล ฟัลเกา เข้ามาในช่วงซัมเมอร์

ซึ่งเนวิลล์ผู้พี่ นั้นได้ทำหน้าที่เป็นผู้สันทัดกรณีของสถานีโทรทัศน์ โดยที่สื่อ สกายสปอร์ต ไดกล่าวว่า "มันเป็นข่าวลือมาร่วมปีแล้ว ช่วงซัมเมอร์นี้ก็มีการพูดถึงเหมือนกัน แล้วก็มีข่าวตามออกมาว่า โรนัลโด้ ไม่มีความสุขกับ ทีมเรอัล มาดริด แม้ว่าปีที่แล้วเพิ่งจะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ก็ตาม คำถามแรกคือเขาอิ่มตัวกับ มาดริด หรือยัง ส่วนเรื่องที่เขารัก ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือเปล่านั้นไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว"

และอาจจะพูดได้ว่าการที่เรามีทั้ง ดิ มาเรีย และ ฟัลเกา ทำให้มันมีโอกาสมากขึ้น มันต้องเป็นแบบนั้น เพราะทีมแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาจริงจังกับการดึงนักเตะระดับโลกเข้ามาสู่ทีม เราเคยพูดกันไปเมื่อ 3 หรือ 4 เดือนก่อน กับคำถามที่ว่าทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังคงดึงดูดนักเตะชั้นนำเข้ามาได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เห็นได้ชัดเลย แบ็กขวารุ่ง คลาสออฟ 92 ร่ายยาว



เป็นไปได้ไง เมื่อรูนี่ย์ชนะดิมาเรียวิ่งเร็วสุดในทีม


คงจะไม่เชื่อ หลังหมูรูน ได้กลายเป็นคนวิ่งเร็วสุดในทัพฟุตบอล "ทีมผีแดง" เกมอัดทีม คิวพีอาร์ผลบอล 4 - 0 ซึ่งความเร็วอยู่ที่ 32,7 กม เหนือกว่าเจ้าแห่งความเร็วอย่าง ดิ มาเรีย ที่อุตส่าห์วิ่งได้ถึง 32,3 กม เสียอีก

โดยเมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าสุกรพิฆาตของ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นผู้เล่นที่วิ่งได้เร็วสุด ในเกมที่ทีมของเขาเปิดรังถล่ม ทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เอาชนะ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวใหม่ที่มีจุดเด่นตรงความเร็วไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ซึ่งหัวหอกกัปตันทีม วิ่งสปีดในจังหวะฉีกตัวหนี ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดในเกมดังกล่าวของเจ้าตัว 


  1. โดยวัดได้ 20,3 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 32,7 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่า 
  2. ดิ มาเรีย ที่วัดได้ 20,1 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 32,3 กิโลเมตร และตามมาด้วย 
  3. อันดับที่สาม อันโตนิโอ วาเลนเซีย นั้นเป็นอันดับที่ 3  20 ไมล์ต่อชั่วโมง


และในส่วนของนักเตะที่วิ่งได้ระยะมากสุดตกเป็นของ 


  • อันเดร เอร์เรร่า อีกหนึ่งมิดฟิลด์ตัวใหม่ของ "ทีมปีศาจแดง" โดยทำระยะไป 7,6 ไมล์หรือ 12,2 กม. 
  • ดาลี่ย์ บลินด์ คู่มิดฟิลด์ตรงกลางในเกมนั้น โดยวิ่งไป 7,4 ไมล์หรือ 11,9 กม 


ส่วนผู้ที่ทำสถิติทั้ง 2 อย่างได้ต่ำที่สุด และไม่นับผู้รักษาประตู กลับกลายเป็น 

  • อัดนาน ยานาไซ โดยวิ่งเร็วสุดที่ 15,9 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 25,7 กม 
  • ทำระยะไป 0,9 ไมล์หรือ 1,5 กม ซึ่งเจ้าตัวได้ลงสนามเพียง 8 นาทีเท่านั้น







เมื่อทางฮอตชอต ชี้สาลิกามีคุณสมบัติพร้อมตกชั้น




หลังจากที่เชียเรอร์ ได้ออกมาเตือนว่าทีม สาลิกา ระมัดระวังตัวเองไว้ให้ดี เนื่องจากตอนนี้ทีมมีคุณสมบัติของการร่วงตกชั้นครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นหลังเปียกเยี่ยงทิชชู่ และหน้าทื่ดั่งสากกะเบือ

เมื่อ อลัน เชียเรอร์ ตำนานกองหน้าจอมถล่มประตูของทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมชื่อดังแห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เมือง "ผู้ดี" ออกโรงวิเคราะห์ผลบอลแสดงความเป็นห่วงฟอร์มของทัพ "ทีมสาลิกาดง" ในช่วงออกสตาร์ทของการแข่งขันซีซั่นนี้ โดยระบุว่าตนไม่เห็นวี่แววของการที่ทีมจะพังประตูได้เลยในแต่ละเกม เช่นเดียวกับความอ่อนหัดในแนวรับอันเปื่อยยุ่ยที่เหมือนพร้อมจะถูกเจาะตาข่ายอยู่เสมอในทุกๆ วินาที ซึ่งนี่ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของทีมที่เตรียมตัวร่วงตกชั้น

โดยที่ ฮอตชอต ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติกระซวก 206 ประตู จากการลงสนาม 404 นัดให้กับ นิวคาสเซิ่ล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ทีมนิวคาสเซิ่ล เป็นทีมที่เหมือนไม่มีแววจะยิงประตูได้ และก็ไม่มีแววที่จะพร้อมรักษาคลีนชีตเช่นกัน นี่เป็นใบเสร็จชั้นดีของทีมที่กำลังจะร่วงตกชั้น และกุนซือใหญ่อย่าง อลัน พาร์ดิว ก็กำลังอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนัก

โดยที่ฟอร์มการเล่นของทีมในนัดแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0 - 4 เป็นอะไรที่พูดได้ว่าห่วยตั้งแต่ต้นยันจบ นิวคาสเซิ่ล จำเป็นจะต้องเริ่มเก็บชัยชนะให้ได้แล้วในตอนนี้ เพราะถ้าคุณยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ การเก็บชัยชนะสักนัดหนึ่งมันก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ความกดดันก็จะถาโถมเข้ามามากขึ้นไปอีก" เชียเรอร์ ร่ายยาว

และสำหรับทีม นิวคาสเซิ่ล นั้นออกสตาร์ทเกมลีกในซีซั่นนี้ไปแล้ว 4 นัด ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย แบ่งเป็นเสมอ 2 แพ้ 2 รั้งอยู่อันดับ 20 ของตาราง



ทางด้านอิมโมบิเล่ สุดโล่งประเดิมตุงแรกเสือเหลืองแล้ว


คงเป็นที่แจ้งเกิดเต็มตัว เมื่ออิมโมบิเล่ ยอมรับ เหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังซัดประตูแรกในสีเสื้อ "ทีมเสือเหลือง" ได้สำเร็จ เกมเปิดรังอัด "ทีมปืนใหญ่" 2 - 0 ศึกชปล รอบแบ่งกลุ่ม

ทางด้านของชิโร่ อิมโมบิเล่ ศูนย์หน้าตัวใหม่ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยักษ์ใหญ่แห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ออกมายอมรับว่าเขารู้สึกโล่งใจแบบสุดๆ หลังประเดิมประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้เสียที ยังเกมเปิดรัง ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เอาชนะ ทีมอาร์เซน่อล ไป 2 - 0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา โดยเผยว่าเหมือนเป็นการยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว

โดยที่ศูนย์หน้าชาวอิตาลี ที่เพิ่งย้ายมาจาก โตริโน่ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ได้กล่าวว่า "ผมดีใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มีคนพูดกับผมถึงความล้มเหลว ต้องไม่ลืมว่าการผมมาที่นี่ ผมมาในฐานะชาวต่างชาติ ฉะนั้นผมจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัว ซึ่งผมกำลังทำงานอย่างหนัก โค้ชและเพื่อนร่วมทีมที่นี่เยี่ยมมากๆ ช่วยผมมากมาย การมาทำงานที่ต่างประเทศ ช่วยให้คุณเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น และผมชอบที่จะสวมเสื้อตัวนี้"

ซึ่งผมขอยกประตูนี้ให้กับครอบครัว, ภรรยา, ลูกของผม อย่างที่พวกเขารู้ว่ามันยากขนาดไหนกับการเริ่มต้นที่นี่ ประตูนี้เป็นเหมือนการยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว หัวหอกวัย 24 ปี ร่ายยาว

และทั้งนี้ จากการเอาชนะ "ทีมไอ้ปืนใหญ่" ไปในเกมนี้ ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้นำกลุ่มดี มี 3 คะแนนเต็มจากการเล่นหนึ่งนัด โดยในโปรแกรมต่อไปทัพ "ทีมเสือเหลือง" จะต้องออกไปเยือน อันเดอร์เลชท์ ในวันพุธที่ 1 ตุลาคม ต่อไป



ทางด้านซิเมโอเน่ โอดว่าหมีเสียโอกาสไปเยอะทำพ่ายกอส 2-3


เมื่อซิเมโอเน่ โอดว่าทัพทีม ตราหมี นั้นใช้โอกาสเปลือง ทำให้เป็นเหตุให้บุกไปพ่าย "ทีมกอส" 2-3 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกเมือคืนนี้

ซึ่งทางด้าน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ของ แอตเลติโก มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลาลีกา สเปน ออกโรงเสียดาย หลังใช้โอกาสเปลือง จนเป็นเหตุทำให้พวกเขาบุกไปพ่าย โอลิมเปียกอส 2-3 ในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมชมคู่แข่งว่ามีความแข็งแกร่งพอตัวเลยทีเดียว

และทางกุนซือฟุตบอลชาวอาร์เจนไตน์ ผู้พาทัพ "ทีมตราหมี" คว้ารองแชมป์ ยูซีแอล เมื่อปีที่แล้ว โดยได้กล่าวว่า "มันเป็นเกมที่ยาก เรารู้ดีตั้งแต่วินาทีแรก โอลิมเปียกอส สามารถเข้ารอบมาได้ และพวกเขาจะต้องสู้กับเรากับ ยูเวนตุส สองทีมใหญ่ในยุโรป เรามีเกมบุกที่ดี มีโอกาสในช่วงครึ่งเวลาแรก แต่พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเมื่อได้บุกใส่ โอลิมเปียกอส โชคดีเมื่ออยู่ปากประตู และเราไม่สามารถทำได้เมื่อมีโอกาส"

โดยทั้งนี้ ทัพ "ทีมตราหมี" มีเกมนัดต่อไปโดยจะพบกับ ยูเวนตุส แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี ที่สนาม บิเซนเต้ กัลเดร่อน ต่อไป



พี่เจิดรับทีมหงส์หืดจับแม้เชือดทีมลูโดโกเรตส์ได้สำเร็จ


เจิด ยอมรับ "ทีมหงส์แดง" ต้องเล่นให้ดีกว่านี้ หากหวังจะอยู่รอดในศึก "บิ๊กเอียร์" ต่อไป หลังฟอร์มไม่ค่อยแจ่ม แม้เชือด ลูโดโกเรตส์ ได้สำเร็จ

เมื่อทางสตีเว่น เจอร์ราร์ด จอมทัพกัปตันทีมของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายอมรับว่า ทีมของตนเองยังเล่นได้ไม่ดีนัก และต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นกว่านี้ หากหวังจะไปได้ไกลในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้เกมนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม จะสามารถเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ลูโดโกเรตส์ ทีมดังจากบัลแกเรีย ไปได้แบบหืดจับ 2 - 1 เมื่อ 16 กันยายนที่ผ่านมา

ซึ่งเกมในนัดนี้ ทีมลิเวอร์พูล มาได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากจุดโทษของ "สตีวี่จี" ช่วยให้พวกเขาสามารถเก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์จอมเก๋า ก็ยอมรับว่าฟอร์มการเล่นโดยรวมนั้นยังไม่ดีสักเท่าไหร่นัก "เราเล่นกันได้โอเค แต่เราไม่ได้เล่นดีกว่าคำว่าโอเคเลย มันยังมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะ เรามักจะมีปัญหาเวลาโดนเกมสวนกลับ ในรายการนี้ ถ้าเกมหน้าเราเอาชนะ บาเซิ่ล ได้ มันจะทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี และมีโอกาสเข้ารอบ แต่ก่อนอื่นเลย เราต้องเล่นกันให้ดีกว่าเกมนัดนี้"

และนอกจากนี้ กัปตันทัพทีม "หงส์แดง" วัย 34 ปี ยังได้ออกมากล่าวชื่นชม มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกป้ายแดง ที่สามารถเบิกสกอร์แรกของตัวเองกับทีม ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเกมนัดนี้ โดยระบุว่า "คุณต้องให้เครดิตกับ บาโลเตลลี่ เขาพบกับปัญหาในการทำประตู มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่การเป็นดาวยิงที่ดีคุณจะต้องเดินหน้าต่อไป และหาโอกาสทำประตูให้ได้ และในที่สุดเขาก็ทำมันสำเร็จ นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะที่ขยันและทุ่มเทอีกด้วย"

ซึ่งสำหรับทีม ลิเวอร์พูล มีคิวลงเล่นในศึก "บิ๊กเอียร์" อีกครั้ง ในวันที่พุธที่ 1 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ โดยจะพบกับ เอฟซี บาเซิ่ล จากสวิตเซอร์แลนด์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น