ฟุตบอล European nights หรือการคืนยุโรปและผลบอลเกมมันเดย์ไนท์2-2

กลับคืนยุโรป

โดยเมื่อวิเคราะห์บอลเข็มนาฬิกาเดินทางผ่านเส้นผ่านของวันใหม่ ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิดและหมู่ดาวที่ร้อยพราวเต็มท้องฟ้า

เรียกได้ว่าเป็นการ “คืนยุโรป” European nights จะกลับมาอีกครั้งครับ

ซึ่งในสนามของบรรดาสโมสรต่างๆมากมายที่เข้าร่วมชิงชัยในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือในชื่อเดิมยูโรเปี้ยน คัพนั้น สนามที่ได้รับการยกย่องในเรื่องของบรรยากาศภายในสนามที่ มีมณฑ์ขลัง มากที่สุดแห่งหนึ่งคือ แอนฟิลด์ ของทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล

อาจจะเรียกได้ว่าจะมาชมเกมที่แอนฟิลด์นัดไหน ก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการได้มาชมในคืนที่ยุโรป

ด้วยเหตุผลนั้นเป็นเพราะทีมลิเวอร์พูล นั้นมี เรื่องเล่ามากมายในฟุตบอลรายการสโมสรยุโรปครับ ซึ่งสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเหล่านั้น ไม่ว่าจะจากความยอดเยี่ยมของผู้เล่นในทีมที่ครั้งหนึ่งเคยพา หงส์แดงตะแคงฟ้า มาแล้ว

ซึ่งนี่อาจจะเป็น “พลัง” อันน่ามหัศจรรย์ของเหล่ากองเชียร์เดอะ ค็อป ที่ส่งถึงนักเตะในดวงใจจนนำชัยชนะครั้งสำคัญมาสู่ทีมนับครั้งไม่ถ้วน ผ่านบทเพลงอันทรงพลัง และแผ่นป้ายให้กำลังใจที่สวยงามตระการตา

และโดยเฉพาะบทอัฒจันทน์ “ทีมค็อป เอนด์” ที่ถือเป็นต้นกำเนิดตำนานของทีมลิเวอร์พูล

เรื่องนี้จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็น สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันคนสุดท้ายที่ได้ชูโทรฟี่ในศึก “บิ๊กเอียร์” ขอพลังใจ อันหมายถึงทั้ง กำลังใจ และ แรงบันดาลใจ จากนักเตะคนที่ 12 ในสนาม

และเพราะนี่คือการกลับมาครั้งแรกหลังตกต่ำและห่างหายไปจากเวทีระดับนี้ถึง 5 ปี ซึ่งในทีมเหลือนักเตะแค่ 2 คนที่มีประสบการณ์ระดับนี้คือ เจอร์ราร์ด และ สเคอร์เทล

ซึ่งพลังใจนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้

ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่คือวันที่พวกเขารอคอยมาแสนนาน นั่นยิ่งทำให้น่าจับตาว่า บรรยากาศ ในแอนฟิลด์จะยิ่งใหญ่สักแค่ไหนในถิ่น “คืนยุโรป” ครานี้

ล่าสุด อเนลก้าเซ็นสัญญา ซบมุมไบเรียบร้อย

โดยทางอเนลก้า แถลง บรรลุข้อตกลงในการย้ายซบ มุมไบ ซิตี้ แล้วเรียบร้อย โดยจะได้มีโอกาสร่วมงานกับ ปีเตอร์ รีด อดีตกุนซือคนดังของศึก พรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี

ก็เป็นอันว่าได้สังกัดใหม่เสียที สำหรับ นิโคล่าส์ อเนลก้า หัวหอกตัวเก๋าชาวฝรั่งเศส ที่ล่าสุด ออกโรงให้สัมภาษณ์เปิดเผยวิเคราะห์บอลพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการว่าได้บรรลุข้อตกลงในการเซ็นสัญญาย้ายไปซบตัก มุมไบ ซิตี้ ทีมเจ้าสัวประจำศึก อินเดียน ซูเปอร์ลีก แล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการเซ็นสัญญาแต่อย่างใด

หลังจากที่ดาวเตะวัย 35 ที่ต้องเป็นแข้งไร้สังกัดนับตั้งแต่แยกทางกับทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนส์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ผมรู้สึกปลาบปลื้มมากที่ได้ย้ายไปอยู่กับ มุมไบ เอฟซี และก็ตื่นเต้นจริงๆ ที่จะได้สัมผัสกับ อินเดียน ซูเปอร์ลีก ที่นี่มีผู้เล่นระดับนานาชาติมากมายหลายคน รวมไปถึงนักเตะพรสวรรค์ของ อินเดีย ซึ่งก็น่าจะเป็นส่วนผสมที่ทำให้เกมการแข่งขันน่าตื่นเต้น"

และสำหรับ ทีมมุมไบ ซิตี้ นั้นปัจจุบันกุมบังเหียนโดย ปีเตอร์ รีด กุนซือคนดังชาวเมือง "ผู้ดี" ซึ่งลีกแดน "ภารตะ" จะเริ่มต้นการแข่งขันซีซั่นนี้ในเดือน ตุลาคม

ทีมฮัลล์สุดเซ็ง หลังโดนทีมขุนค้อนไล่เจ๊า2-2เกมมันเดย์ไนท์

แม้ว่า ทีมเดอะ ไทเกอร์ส จะได้ประตูนำถึง 2 ครั้ง 2 คราว แต่ไม่สามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้ โดน ทีมขุนค้อน ไล่ทวงประตูผลบอล เสมอ 2-2 แบ่งแต้มไปฝั่งละ 1 คะแนน ในศึก พรีเมียร์ลีก นัด มันเดย์ไนท์ เมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมา

สำหรับศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 4 ของฤดูกาล 2014-15 แข่งขันคืนวันจันทร์ที่ 15 กันยายน 2557 ในศึก มันเดย์ไนท์ ระหว่าง ทีมเดอะ ไทเกอร์ส ฮัลล์ ซิตี้ ก่อนลงสนามรั้งอันดับ 12 มี 4 คะแนน เปิดสนาม เคซี สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ก่อนแข่งมี 3 คะแนน รั้งอันดับ 14

โดยการเริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 11 ทีมเวสต์แฮม มีลุ้นก่อน จากจังหวะที่ เมาโร ซาราเต้ ไหลบอลให้ มาร์ค โนเบิ้ล ได้กดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น

ซึ่งในนาทีที่ 30 ทีมเวสต์แฮม นั้นเป็นฝ่ายทำเกมได้ไหลลื่นมากกว่า มีโอกาสลุ้นอีกครั้ง อารอน เครสส์เวลล์ ทำชิ่งต่อให้กับ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง แตะบอลยิงด้วยซ้ายเหนือเส้น 18 หลา บอลพุ่งหลุดกรอบ

นาทีที่ 35 ทีมขุนค้อน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ อารอน เครสส์เวลล์ ครอสบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาสองให้ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย โหม่งชงให้ เดียฟรา ซาโก้ เข้าชาร์จจ่อๆ แต่บอลไปติดปลายมือ อัลลัน แม็คเกรเกอร์

นาทีที่ 36 โอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรกของ ทีมฮัลล์ จากจังหวะที่ นิกิช่า เยลาวิช โหม่งชงต่อให้ อาเบล เอร์นานเดซ แต่งบอลกดด้วยซ้ายบริเวณหัวกะโหลก บอลพุ่งไปตรงตัว อาเดรียน

นาทีที่ 39 กองเชียร์ ทีมเดอะ ไทเกอร์ส ได้เฮลั่นสนาม เมื่อ ฮัลล์ มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เอลโมฮามาดี้ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ อาเบล เอร์นานเดซ ขึ้นโหม่งบอลเปลี่ยนทางเสียบมุม อาเดรียน หมดสิทธิ์ป้องกัน

ซึ่งก่อนหมดครึ่งแรกเพียงแค่ 1 นาที ทีมฮัลล์ ส่งลูกเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ อาเบล เอร์นานเดซ สับไกด้วยซ้ายบอลไปชนคานกระเด้งออกมา นิกิช่า เยลาวิช โหม่งซ้ำเข้าไป แต่มีธงยกขึ้นมาเป็นจังหวะล้ำหน้าของหอกโครแอต

และหมดครึ่งแรก ทีมฮัลล์ นำ ทีมเวสต์แฮม อยู่ที่สกอร์ 1 - 0

เข้าสู่เกมส์ในครึ่งหลัง ลงสนามมาได้ไม่นาน ในนาทีที่ 50 ทีมเวตส์แฮม ตามทวงประตูคืนได้สำเร็จ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ครองบอลอยู่หน้าเขตโทษ ก่อนหาจังหวะสับไกด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบใต้คานอย่างสุดสวย ทำให้ ทีมขุนค้อน ตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 58 ทีมฮัลล์ เปลี่ยนผู้เล่นคนแรก ส่ง ร็อบบี้ เบรดี้ ลงสนามแทน สตีเฟ่น ควินน์ ขณะที่ "ขุนค้อน" ส่ง อเล็กซ์ ซง กองกลางตัวยืมจาก บาร์ซ่า ลงแทน เมาโร ซาราเต้

นาทีที่ 64 ทีมเดอะ ไทเกอร์ส ที่แม้เกมจะเป็นรอง แต่กลับมาได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากความผิดพลาดของ อารอน เครสส์เวลล์ ทุ่มบอลเข้ากลาง โดน ดิอาเม่ ตัดบอลได้ ก่อนเลี้ยงเข้าไปยิงเสียบเสาอย่างเหนือชั้น

นาทีที่ 67 ดีใจได้ไม่นาน เจ้าบ้านโดน เวสต์แฮม ทวงประตูตีเสมอ 2-2 ทันควัน จากจังหวะที่ เดียฟรา ซาโก้ ตวัดบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลาง อัลลัน แม็คเกรเกอร์ ปัดโดนปลายมือ บอลแฉลบขา เคอร์ติส เดวิส เข้าประตูตัวเอง

นาทีที่ 75 ทีมเวสต์แฮม มีโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เปิดบอลจากฝั่งขวาข้ามไปที่เสาสองให้ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ได้โหม่ง บอลย้อยเกือบเสียบคาน แม็คเกรเกอร์ ลอยตัวปัดออกไปได้ทัน

และในเวลาที่เหลือ ก็ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม 90 นาที ทีมฮัลล์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอกับ ทีมเวสต์แฮม ไปด้วยสกอร์ 2-2 แบ่งแต้มไปทีมละ 1 คะแนน

ตารางบอลรายชื่อผู้เล่น ทีมฮัลล์ ซิตี้

1. อัลลัน แม็คเกรเกอร์ 
2. อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้
3. ไมเคิ่ล ดอว์สัน
4. เคอร์ติส เดวิส
5. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 
6. โมฮาเหม็ด ดิอาเม่ เปลี่ยน กาสตัน รามิเรซ แทนนาทีที่ 79
7. เจค ลิเวอร์มอร์
8. ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน
9. สตีเฟ่น ควินน์ เปลี่ยน ร็อบบี้ เบรดี้ แทนนาทีที่ 58 
10. นิกิช่า เยลาวิช
11. อาเบล เอร์นานเดซ เปลี่ยน ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา แทนนาทีที่ 79

ตารางตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้

1. สตีฟ ฮาร์เปอร์ 
2. เจมส์ เชสเตอร์
3. เลียม โรซีเนียร์
4. เดวิด เมย์เลอร์

ตารางบอลรายชื่อผู้เล่น ทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

1. อาเดรียน 
2. กีย์ เดเมล เปลี่ยน คาร์ล เจนกินสัน แทนนาทีที่ 76
3. เจมส์ ทอมกิ้นส์
4. วินสตัน รีด
5. อารอน เครสส์เวลล์ 
6. ชีคู คูยาเต้
7. มาร์ค โนเบิ้ล 
8. สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง
9. เมาโร ซาราเต้ เปลี่ยน อเล็กซ์ ซง แทนนาทีที่ 62
10. เดียฟรา ซาโก้ เปลี่ยน มอร์กก็อง อมาลฟิตาโน่ แทนนาทีที่ 87 
11. เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย

ตารางตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้ 

1. ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น 
2. เจมส์ คอลลินส์
3. ริคาร์โด้ วาซ เต
4. คาร์ลตัน โคล

กรรมการผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

เมื่อเฮียมู ยังแขวะ โด้ ไม่เลิก 

โดยที่อ้างว่าทำชวดลุ้นแชมป์ชปล.เป็นครั้งที่ 3

โดยทางที่ โจเซ่ มูรินโญ่ ที่เป็นกุนซือทีมเชลซี ยังคง แอบแขวะ ซุปตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตลูกทีมสมัยทำงานร่วมกันที่ ทีมรีล มาดริด ไม่เลิก ซึ่งแม้ทั้งคู่จะเป็นคน โปรตุเกส เหมือนกัน แต่พักหลังมักออกมาให้สัมภาษณ์เชิงลบระหว่างกันและกันมาตลอด

และล่าสุด ผู้ที่เป็นยอดโค้ชวัย 51 ปี ได้ให้โปรแกรมบอลสัมภาษณ์ในทำนองว่า อดีตดาวเตะค่าตัวแพงสุดของโลกอย่างโรนัลโด้ มีส่วนทำให้ตัวเองต้องพลาดการคุมทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นสมัยที่ 3 ต่อจากเอฟซี ปอร์โต้ ปี 2003- 2004 และ ทีมอินเตอร์ มิลาน ปี 2009 - 2010

โดยหลังจากที่ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทีม ราชันชุดขาว ของมูรินโญ่พ่ายจุดโทษทีมบาเยิร์น มิวนิก 1-3 ในเกมรอบรองชนะเลิศฤดูกาล 2011 - 2012 โดยโรนัลโด้เป็น 1 ใน 3 นักเตะของมาดริดที่ยิงเป้าไม่เข้า

และมูรินโญ่กล่าวว่า การที่ตัวเองเคยคุมทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 2 ครั้ง ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในโค้ชที่พิเศษกว่าคนอื่น เช่นเดียวกับการพาทีมเข้ารอบตัดเชือกได้หลายครั้ง แต่มีอยู่ไม่กี่ครั้งที่ต้องพลาดเข้าชิงแบบทำใจไม่ได้

ซึ่งทั้งที่ ประตู ที่ไม่เป็น ประตู ของหลุยส์ การ์เซีย ยิงให้ ทีมลิเวอร์พูลเอาชนะ ทีมเชลซีของตนในฤดูกาล 2004 - 2005 และการที่มาดริดแพ้จุดโทษ ทีมบาเยิร์นฤดูกาล 2011 - 2012 ทั้งที่คนยิง มือหนึ่ง ของทีมที่ทุกคนเชื่อใจกลับยิงพลาด แม้มูรินโญ่จะไม่เอ่ยถึงชื่อโรนัลโด้ออกมาก็ตาม