รวมข่าวฟุตบอลศึกพรีเมียร์ลีกในรอบสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านคอสต้าชี้ ทีมกระทิงแพ้เพราะเครียด?

ทางด้านของ คอสต้า ยืนยันว่า การที่ทัพ "ทีมกระทิง" ได้พ่ายในเกมก่อน ทำให้เป็นกังวลมากกว่าการหาประตูแรกของตัวเอง หลังเปิดซิงสำเร็จในเกมอัด ทีมลักแซมเบิร์ก 4 - 0

เมื่อดีเอโก้ คอสต้า ที่เป็นศูนย์หน้าทีมชาติสเปน ได้ออกโรงยืนยันว่า เขานั้นรู้สึกเป็นกังวลกับการที่ทีมพ่ายแพ้ให้กับ ทีมสโลวาเกีย 1 - 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 9 ตุลาคม มากกว่าการที่จะมา นั่งเครียดกับการที่ยังไม่สามารถยิงประตูแรกของตัวเองได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เจ้าตัวก็ได้เบิกร่องสกอร์ได้สำเร็จ ในเกมที่เอาชนะ ทีมลักแซมเบิร์ก 4 - 0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา

หลังจากที่กองหน้าจากสโมสรทีม เชลซี ในศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้กล่าวว่า ผมต้องขอขอบคุณบิเซนเต้ เดล บอสเก้ กับการสนับสนุนของเขา มันเป็นเรื่องน่ากังวลของผม จากการที่ผมไม่สามารถทำประตูได้ แต่ที่มันกวนใจผมแท้จริงแล้วคือการที่ทีมแพ้นัดก่อน แต่ประตูที่ผมทำได้ มันเป็นการทำให้ผมเริ่มต้นใหม่

และกองหน้าในวัย 26 ปี ได้ลงเล่นให้กับทัพ "ทีมกระทิงดุ" ไปแล้ว 7 นัด และเพิ่งซัดประตูแรกในการรับใช้ชาติได้เป็นหนแรกยังเกมดังกล่าว ผิดกับยามที่เขาสวมเสื้อ "ทีมสิงโต น้ำเงินคราม" นับตั้งแต่ย้ายมา ลงสนามไปแล้ว 7 เกม ยิงได้ถึง 9 ประตู

ชิรูด์นั้นใกล้สลัดเดี้ยงแล้ว

เวนเก้อ เผยว่า "ชิรูด์" นั้นอาจสลัดเดี้ยง กลับมาลงล่าตาข่ายได้ก่อนกำหนด หลังการรักษาและการฟื้นฟูเป็นไปได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมยัน เล่นร่วม "มหาเทพเวล เบ็ค" ได้อย่างแน่นอน

โดยหลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ซึ่งเป็นกุนซือมากประสบการณ์ของสโมสร ทีมอาร์เซน่อล ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยว่า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ ทีม ใกล้ที่จะสลัดอาการบาดเจ็บ นั้นจะได้กลับมาลงเล่นอีกครั้งนึงแล้ว หลังจากการฟื้นฟูร่างกายของเขาเป็นไปได้ด้วยดี

ซึ่งหัวหอกวัย 28 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณเท้า ในเกมที่ทัพทีม "ปืนใหญ่" ผลบอลเสมอกับ ทีมเอฟเวอร์ตัน 2-2 ประตู เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามล่าสุด กุนซือเลือดเฟร้นซ์ ได้ออกมาเปิดเผยให้เหล่าบรรดา "เดอะ กันเนอร์ส" ได้ชื่นใจ โดยได้ระบุว่า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ มีการฟื้นตัวที่รวดเร็วมาก ผมเชื่อว่าเขาจะกลับมาฟิตสมบูรณ์ได้ก่อนกำหนด เพราะการผ่าตัดเป็นไปได้อย่างดีเยี่ยม

และนอกจากนี้ เวนเกอร์ เองยังยืนยันว่า ชิรูด์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค ดาวยิงตัวใหม่ จะสามารถเล่นร่วมกันได้อย่างไร้ปัญหา เวลเบ็ค และ ชิรูด์ สามารถเล่นร่วมกันได้ ในฐานะคู่ กองหน้า หรือ เวลเบ็ค อาจจะถ่างออกมาริมเส้นก็ได้ เพราะเขาก็เคยเล่นเป็นตัวริมเส้นสมัยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมี เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นกองหน้า นายใหญ่แห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้กล่าวทิ้งท้าย

รอยคีนจวกแนวรับทีมผี สุดอ่อน ต่อให้อีก 3 ปี ก็ยังว่าวแชมป์

วิจารณ์ยับ!!!  เมื่อ คีโน่ ได้จวกแนวรุกดีไม่ช่วยอะไร เหตุแนวรับ "ทีมผีแดง" สุดอ่อน แถมประสบการณ์น้อยนิด เชื่อ อีก 2 - 3 ปีก็ยังไม่ได้สักแชมป์

โดยเมื่อ รอย คีน ที่เป็นอดีตมิดฟิลด์พันธุ์ดุของ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้วิจารณ์ต้นสังกัดเก่าว่า ทีมยังมีนักเตะอ่อนประสบการณ์อยู่อีกหลายรายโดยเฉพาะใน แนวรับ ดังนั้นโอกาสที่ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือชาวดัตช์จะพาลูกทีมคว้าแชมป์อาจยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน แต่ต้องปล่อยให้นักเตะลับฝีเท้าอีกนานกว่า 2 - 3 ปี

และ คีโน่ เขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญเกมลูกหนังชื่นชมผลงานที่กระเตื้องขึ้นของ "ทีมปีศาจแดง" จนรั้งอันดับ 4 ในตารางคะแนนว่า 2 - 3 สัปดาห์มานี้ ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานดูดีขึ้น พวกเขาจะเก็บชัยชนะได้อีกหลายแมตช์ เพราะว่ามีคนยิงประตูหลายคน ทีมกำลังเคลื่อนไปข้างหน้า มันยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าพูดถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก หรือ แชมเปี้ยนส์ ลีก ผม คิดว่าใช้เวลาอีก 2-3 ปีก็ยังไม่พอ สำหรับแนวรับชุดนี้ที่เพิ่งสร้างใหม่

และการเอาชนะด้วยประตูจำนวนมากทำให้ทีมก้าวไปข้างหน้าได้ก็จริง แต่ถ้าแนวรับขาดประสบการณ์ และเจอปัญหาบาดเจ็บเหมือนในตอนนี้ บางทีมันคงยากที่จะเป็น แชมป์ คีน อธิบาย

ซึ่งทั้งนี้ ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมที่มีแนวรุกชั้นยอด ยิงได้ 13 ประตู มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในลีก แต่เสียไปถึง 10 ประตู มากที่สุดในครึ่งบนของตาราง คะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุด

เสือใต้ เตรียมทุ่ม 30 ล้านปอนด์ เพื่อสอยโอซิลมาร่วมก๊วน

ทีมบาเยิร์น มิวนิค ซุ่มเงียบอีกแล้วสินะ? ดูเหมือนคราวนี้มีข่าวโปรแกรมบอลเตรียมที่จะยื่นเงิน 30 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อตัว โอซิล กองกลางของ "ทีมปืนใหญ่" หลังมีข่าวลือเรื่องไม่แฮปปี้กับตำแหน่งการ เล่น

โดยทีมบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเป็นมหาอำนาจแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ได้เตรียมที่จะยื่นข้อเสนอจำนวน 30 ล้านป. หรือ 1,650 ล้านบ. เพื่อที่จะขอซื้อ เมซุต โอซิล เพลย์เมคเกอร์ของ อาร์เซน่อล ทีมดังจากเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาร่วมทัพในช่วงเปิดตลาดซื้อ - ขายนักเตะ ในเดือนมกราคมนี้

ซึ่งทาง เดลี่ เมล์ สื่อจอมเต้าจากเมืองผู้ดีระบุว่า โอซิล เริ่มไม่มีความสุขแล้วกับชีวิตในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจากถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส จับตัว เขาไปเล่นตำแหน่งปีกซ้ายหรือปีกขวา แทนที่จะเป็นกองกลางตัวรุกตามถนัด ทำให้เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้

และพร้อมกันนี้ได้มีกระแสข่าวลือด้วยว่า ทีมอาร์เซนอล อาจตัดสินขายมิดฟิลด์วัย 25 ปี ออกจากทีมก็เป็นได้ เพื่อระดุมเดินหน้าล่าตัว ซามี่ เคห์ดิร่า กองกลางทีมชาติเยอรมันของทีม เรอัล มาดริด ยัหษ์ใหญ่จากประเทศสเปน ซึ่งเป็นเป้าหมายของ เวนเกอร์ มาช้านาน

ผีแดงอาจได้ตัว วิดัล หากยอมแลก มาต้า

ทีมผีแดง อาจจะมีสิทธิ์ได้ตัว วิดัล อย่างสมใจสักทีในช่วงเดือนมกราคมนี้ หลัง "ทีมยูเว่" ตั้งเงื่อนไขว่า อยากได้ มาต้า บ้าง

โดยทางสื่อ คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต ซึ่งเป็น สื่อดังแดน มักกะโรนี ได้รายงานว่า สโมสร ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ใกล้จะสมหวังในการคว้าตัว อาร์ตูโร่ วิดัล มิดฟิลด์ตัวแกร่งจาก ยูเวนตุส เสียที ซึ่งหลังจากรอคอยกันมานานแสนนาน แต่มีเงื่อนไขว่าแชมป์จากศึก กัลโช่ เซเรีย อา นั้นก็ต้องการ ฆวน มานูเอล มาต้า เป็นข้อแลก เปลี่ยนหนนี้

โดยที่ ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวหนาหูว่าทาง "ทีมไอ้ม้าลาย" นั้นเริ่มไม่สบอารมณ์กับพฤติกรรมของแข้งชาวชิลี หลังก่อเรื่องทะเลาะวิวาทหน้าไนท์คลับ แถมยังไปเที่ยวก่อนทีมเตะ 24 ชั่วโมงซึ่งผิดกฏทั่วไปของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพอีกด้วย ทำให้ "ทีมยูเว่" มีแนวโน้มที่จะปล่อยตัวเขาออกไปเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม

เพียงแต่ว่า ทีมยูเวนตุส นั้นก็ต้องการข้อแลกเปลี่ยนกับทาง ทีมปีศาจแดง ที่ยังต้องการ วิดัล มาร่วมทัพอยู่ คือการให้ มาต้า เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการซื้อขายครั้งนี้นั่น เอง

ทีมปืนได้โหวตให้ฮาร์ทเป็นแข้งยอดเยี่ยม 2 เกมติด

หลังจากที่ เหล่าสาวกทีม "สิงโตคำราม" ได้แห่เทคะแนนให้ "ฮาร์ท" นั้นคว้ารางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมตซ์" จากเกมที่เฉือนชนะ "ทีมเอสโตเนีย" 1 - 0 ทั้งๆ ที่แทบไม่ได้เซฟลูกยากอะไร เลยตลอดทั้งเกม

ได้กลายเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว เมื่อบรรดาทีมแฟนบอลของทีมชาติอังกฤษ ได้แห่เทคะแนนโหวตให้ โจ ฮาร์ท เป็นผู้รักษาประตูมือ 1 จากสโมสร ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมยักษ์ใหญ่ แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำเกมที่ทัพ ทีมสิงโตคำราม บุกไปเอาชนะ เอสโตเนีย ได้ 1-0 ประตู ทั้งๆ ที่เจ้าตัวแทบไม่ได้ป้องกันประตู หรือ สัมผัสบอลเลย

โดยที่เกมนัดดังกล่าวทัพทีมทรี ไลอ้อนส์ นั้นได้ประตูชัยจากลูกปั่นฟรีคิกของ เวย์น รูนี่ย์ ในนาทีที่ 74 โดยหลังจบเกม แฟนบอลทีมชาติอังกฤษได้มีการโหวต "แมน ออฟ เดอะ แมตซ์"

ซึ่งผลที่ออกมานั้น ค่อนข้างน่าประหลาดใจมาก เมื่อรางวัลดังกล่าวตกเป็นของ นายด่านวัย 27 ปี ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงถึง 83 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ทิ้งห่างอันดับ 2 และ 3 อย่าง แจ็ค วิลเชียร์ อยู่ 6 เปอร์เซ็นต์ และ เวย์น รูนี่ย์ ผู้ทำประตูชัยให้ทีม อยู่ 3 เปอร์เซ็นต์ขาดลอย

และรางวัลดังกล่าวถือว่าเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่ ฮาร์ท นั้นได้รับ หลังจากเกมก่อนหน้านี้ที่ อังกฤษ ถล่มเอาชนะ ซาน มาริโน่ ไป 5-0 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้รับเลือก ทั้งๆ ที่ไม่ได้เซฟอะไรเลยเช่นเดียวกัน

เวนเกอร์ เผย เสียใจที่ผลักมู , แต่ยันว่าโดนยั่วก่อน

อาร์เซเวนเกอร์ ได้ออกมายอมรับว่า ตนผิดเต็มประตู หลังจากการที่ไปผลักใส่ มูรินโญ่ ในเกมที่ "ทีมปืน" พ่าย "ทีมสิงห์"อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากให้คนอื่นๆ เข้าใจด้วยว่าตนเป็นฝ่ายถูกยั่วยุจากกุนซือรายนี้ก่อน

หลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือมาดละเมียดของ ทีมอาร์เซน่อล ทีมชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เปิดเผยว่า ตนนั้นยอมรับผิดแต่โดยดีจากการที่ไปมีปัญหาขัดแย้งกับ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์จอมอหังการของ ทีมเชลซี จนถึงขั้นโมโหผลักอก เนื่องจากนี่ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของคนที่เป็นผู้จัดการทีม แต่ถึงกระนั้น ตนก็มองว่า "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" เป็นคนที่พยายามจุดไฟยั่วยุตนก่อน

ซึ่งเทรนเนอร์ เลือดน้ำหอม นั้นได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อมองจากตรงนี้ ผมคิดว่าผมไม่ควรจะไปตอบโต้อะไรเขาเลย นี่ไม่ใช่วิธีการปฏิบัติตัวยามอยู่ในเกมการแข่งขัน ผม รู้สึกเสียใจเสมอกับสัญญาณความรุนแรงในทุกๆ กรณี และผมก็ต้องขอโทษเอาไว้ด้วย แต่เรื่องพวกนี้มันก็เป็นส่วนหนึ่งของเกมในช่วงที่ทุกๆ อย่างกำลังบ้าคลั่ง สิ่งที่ผม คิดในตอนนั้นก็คือ มูรินโญ่ กำลังพยายามยั่วยุผมใช่หรือไม่ ? เพราะผมไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ทางเทคนิคของทีมเขา

ซึ่งในส่วนของ มูรินโญ่ เองนั้นก็ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้เล็กน้อยเช่นกัน โดยได้กล่าวสั้นๆ ว่า ผมไม่มีคำพูดอะไรทั้งสิ้นกับสิ่งที่ทุกคนเห็นในภาพ ผมคิดว่า เวนเกอร์ คงจะอยาก อธิบายอะไรก็ตามที่เขาอยากพูด และผมจะไม่ขอพูดเพิ่มเติมอีก



ที่มา: http://sport.sanook.com/football/premierleague/