วิเคราะห์ผลบอล : ก็อาจจะเรียกได้ว่า เป็นเคมีคงจะไม่ตรงกัน

อาจจะเรียกได้ว่า เคมีคงจะไม่ตรงกัน

สำหรับการที่จะดูวิเคราะห์ฟุตบอลให้สนุกนั้น ก็ต้องมีในเรื่องของการแข่งขัน อย่างในยุคนี้ สื่อหลายเจ้าก็พยายามยกเอา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ มาเป็นอริกัน ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงทั้งคู่ เองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้

และถ้าเกิดจะเอาคนที่เป็นอริกันจริงๆ ชนิดที่ไม่ชอบขี้หน้ากัน แถมแบบชนิดไม่มีเม้ม ก็คงเป็นคู่นักเตะกุนซือ นั่นคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั่นเอง ทั้งๆที่ทั้งสองคนน่าจะร่วมงานกันได้ แต่ก็ไปกันไม่รอด เพราะว่า เคมีไม่ตรงกัน

โดยที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ อิบราฮิโมวิช ได้ออกมายอมรับว่าไปถูกชะตากันจริงๆ

และถึงแม้ว่าในช่วงปัจจุบัน ซลาตัน นั้นจะมาเป็น ซึ่งซุปตาร์คนดังกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเป็นทีมอภิอัครมหาเศรษฐีแห่งศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ส่วน เป๊ป ก็ผันตัวเองไปคุม ทีมบาเยิร์น แต่ไอ้การร่วมงานกันเพียงแค่ปีเดียว ที่ทีมบาร์เซโลน่า ก็ทำให้เกิดอรินักเตะกุนซือ ชนิดที่แทบไม่มองหน้า ไม่พูดดี ๆ ใส่กันเลยทีเดียว

โดยจากการที่ ทีมบาร์ซ่า กับ ทีมเปแอสเช นั้น มาอยู่กลุ่มเดียวกันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และมีคิวจะเจอกันในวันอังคารนี้ ซึ่งเมื่อคอลัมน์นี้ออกไป ก็คงจะรู้ผลแล้วล่ะว่ามันจบยังไง ทำให้นักข่าวของ ฝรั่งเศส มาขอสัมภาษณ์ตัว อิบรา ถึงจุดเชื่อมโยงกับ ทีมบาร์ซ่า และ แน่นอนว่า อิบรา ก็จัดเต็มเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา อย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า

เมื่ออิบราออกมาสับเป๊ปที่ทำลายความฝันของเขาในการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก

ซึ่งเมื่อฤดูกาล 2009 - 2010 ทีมบาร์เซโลน่าได้คว้าตัวของ ซลาตัน มาสู่ทีม ด้วยการทุ่มเงินมหาศาลให้กับ ทีมอินเตอร์ มิลาน บวก ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงชาวแคเมอรูน ที่มีส่วนสำคัญช่วยให้สโมสรคว้า ทริปเปิลแชมป์ ในปีก่อนหน้า เพื่อแลกตัวกับ อิบรา

และจากการเริ่มต้นของ อิบรา กับ ทีมบาร์ซ่า ดูเหมือนจะไปได้สวย เมื่อเขาประสานงานกับ 

1. ลิโอเนล เมสซี่ 
2. อันเดรส อิเนียสต้า 
3. ชาบี เอร์นานเดซ 

นั้นได้อย่างลงตัว จนแทบจะเป็นเหมือน จตุรเทพของทีมไปแล้ว

ซึ่งเขาเป็นนักเตะที่ออกสตาร์ทได้สวยหรู ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการทำประตูได้ใน 5 เกมแรกที่ลงสนาม แต่ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม มันก็เหมือนกับว่า บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป และมันก็คือจุดเริ่มของความบาดหมางระหว่าง เขากับ เป๊ป

ในตอนนั้น ผมกำลังทำผลงานได้ดี แต่ว่า จู่ ๆ เป๊ป มาบอกว่า เมสซี่ ที่เล่นด้านขวามาตลอดตั้งแต่ปีก่อน อยากหุบเข้ามาเล่นตรงกลาง เขาขอให้ผมขึ้นไปยืนค้ำ ไม่ต้องลงมาล้วงบอล ให้รอยิงประตูอย่างเดียว ผมด่าเขากลับไปทันทีว่า ขอโทษ ผมซลาตัน นะ ถ้าคุณอยากได้กองหน้าสไตล์นั้น คุณก็ไปซื้อ ฟิลิปโป้ อินซากี้ มาสิ จะมาซื้อซลาตันทำไม ซลาตัน จะไม่ทำแบบนั้น นี่คือส่วนหนึ่งในหนังสือของ ซลาตัน ที่อุทิศ 1 บท ในการด่าเป๊ป แบบเต็ม ๆ

และหลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น อย่างที่เห็นกัน แม้ว่า ซลาตัน จะทำผลงานได้ดี แต่กลับไม่ค่อยได้ลงสนามช่วยท้ายซีซั่น เนื่องจาก เป๊ป จะใช้ระบบกองหน้า 3 จิ๋ว ได้แก่ 

1. เมสซี่
2. เปโดร 
3. โบยาน 

และแม้ว่าตัวของ ซลาตัน จะทำผลงานได้โอเคก็ตาม

โดยที่ซลาตัน ได้ยอมรับว่า เขาเจ็บปวดมากในช่วง 1 ปี ที่เล่นให้กับ ทีมบาร์ซ่า ก็คือ การต้องพลาดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งอิบราโทษว่าเป็นเพราะเป๊ปนั่นเอง

ซึ่งตอนนั้น เราก็มีทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก แต่เพราะการตัดสินใจแย่ๆของคนบางคน ทำให้เราไม่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นี่คือสิ่งที่ อิบรา เชื่อมาตลอด ว่าเป็น เพราะความอคติของเป๊ปทำให้ทีมไปไม่ถึงฝั่งฝัน

โดยที่การมาของดาบิด บีย่า นั้นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของ อิบรา กับ ทีมบาร์ซ่าขาดกัน

ตอนนั้นทีมบาร์ซ่า ได้จบฤดูกาลนั้น ด้วยการคว้าแชมป์ ลา ลีกา แต่ สำหรับ อิบรา เขาผิดหวังมาก แต่ก็ยังอยากจะเริ่มต้นใหม่ จนกระทั่ง หลังจากเข้าช่วง ปรีซีซั่น เขาก็พบว่า ตัวเองไม่มีที่ยืนในทีม บาร์ซ่า ยุคของ เป๊ป อีกต่อไป เมื่อ ทีมไปดึง ดาบิด บีย่า เข้ามา

และเมื่อเจอหยามแบบนี้ มีหรือที่คนที่ทรนงอย่าง ซลาตัน จะทน แน่นอน เขาก็ตัดสินใจอำลา บาร์ซ่า ทันที ด้วยการย้ายมาเล่นให้กับ ทีมมิลาน ก่อนจะมาเป็น ซุปตาร์ของ ทีมเปแอสเช ในปัจจุบัน

สำหรับเรื่องนี้ คงจะเป็นเรื่องยากที่จะชี้ว่าใครเป็นคนผิด เอาเป็นว่า ทั้งสองคนเป็นพวกคนละขั้ว เคมีไม่ตรงกันมากกว่า ก็เลยแสดงออกกันคนละฝ่ายออกมาแบบนี้ ถ้ามองจากคนนอก อาจจะดูเหมือน อิบรา เป็นคนผิด เพราะว่า เขาเป็นคนที่แสดงออกมากกว่า แต่ นั่นคือสไตล์ของเขา ซึ่งผิดกับ เป๊ป ที่จะอยู่นิ่ง ๆ มากกว่า แต่ก็หมายความว่า บางเรื่องเขาก็ไม่ปฏิเสธ แม้จะไม่ได้ออกมายอมรับก็ตาม

ถึงแม้ว่าจะเกลียดเป๊ปขนาดไหนแต่ในฐานะนักฟุตบอลเขายอมรับอย่างเต็มใจว่าเป๊ปเก่งจริง

แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า อิบรา จะได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า เขาเกลียด เป๊ป มากขนาดไหน แต่ว่า ในการโหวตโปรแกรมบอลโค้ชยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ตัวเขาในฐานะกัปตันทีมชาติสวีเดน ก็เลือกให้คะแนน เป๊ป มาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่า แม้เขาจะไม่ชอบ อริรายนี้ แต่เขาก็ยอมรับว่า เป๊ป คือ ของจริง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

ก็ดูน่าสนใจนะครับ ถ้าหากทั้งคู่ นั้นจะได้กลับมาดวลกันในฐานะคู่แข่ง อีกครั้ง ภาพที่ออกมามันจะน่าตื่นตาตื่นใจ ว่าจะเป็นดราม่ากันขนาดไหนติดตามชมไฮไลท์ฟุตบอลได้ที่นี่ >>> http://sport.sanook.com/football/